|

‘นิพนธ์’นำชาวสงขลาร่วมบุญพิธีสมโภช “เสาหลักเมืองสงขลา” ครบรอบ 180 ปี

95C9FDFB-CA9C-467E-93AE-411694C98CEC

นิพนธ์นำชาวสงขลาร่วมบุญพิธีสมโภชเสาหลักเมืองสงขลาครบรอบ 180 ปี

           เมื่อเวลา 08.00 . วันที่ 10 มีนาคม 2565 ที่บริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา ถนนนางงาม อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีสมโภชเสาหลักเมืองและพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ตามโครงการสืบสานอัตลักษณ์เมือสงขลา (งานวันสงขลา) ประจำปี2565 โดยมี นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา หัวหน้าส่วนราชการ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และประชาชนชาวในพื้นที่ เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ด้ว           D94D85D6-6C9B-4710-BCB7-D33F904F70A4             จังหวัดสงขลาได้ประกาศให้วันที่ 10 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันที่ได้อันเชิญหลักไม้ชัยพฤกษ์ลงฝังไว้ที่กลางเมืองสงขลา เป็นวันสงขลาเพื่อระลึกถึงการสถาปนาเมืองสงขลาปัจจุบัน และมีเจตานารมณ์เพื่อให้คนมีถิ่นกำเนิด พักพิง ศึกษาเล่าเรียนและประกอบอาชีพทุกหนแห่งในปัจจุบันได้ตระหนักมีจิตสำนึก และนำมาซึ่งการรวมพลังสร้างความรัก ความสามัคคี ดำเนินกิจกรรมร่วมกันเป็นการตอบแทนบุญคุณแผ่นดินสืบไป โดยจังหวัดสงขลาได้สืบสานเจนตนารมณ์ของวันสงขลาในการรวมพลังสร้างความรัก ความสามัคคี ดำเนินกิจกรรมร่วมกันเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน โดยได้กำหนดจัดโครงการสืบสานอัตลักษณ์เมืองสงขลา (วันสงขลา) ประจำปี2565 ระหว่างวันที่ 9-11 มีนาคม 2565          3C8AAEB9-C773-478C-A97C-D541E774FA20             สำหรับเสาหลักเมืองสงขลาถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยเชื้อสายจีนทั้งในจังหวัดสงขลา และจังหวัดใกล้เคียง โดยความเป็นมาของเสาหลักเมืองสงขลา จากการศึกษาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ พบว่า เมืองสงขลาย้ายสถานที่ตั้งเมืองมาแล้ว 3 ครั้ง โดยเริ่มจากเมืองสงขลาฝั่งหัวเขาแดง ซึ่งปรากฎหลักฐานทางโบราณสถานและโบราณวัตถุหลายแห่ง แต่บ้านเมืองถูกทำลายจากภัยสงครามจนหมดสิ้น จึงย้ายเมืองมาตั้งที่ฝั่งแหลมสน แต่ต้องประสบปัญหาขาดแคลนน้ำและลักษณะภูมิศาสตร์เป็นพื้นที่ลาดชัน ไม่มีพื้นที่ราบเพียงพอในการขยายเมือง จึงย้ายเมืองอีกครั้งหนึ่งโดยข้ามทะเลมาอยู่ที่ฝั่งบ่อยาง ซึ่งเป็นเมืองสงขลาในปัจจุบัน         AE013C7A-6B94-4121-9E15-36B3F0A70D9E            โดยในสมัยรัชกาลที่ 3 และในประชุมพงศาวดารได้ระบุความตอนหนึ่งว่าครั้น วันเดือน 4 ขึ้น 10 ค่ำ เวลาเช้าเก้าโมง 1 กับ 10 นาที ได้ฤกษ์ พระยาสงขลา(เถี้ยนเส้ง) กับพระครูอัษฎาจารย์พราหมณ์ได้เชิญหลักไม้ชัยพฤกษ์ลงฝังไว้ที่กลางเมืองสงขลา เป็นเสาหลักเมือง มีปรากฎอยู่จนทุกวันนี้ซึ่งตามปฏิทินสุริยคติตรงกับวันที่ 10 มีนาคม2385 หรือเมื่อ 180 ปีมาแล้ว และจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ประเพณี วัฒนธรรมดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองสงขลา รวมทั้งการตั้งถิ่นฐานของเมืองสงขลาในอดีตอีกด้วย ภายในศาลหลักเมืองสงขลา มีองค์เทพศักดิ์สิทธิ์ที่คอยปกป้องรักษาเมืองให้พ้นภัยพิบัติต่างๆ และเป็นที่เคารพสักการะ มีองค์เทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ เสี่ยงฮ๋องเหล่าเอี๋ย เจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา พระเสื้อเมือง โบ้เชงไต่เต่พระหมอรักษา ตี่ฮู่อ๋องเอี๋ย เทพเจ้ารักษาโรค และเฉ่งจุ้ยจ้อ พระหมอเทพรักษาโรคภัยของชาวสงขลา ทั้งนี้กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนศาลหลักเมืองเป็นโบราณสถาน เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2478 และในทุกวันที่ 10 มีนาคมจะมีการจัดสมโภชเป็นประจำทุกปี

            ทั้งนี้ ภายในงานได้ดำเนินกิจกรรม ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

9710067C-6D9A-42FD-8912-59ED25578FC2

1B2368D3-8887-4C3B-86A4-72664F13D275

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=70610

แสดงความคิดเห็น

Share It

ความคิดเห็นล่าสุด

ข่าวมาใหม่

Find Us