|

กรมส่งเสริมการเกษตรโดยเกษตรเขต 5 สงขลา ร่วมกับ ศทอ.สงขลา สนับสนุนสารชีวภัณฑ์แก่เกษตรกรฟื้นฟูพืชหลังน้ำลด

กรมส่งเสริมการเกษตรโดยเกษตรเขต 5 สงขลา ร่วมกับ ศทอ.สงขลา สนับสนุนสารชีวภัณฑ์แก่เกษตรกรฟื้นฟูพืชหลังน้ำลด

          กรมส่งเสริมการเกษตรให้ความสำคัญกับทุกกระบวนงานที่เกี่ยวกับเกษตรกรผู้ผลิตพืช ตั้งแต่การเตรียมความพร้อมในการผลิต การผลิต การป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านการผลิตและการตลาด ตลอดจนการให้ความสำคัญกับการป้องกันและแก้ปัญหา รวมถึงการให้ความช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยพิบัติต่างๆ นายพีรพันธ์  คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า “กรมส่งเสริมการเกษตรให้ความสำคัญกับปัญหาของเกษตรกรที่มีผลกระทบจากการเกิดภัยพิบัติต่างๆ ไม่น้อยกว่าการให้ความสำคัญกับผลิตภาพที่จะเกิดขึ้น โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการติดตามแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านพืช ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์ภัยพิบัติด้านพืช กรมส่งเสริมการเกษตร (ศปภ.) และศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์ภัยพิบัติด้านพืชกรมส่งเสริมการเกษตรระดับภูมิภาค (ศปภ. ที่ 1-6) เพื่อให้การบริหารจัดการภัยพิบัติด้านพืชของกรมส่งเสริมการเกษตรสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งได้บูรณาการหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ทั้งในมิติด้านการป้องกันและลดผลกระทบ การเตรียมความพร้อมการจัดการในภาวะฉุกเฉินและการฟื้นฟูหลังเกิดภัย ตลอดจนการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยพิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้การกำกับดูแลของผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 1-6 ที่ตั้งอยู่ในทั่วทุกภูมิภาค”               เหตุน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 21พฤศจิกายน 2567 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งได้เกิดฝนตกหนักจนน้ำท่วมสูงสร้างความเสียหายแก่หลายจังหวัดอยู่หลายระลอก ศปภ. 5 สงขลา มีบทบาทในการแจ้งเตือน เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ตลอดจนสนับสนุนการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิดทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงการลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และเกษตรกรในพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันแม้ปัญหาอุทกภัยจะคลี่คลายลงแล้ว แต่การติดตามการให้ความช่วยเหลือจากภาครัฐยังคงดำเนินการต่อไปด้วยความห่วงใยและใส่ใจ นอกจากเกษตรกรที่มีคุณสมบัติได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐแล้ว ยังมีเกษตรกรทั่วไปที่ได้รับผลกระทบเพียงบางส่วน ซึ่งจำเป็นจะต้องเยียวยาและให้การช่วยเหลืออีกมาก

           นายภูวเดช  วุฒิวงศ์วัฒ  ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5จังหวัดสงขลากล่าวว่า “สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา ในฐานะศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์ภัยพิบัติด้านพืชกรมส่งเสริมการเกษตรระดับภูมิภาค ได้ดำเนินการประเมินและติดตามสถานการณ์อุทกภัย ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน จนกระทั่งถึงเดือนธันวาคม 2567 อย่างใกล้ชิด พบว่ามีความเสียหายในภาคใต้รวม 10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชุมพร  ตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พัทลุง ยะลา สงขลา สตูล และจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีเกษตรกรขอรับความช่วยเหลือ 9,060 ราย มีพื้นที่ความเสียหายด้านการเกษตรรวม 28,207.7350ไร่ วงเงินได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐ 63,037,579.73 บาท                 ศปภ. 5 สงขลา ได้ร่วมกับศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืชจังหวัดสงขลา (ศทอ.) จัดเตรียมชีวภัณฑ์เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยหลังน้ำลด โดยมีเป้าหมายผลิตชีวภัณฑ์ โดยสามารถผลิตชีวภัณฑ์ได้หลายชนิด ได้แก่ เชื้อราไตรโคเดอร์ม่า เชื้อไวรัสบาร์ซิลัสซับทีลิส (bs) ป้องกันและแก้ปัญหาโรคพืช เชื้อบิวเวอร์เรีย สายพันธุ์ต่างๆ เมตาไรเซียม แมลงหางหนีบ มวนพิฆาตและมวนเพชฌฆาต เป็นต้น ด้านนางสาวนิพวรรณ  หมีทอง ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช จังหวัดสงขลา กล่าวว่า “ศทอ.สงขลา มีแผนการผลิตเชื้อราไตรโคเดอร์มาเพื่อสนับสนุนแก่เกษตรกรหลังน้ำลด โดยเป็นหัวเชื้อจำนวน 1,590 ขวด  และ เป็นเชื้อราไตรโคเดอร์มาสดจำนวน 6,310 กิโลกรัม และข้าวสารเพื่อให้ ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชนผลิตเป็นเชื้อราไตรโคเดอร์มาสด จำนวน 700 กิโลกรัม  ซึ่งทยอยนำส่งมอบเชื้อราไตรโคเดอร์ม่าสดไปแล้วจำนวน 2,210 กิโลกรัม และอยู่ระหว่างการผลิตและจะส่งมอบอีกจำนวน 4,100 กิโลกรัม โดยเชื้อราไตรโคเดอร์ม่าที่ผลิตได้เป็นเชื้อที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันและกำจัดโรคพืชรวมทั้งสร้างความแข็งแรงให้กับพืช ซึ่ง ศทอ.สงขลา สามารถคิดค้นวิธีการผลิตจนสามารถร่นระยะเวลาในการผลิตพร้อมส่งได้ภายใน 5 วัน โดยที่เชื้อยังคงประสิทธิภาพสูงสุด”

วิธีการนำเชื้อราไตรโคเดอร์ม่าไปใช้

   1. การคลุกเมล็ด  ใช้เชื้อราไตรโคเดอร์ม่า (เชื้อสด) 1-2 ช้อนแกง (10-20 กรัม) ต่อเมล็ดพืช 1 กก. โดยคลุกเคล้าให้เข้ากันในถุงอาจเติมน้ำเล็กน้อยเพื่อให้สปอร์ของเชื้อราเคลือบติดบนผิวของเมล็ดพืชได้ดียิ่งขึ้น

   2. การรองก้นหลุมและการหว่าน  ใช้เชื้อราไตรโคเดอร์ม่า 1 กก. บวกลำละเอียด 5 กก. บวกปุ๋ยหมัก 40 กก. รองก้นหลุม ปลูกในพืชผัก พืชสวน 10-20 กรัม/ต้น  หว่านในแปลงปลูก 50-100 กรัม/ตารางเมตร และในพืชสวนหว่านใต้ทรงพุ่มในอัตรา 3-5 กก./ต้น

    3. การผสมกับวัสดุปลูก  ใช้เชื้อราไตรโคเดอร์ม่า (เชื้อสด)ที่ผสมแล้วกับวัสดุผสม 1 ส่วน กับวัสดุปลูก 4 ส่วน คลุกเคล้า ให้เข้ากันก่อนบรรจุลงในภาชนะเพาะเมล็ด เพาะกล้า

   4. การผสมน้ำฉีดพ่น ใช้เชื้อราไตรโคเดอร์ม่า (เชื้อสด) 1 กก. ต่อน้ำ 100 ลิตร โดยกวนล้างสปอร์ในน้ำ 20 ลิตรก่อนจากนั้นกรองเอาเฉพาะน้ำสปอร์เทลงถังฉีดพ่นและเติมน้ำจนเต็ม 100 ลิตร ใช้ฉีดพ่นในแปลงกล้าโคนต้นพืช และฉีดพ่นทางใบ

 

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=94621

แสดงความคิดเห็น

Share It

ความคิดเห็นล่าสุด

ข่าวมาใหม่

Find Us