|

‘จุรินทร์’ลุย นครศรีฯ-พัทลุง จี้ รมต. ส.ส.ประชาธิปัตย์ ลง พ.ท.น้ำท่วมใต้

3196FDE4-29BC-4F99-84B3-68A0BFF8F673จุรินทร์ลงพท้นที่นครศรีธรรมราช พัทลุง สั่ง รมต.และ .. ปชป.ระดมลงพื้นที่น้ำท่วมใต้ต่อเนื่อง เผยมูลนิธิ ... เสนีย์ ปราโมช ส่งถุงยังชีพเข้าพื้นที่แล้ว 20,000 ชุด

       วันที่ 6 ธันวาคม 2563 เวลา 10.00 . ที่สนามบินหาดใหญ่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์พร้อมคณะได้เดินทางมาเพื่อลงพื้นที่จังหวันครศรีธรรมราช และพัทลุง เพื่อช่วยเหลือและให้กำลังใจประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วม

    F4B2398E-77F4-4DF6-A1AF-410A4AED9853   นายจุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้ผมมาในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์มาเยี่ยมพื้นที่น้ำท่วมเพราะพี่น้องประชาชนชาวภาคใต้หลายจังหวัดประสบภัยน้ำท่วมและได้รับความเดือดร้อนมาก สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ได้มีการกำชับให้บุคลากรของพรรคทั้ง 2 ส่วนทั้งส่วนที่อยู่ในคณะรัฐบาล เช่น รัฐมนตรีต่างๆได้ลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมพื้นที่และขณะเดียวกันก็ไปร่วมแก้ปัญหาและส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้กับพี่น้องประชาชน ก่อนหน้านี้ทางรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ท่านนิพนธ์ บุญญามณี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ท่านถาวร เสนเนียม ได้ลงพื้นที่ไปก่อนหน้านี้หลายวัน

        วันนี้ได้มีโอกาสมาลงพื้นที่พบปะกับผู้ประสบภัยและเป็นกำลังใจให้ รวมทั้งมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ที่จังหวัดพัทลุงและนครศรีธรรมราช จังหวัดพัทลุงไปที่อำเภอกงหราอำเภอเมืองและพื้นที่อื่นๆ จังหวัดนครศรีธรรมราชไปที่อำเภอทุ่งสงและพื้นที่อื่นๆ สำหรับสิ่งของที่จะมอบได้นำถุงยังชีพจากมูลนิธิหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมชประมาณ 5,000 ชุด ก่อนหน้านี้มูลนิธิหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช ได้จัดถุงยังชีพไปแล้ว 15,000 ชุดให้ผู้แทนราษฎรของพรรคไปช่วยบรรเทาทุกข์ให้กับพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยในพื้นที่จนถึงขณะนี้จัดไปแล้ว 20,000 ชุด

        พรรคจะกำชับให้รัฐมนตรีของพรรคกับผู้แทนราษฎรของพรรคได้ลงพื้นให้ช่วยพี่น้องประชาชนซึ่งได้ดำเนินการไปก่อนหน้านี้แล้วและดำเนินการต่อไปโดยต่อเนื่องจนกว่าทุกข์ของพี่น้องชาวใต้จะหมดสิ้นไป

         นอกจากนี้นายจุรินทร์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นคณะกรรมการสมานฉันท์ว่าขณะนี้ประธานรัฐสภา ขอให้ฝ่ายต่างๆ ได้ส่งรายชื่อผู้ที่เกี่ยวข้องที่จะเป็นตัวแทนของทั้ง 7 ฝ่าย ไปยังสภาฯ โดยในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลได้มีการเตรียมรายชื่อไว้แล้ว 2 คนเช่นกัน สำหรับพรรคประชาธิปัตย์นั้นจะได้ส่ง นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ..บัญชีรายชื่อของพรรคฯ เป็นตัวแทนในการเข้าร่วมกับคณะกรรมการสมานฉันท์ดังกล่าว

        ผมอยากเรียกร้องทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องใช้เวทีคณะกรรมการชุดนี้เป็นเวทีในการที่จะแลกเปลี่ยน และเสนอความคิดเห็น เพื่อนำไปสู่ความร่วมมือร่วมใจในการหาทางออกให้กับประเทศร่วมกัน ซึ่งก็ยังหวังว่าสำหรับบางฝ่ายที่ยังมีความเห็นว่า ยังไม่ประสงค์ที่จะเข้าร่วม ก็อยากให้เข้าร่วมเพราะว่าตรงนี้ถือว่าเป็นเวทีกลางที่เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้ง 7 ฝ่าย ได้ไปแสดงความเห็นและหาทางออกประเทศร่วมกัน   ถ้าไปปฏิเสธเวทีนี้ก็ยังนึกไม่ออกจนถึงขณะนี้ว่าเราจะไปใช้เวทีไหน เพราะว่าเวทีนี้เป็นเวทีที่ผมคิดว่าเปิดโอกาสทุกฝ่ายมากที่สุดแล้วเวทีหนึ่งนายจุรินทร์กล่าว

       พร้อมกันนี้ยังได้ย้ำอีกด้วยว่า ตนได้มอบหมายให้ผู้แทนของพรรคฯ ไปเสนอที่ประชุมถึงวิธีการหาข้อตกลงร่วมกันโดยให้ใช้วิธีการหาฉันทามติ หรือการให้ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์เท่านั้น คือจะต้องไม่ใช้เสียงข้างมากไปบังคับเสียงข้างน้อย ทั้งนี้เพื่อให้เป็นการประชุมที่จะทำให้ความสมานฉันท์เกิดขึ้นได้จริง

       ไม่ต้องกังวลว่าฝ่ายไหนจะมากหรือน้อยกว่า เพราะแนวทางการดำเนินการผมจะได้มอบให้ผู้แทนพรรคประชาธิปัตย์ได้ไปเสนอเมื่อได้มีการประชุมแล้วว่า ต้องไม่ใช้มติเสียงข้างมากไปบังคับเสียงข้างน้อย แต่ต้องใช้มติที่เป็นฉันทามติ คือมีมติเป็นเอกฉันท์เท่านั้นจึงจะไปดำเนินการ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากกว่าบังคับคนน้อยกว่าต้องทำตาม ต้องไม่เกิดสิ่งนี้ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นมันก็สมานฉันท์ไม่ได้ ฝ่ายข้างน้อยก็จะมีความรู้สึกว่าใช้เสียงข้างมากบังคับ แต่เวทีนี้ไม่ควรเป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้นจึงอยากให้เข้าร่วม ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนก็ตามนายจุรินทร์กล่าว

        สำหรับเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ผ่านการพิจารณาขั้นรับหลักการวาระที่ 1 แล้ว และเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการในวาระที่ 2 ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 45 วัน หากผ่านการพิจารณาวาระที่ 2 แล้ว จึงจะนำกลับเข้าสู่ที่ประชุมร่วมรัฐสภาอีกครั้งเพื่อพิจารณาในวาระที่ 3 ซึ่งหากเป็นไปตามเงื่อนเวลาที่กำหนดไว้เดิมก็คาดว่าคณะกรรมาธิการจะพิจารณาแล้วเสร็จในช่วงปลายเดือนมกราคม และเดือนกุมภาพันธ์ก็น่าจะมีการนำเข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 3 ได้ และหลังจากนั้นจะต้องนำไปทำประชามติตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 256 ได้กำหนดไว้ ซึ่งจะต้องเกี่ยวพันกับกฎหมายประชามติด้วย

        ซึ่งนายจุรินทร์ระบุว่า มาถึงนาทีนี้กฎหมายประชามติยังไม่มีอะไรน่ากังวล เพราะกฎหมายดังกล่าวได้ผ่านขั้นรับหลักการในวาระที่ 1 ของสภาไปแล้ว ซึ่งจะได้เข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 2 หากกฎหมายประชามติสามารถดำเนินการได้เร็วควบคู่ไปกับการแก้รัฐธรรมนูญ โดยจะสามารถมาบรรจบการบังคับใช้ได้ในเวลาที่ใกล้เคียงกัน โดยเมื่อรัฐธรรมนูญผ่านวาระที่ 3 แล้วจำเป็นต้องทำประชามติ กฎหมายประชามติก็สามารถบังคับใช้ได้ การทำประชามติก็จะสามารถเกิดขึ้นได้

        สำหรับพรรคประชาธิปัตย์นั้น พร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่ และพร้อมผลักดันเต็มที่ที่จะให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเกิดผลสัมฤทธิ์ที่เกิดขึ้นได้จริง อะไรก็ตามที่เป็นปัญหาอุปสรรค และทำให้ต้องล่าช้าออกไปโดยไม่จำเป็น ประชาธิปัตย์ไม่สนับสนุนและไม่ประสงค์จะให้เกิดเหตุนี้ขึ้น เพราะถือว่าการแก้รัฐธรรมนูญเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภาและผูกมัดคนทั้งประเทศไว้แล้วด้วย

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=62235

แสดงความคิดเห็น

Share It

ความคิดเห็นล่าสุด

ข่าวมาใหม่

Find Us