|

ประชาธิปัตย์จะฟื้นอย่างไร? ในวันที่หมดยุคพรรคเลือกคน ประชาชนเลือกพรรค

ประชาธิปัตย์จะฟื้นอย่างไร? ในวันที่หมดยุคพรรคเลือกคน ประชาชนเลือกพรรค

การเมืองภาคใต้กับพรรคประชาธิปัตย์ คือสิ่งที่แยกกันไม่ออกจนได้รับการตั้งฉายาว่า “ส่งเสาไฟฟ้าลงก็ชนะ” จึงไม่แปลกที่การเมืองจึงกลายเป็นมรดกตกทอด พ่อหยุดแล้วส่งลูกลงแทนก็ชนะ คนมาจากที่อื่นก็ชนะ ขอเพียงแค่ผู้สมัครคนนั้นสังกัดพรรคนายชวน ก็เพียงพอสำหรับชัยชนะแล้ว

           อย่างเช่นนายศิริโชค โสภา เกิดกรุงเทพฯ แต่มาเป็นสส.เขต 7 สงขลา ตั้งแต่ปี 2544 แตกต่างจากนายวรวิทย์ หรือชื่อปัจจุบันคือนายเดชอิศม์ ขาวทอง แม้จะเกิดที่รัตภูมิในพื้นที่เขต 5 โดยตรง ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2548 นายนิพนธ์ บุญญามณี ได้รับการขยับขึ้นสมัครสส.บัญชีรายชื่อ นายเดชอิศม์ พยายามเสนอตัวขอลงแทนแต่ไม่สำเร็จเลยอกหักไปลงพรรคไทยรักไทย ได้ 30,000 กว่าคะแนน แต่ไม่ชนะประพร เอกอุรุ คนเมืองสงขลาที่ลงในนามพรรคประชาธิปัตย์

           ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ในภาคใต้เกือบทุกเขตในการส่งไม้ต่อจากพ่อสู่ลูกหลานหรือคนสนิทมาลงแทน ลงทุกครั้งก็ชนะทุกครั้ง บางคนในพื้นที่ไม่เคยเห็นหน้าในสภาไม่เคยได้ยินเสียง แต่เลือกตั้งทุกครั้งชนะทุกที ก่อนการเลือกตั้งปี 62 นายเดชอิศม์ เหมือนจะโชคดีจากการเสียชีวิตของสส.เก่าเขตนี้ และเขาได้รับการคัดเลือกเป็นผู้สมัครสส.คนใหม่ของค่ายสีฟ้า แต่ยุคนี้กระแสลุงตู่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มาแรงมาก

           ก่อนถึงวันเลือกตั้งปี 62 ไม่กี่วัน อภิสิทธิ์ ประกาศไม่เอาประยุทธ์ เหมือนฟ้าผ่ากลางหัวผู้สมัครสส.ภาคใต้หลายคน สส.สงขลาที่เคยครองมาตลอดทั้ง 8 เขต เหลือแค่ 3 หนึ่งในนั้นคือ สส.4 สมัยอย่างศิริโชค โสภา ต้องพ่ายแพ้ให้กับคนที่เคยเป็นผู้ช่วยตัวเองอย่างนายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ จากค่ายภูมิใจไทย ที่เดินสายเจาะพื้นที่มาอย่างยาวนาน แตกต่างจากนายเดชอิศม์ ที่ลงสมัยแรกในยุคที่กระแสพรรคไม่ดีแต่คะแนนกลับมาเป็นที่ 1 ของจังหวัด คอการเมืองต่างบอกว่าหากเดชอิศม์ ลงพรรคลุงตู่คงชนะมากกว่านี้หลายเท่า หรือไม่ลงประชาธิปัตย์ก็ชนะได้ไม่ยากเช่นกัน เพราะคะแนนิยมพรรคนี้ตกลงมาก

           การเลืออกตั้งในปี 2566 เที่ยวใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ยิ่งตอกย้ำว่าชาวบ้านให้ความสำคัญกับการเลือกพรรคและคนแตกต่างกันอย่างชัดเจน ศิริโชค โสภา ที่ลงแก้มือในนามพรรคเดิมอีกครั้งก็ไม่สามารถเอาชนะแชมป์เก่าได้ จนเจ้าตัวต้องประกาศเลิกเล่นการเมืองเพราะสงสารแม่ยกที่ต้องเสียน้ำตาเวลาเขาแพ้ ต่อด้วยการลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ แต่ที่เขต 5 เดชอิศม์ ชนะอีกครั้งด้วยคะแนนทิ้งห่างคู่แข่งขาดลอยเหมือนเดิม คะแนนตัวบุคคลชนะขาดแต่คะแนนพรรคแพ้แบบไม่เห็นฝุ่น

           สิ่งเหล่านี้สะท้อนอะไร สะท้อนว่าชาวบ้านให้ความสำคัญกับตัวบุคคลมากกว่าพรรค พรรคที่ชอบส่งคนที่ไม่ใช่ คนที่ใช่ลงพรรคที่ไม่ชอบ ก็แยกกันเลือกไปเลย ใครที่บอกว่าจะเข้ามาฟื้นประชาธิปัตย์ ต้องตั้งหลักคิดให้ดีๆ ว่าจะกลับมาชนะใจชาวบ้านได้อย่างไร?

#การเมืองสงขลา #ประชาธิปัตย์

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=102281

แสดงความคิดเห็น

Share It

ความคิดเห็นล่าสุด

ข่าวมาใหม่

Find Us