|

กรมส่งเสริมการเกษตร สั่งด่วน เร่งสำรวจความเสียหาย เร่งฟื้นฟูพื้นที่การเกษตรทันทีหลังน้ำลด

         8B00D8C3-8D9B-45B8-BF0A-433436A40D4D วันนี้ (3 .. 63) นายสุพิท จิตรภักดี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า จากอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศมาเลเซีย ส่งผลให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ทำให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก ดินสไลด์ และวาตภัย ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 – ปัจจุบัน จำนวน 9 จังหวัด (สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุงตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส) 70 อำเภอ 358 ตำบล 2,318 หมู่บ้านเกษตรกรได้รับผลกระทบ จำนวน 148,554 ครัวเรือนพื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหายประมาณ 1,275,355 ไร่ ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญ ได้แก่ ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ไม้ผลนาข้าว และพืชผัก โดยเฉพาะข้าวนาปีซึ่งกำลังอยู่ในช่วงฤดูกาลผลิต และขณะนี้สถานการณ์ดังกล่าวยังไม่สิ้นสุด

        D8A6828E-56FF-43F0-A21C-2F070C7CB9C6 โดยนายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ได้สั่งการไปยังเกษตรจังหวัดทุกจังหวัดที่ได้รับผลกระทบเร่งสำรวจความเสียหาย และเตรียมการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรโดยเร็วที่สุด พร้อมให้ระดมเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรกระจายลงพื้นที่ตามอำเภอต่าง เพื่อเยี่ยมเยียนให้กำลังใจพี่น้องเกษตรกรและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งสำรวจปัญหา สอบถามความต้องการเพื่อเตรียมฟื้นฟูพื้นที่การเกษตรหลังน้ำลด และความต้องการด้านการส่งเสริมอาชีพเช่น การส่งเสริมปลูกพืชผักระยะสั้น เป็นต้น

      80B94EEC-FAD4-463E-B12A-E6A59ED04386


    ในส่วนภาคใต้ สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติ ร่วมกับอีก 14 จังหวัดภาคใต้  ได้ประสานเน้นย้ำให้จังหวัดรายงานสถานการณ์อย่างใกล้ชิด กำชับเจ้าหน้าที่ลงสำรวจพื้นที่เสียหายและเตรียมการเฝ้าระวัง หากยังมีฝนตกต่อเนื่องให้รีบรายงานทันทีสำหรับการเตรียมการฟื้นฟูพื้นที่เกษตรหลังน้ำลดนั้น ได้ให้ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักพืชจังหวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดสงขลาร่วมกับศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชนทุกอำเภอในพื้นที่ประสบภัย เตรียมผลิตเชื้อราไตรโคเดอร์มาเพื่อฟื้นฟูสวนผลไม้ ปาล์มน้ำมัน ยางพารา และไม้ยืนต้น ทันทีเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย

         2F33CE2D-E882-4EC0-91DE-3CE775F56014  ด้านมาตรการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติ กรณีเสียหายโดยสิ้นเชิงกรมส่งเสริมการเกษตรยึดหลักปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน .. 2562 โดยมีหลักเกณฑ์ช่วยเหลือเกษตรกรที่ขึันทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรไว้ก่อนเกิดภัย ตามจำนวนพื้นที่จริงที่ได้รับความเสียหาย ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ไร่ ได้แก่ ข้าว อัตราไร่ละ1,113 บาท พืชไร่ อัตราไร่ละ 1,148 บาท และพืชสวนและอื่น อัตรา ไร่ละ 1,690 บาท

        D3B6424A-FA46-4D55-9F03-0AC68370B8C9ทั้งนี้ เมื่อเกิดภัยพิบัติ และผู้ว่าราชการจังหวัดจะประกาศเขตพื้นที่การให้ความช่วยเหลือฯ เกษตรกรต้องยื่นแบบความจำนงขอรับการช่วยเหลือ (กษ 01) โดยให้ผู้นำรับรองก่อนจะมีการตรวจสอบทะเบียนเกษตรกร และพื้นที่เสียหายจริง เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป

          “ขณะนี้กรมส่งเสริมการเกษตรได้พัฒนาระบบสำหรับบันทึกข้อมูลการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยธรรมชาติขึ้นใหม่ ทันสมัย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อจะได้นำข้อมูลให้คณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอำเภอ (....) และ คณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด (....) รับรอง และส่งข้อมูลให้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรโอนเงินช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรต่อไป ทั้งนี้เกษตรกรสามารถขอความช่วยเหลือและคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตรในพื้นที่ได้ สำนักงานเกษตรอำเภอและสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้าน”  นายสุพิท กล่าวทิ้งท้าย

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=62087

แสดงความคิดเห็น

Share It

ความคิดเห็นล่าสุด

ข่าวมาใหม่

Find Us