กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติปล่อยพันธุ์สัตว์ทะเล เพิ่มรายได้กลุ่มประมงพื้นบ้าน
กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจัดกิจกรรมเพื่อสังคมปล่อยพันธุ์สัตว์ทะเล ในพื้นที่จังหวัดสงขลา เติมความสมบูรณ์และฟื้นฟูท้องทะเลอ่าวไทย พร้อมส่งเสริมกลุ่มประมงพื้นบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้น
เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 62 ที่ ชายหาดท่าเรือประมงพื้นบ้านระวะ ต.ระวะ อ.ระโนด จ.สงขลา นางเปรมฤทัย วินัยแพทย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมเพื่อสังคม การปล่อยพันธุ์สัตว์ทะเลในพื้นที่จังหวัดสงขลา ประกอบด้วย กุ้งแชบ๊วย กุ้งกุลาดำ และปูทะเลกว่า 20 ล้านตัว โดยมีหัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัดและระดับอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และชาวบ้านในชุมชนเข้าร่วมกิจกรรม
นางเปรมฤทัย วินัยแพทย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติได้ดำเนินโครงการกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) มาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อส่งเสริมรายได้ให้กับกลุ่มประมงพื้นบ้าน ส่งเสริมคุณภาพชีวิต เสริมสร้างชุมชนเข้มแข็ง เพื่อความสมบูรณ์สัตว์ทะเลในทะเลอ่าวไทย ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำหรับกิจกรรมเพื่อสังคมในครั้งนี้ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติได้จัดหาพันธุ์กุ้งรวม 10 ล้านตัว ร่วมกับกลุ่มประมงในพื้นที่เพื่อนำไปปล่อยตามแนวชายทะเล โดยแบ่งเป็นพื้นที่ตำบลระวะ อำเภอระโนด จำนวน 3 ล้านตัว ส่วนที่เหลืออีก 7 ล้านตัว จะทยอยนำไปปล่อยร่วมกับกลุ่มประมงพื้นบ้านพื้นที่อื่นตลอดแนวชายทะเลใน 4 อำเภอ คือ อำเภอระโนด สิงพระ สิงหนคร และอำเภอเมืองสงขลา
นอกจากพันธุ์กุ้งจำนวน 10 ล้านตัวดังกล่าวแล้ว ยังมีการปล่อยพันธุ์ปูม้าอีก 10 ล้านตัว โดยได้รับการสนับสนุนจากธนาคารปูม้า ซึ่งกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านระวะร่วมกันจัดตั้งขึ้น นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนลูกปูม้าอ่อนขนาดประมาณ 1 เซนติเมตร จากศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงภาคใต้ตอนล่างสงขลา ของกรมประมงอีกจำนวน 5,000 ตัว รวมจำนวนพันธุ์สัตว์ทะเลทั้งสิ้นมากกว่า 20 ล้านตัว
กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติได้ดำเนินโครงการกิจกรรมเพื่อสังคมช่วยสนับสนุนกลุ่มประมงพื้นบ้านจังหวัดสงขลาอย่างต่อเนื่องหลายโครงการ เช่น ปะการังเทียม จัดทำซั้งกอ ปล่อยพันธุ์สัตว์ทะเล สร้างธนาคารปูม้า จัดหาเครื่องมือประมง ส่งเสริมเงินทุนร้านค้าและสหกรณ์ประมงพื้นบ้าน รวมถึงจัดหาอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยการทำประมง เป็นต้น
“การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในพื้นที่เป็นนโยบายที่กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติได้ให้ความสำคัญและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การร่วมหารือ และเปิดโอกาสให้ประชาชนนำเสนอโครงการร่วมมือดำเนินโครงการทุกขั้นตอน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือในการทำงานอย่างดียิ่ง โดยในจังหวัดสงขลาได้ดำเนินการผ่านคณะทำงานไตรภาคีของจังหวัด ประกอบด้วย กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ บริษัท ผู้ประกอบการปิโตรเลียม และภาคประชาชนจากกลุ่มประมงพื้นบ้าน ครอบคลุม 4 อำเภอ คือ อำเภอระโนด สิงพระ สิงหนคร และอำเภอเมืองสงขลา ซึ่งกิจกรรมที่จัดขึ้นจะคำนึงถึงผลประโยชน์ที่จะมีต่อกลุ่มประมงพื้นบ้านและชุมชนเป็นหลักทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการจับสัตว์น้ำ ท้องทะเลมีความสมบูรณ์อย่างยั่งยืน เพิ่มจำนวนพันธุ์สัตว์ทะเล รวมทั้งช่วยประหยัดค่าน้ำมันและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในการออกเรือเพื่อไปจับสัตว์น้ำในพื้นที่ห่างไกลด้วย” นางเปรมฤทัย กล่าว
ทั้งนี้ พันธุ์กุ้งที่ปล่อยลงทะเลตามโครงการกิจกรรมเพื่อสังคมดังกล่าว กลุ่มประมงพื้นบ้านระวะ ได้มีการตกลงร่วมกันว่าห้ามจับกุ้งในพื้นที่วางซั้งกอเป็นระยะเวลาประมาณ 4 เดือน ซึ่งจะเป็นช่วงที่กุ้งเติบโต เพื่อให้การปล่อยพันธุ์สัตว์ทะเลในครั้งนี้เกิดประโยชน์สูงสุดตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=42020