คนเลี้ยงนก“กรงหัวจุก”รวมพลประกาศจุดยืนปลดล๊อคนกกรงหัวจุกออกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง
คนเลี้ยงนกกรงหัวจุก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แสดงพลัง ร่วมประกาศจุดยืน เรียกร้องปลดล๊อคนกกรงหัวจุกออกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง เรียกร้องนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพย์ฯเร่งรัดดำเนินการ คาด 2 เดือนชัดเจน
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2567 ที่สนามโรงเรียนจะนะชนูปถัมภ์ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา กลุ่มผู้เลี้ยงนกปรอดหัวโขนหรือนกกรงหัวจุกใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นับพันคน เดินทางนำนกมาร่วมประชันเสียง ภายใต้ กิจกรรม “สานฝันถอดถอนนกกรงหัวจุกไทย ”ร่วมแสดงพลัง เรียกร้องให้รัฐบาลภายใต้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งขับเคลื่อนการปลดล๊อค นกกรงหัวจุก ออกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง นายอิบรอฮีม อ้นบุตร ประธานชมรมผู้เลี้ยงนกและผู้เพาะพันธุ์นกกรงหัวจุก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ทางชมรมผู้เลี้ยงนกกรงหัวจุก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เริ่มขับเคลื่อนในการปลดล๊อค นกกรงหัวจุกมาตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา โดยได้นำรายชื่อเกือบ 2 แสนรายชื่อ ของกลุ่มผู้เลี้ยงนกและการประกอบอาชีพที่เกี่ยวเนื่องจากการเลี้ยงนกกรงหัวจุก ไปยังสภาผู้แทนราษฎร เพื่อยืนยันถึงความจำเป็นที่จะปลดล๊อค เพื่อให้นกกรงหัวจุกเป็นสัตว์เศรษฐกิจเต็มรูปแบบเป็น soft power ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยยืนยันไม่สนับสนุนการนำนกป่า มาซื้อ-ขาย หรือ นำมาเลี้ยง ทั้งนี้กลุ่มผู้เลี้ยงนกกรงหัวจุกต่างรอความหวัง ในการปลดล๊อค เพื่อที่จะพัฒนาการเลี้ยง เพื่อให้ได้นกที่มีคุณภาพ เป็นสัตว์เศรษฐกิจที่นำรายได้มาสู่ผู้เพาะเลี้ยงและอาชีพที่เกี่ยวเนื่อง
“วันนี้การเพาะเลี้ยงนกกรงหัวจุกนั้น มีการพัฒนาไปไกลมาก นกสวยงาม อย่างนกกรงหัวจุกที่มีสีขาว ที่เคยหายาก ราคาสูง ก็มีการเพาะเลี้ยงกันได้มากขึ้น ทำให้มีราคาที่จับต้องได้ โดยนกกรงหัวจุกนั้นนอกจากผู้เพาะเลี้ยง ยังมีอาชีพที่เกี่ยวเนื่องอีกจำนวนมาก ตั้งแต่เกษตรกรผู้ปลูกกล้วย ปลูกมะละกอ มาจนถึงผู้เพาะเลี้ยงหนอนนก ผู้ปลูกไม้ ผู้ทำกรงนก อาชีพตัดเย็บผ้าคลุมกรงนก อีกจำนวนมาก จึงมองว่า รัฐบาลควรจะเร่งรัดปลดล๊อคนกกรงหัวจุก เพื่อให้มาเป็นสัตว์เศรษฐกิจโดยเร็ว”นายอิบรอฮีม กล่าว
ในขณะที่พลตำรวจตรีสุรินทร์ ปาลาเร่ สส.เขต 8 สงขลาพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ขับเคลื่อนการปลดล๊อคนกกรงหัวจุก เรียกร้องไปยังนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งรัดดำเนินการปลดล๊อค เพื่อให้นกกรงหัวจุกเป็นสัตว์เศรษฐกิจ สร้างรายได้เข้าประเทศ ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาในอีก 2 เดือนจะมีความชัดเจนในเรื่องนี้
ปัจจุบัน นกกรงหัวจุกนั้นมีการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีคุณภาพมากขึ้น ทำให้ต่างชาติให้ความสนใจ ต้องการซื้อนกกรงหัวจุก แต่ติดที่ยังเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ทำให้ไม่สามารถซื้อขาย ส่งออกได้อย่างถูกต้อง โดยนกกรงหัวจุกคุณภาพ จะมีราคาหลักแสน ไปจนถึงหลายล้านบาท ทั้งนี้หลายภาคส่วนได้ร่วมกันผลักดันการถอดบัญชีนกปรอดหัวโขน ซึ่งก็คือ “นกกรงหัวจุก” ออกจากบัญชีรายชื่อสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 17 ให้เป็นสัตว์ป่าชนิดที่เพาะพันธุ์ได้ตามพระราชบัญญัติการเพาะพันธุ์สัตว์ป่า
Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=92043