ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการบริหารราชการ ติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนที่สงขลา
ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการบริหารราชการแผ่นดิน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และคณะ ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา ติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดน
วันนี้ (23 เม.ย.61) ที่ ห้องประชุมมณฑลทหารบกที่ 42 ค่ายเสนาณรงค์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พลเอก อู้ด เบื้องบน ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการบริหารราชการแผ่นดิน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พร้อมด้วย พลเอก สุนทร ขำคมกุล และคณะ เดินทางมาศึกษาดูงาน พร้อมรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดน และปัญหาอื่น ๆ โดยมีผู้ที่เกี่ยวข้อง อาทิ พลเอก ชินวัตน์ แม้นเดช ที่ปรึกษา กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า , นายดลเดช พัฒนรัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา , พลเรือตรี มนตรี รอดวิเศษ รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ และรายงานสถานการณ์โดยพร้อมเพรียงกัน
ทั้งนี้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าได้รายงานในประเด็นสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยในห้วงปี 2558-2559 มีการก่อเหตุเพิ่มขึ้นร้อยละ 41 แต่ในปี 2560-2561 การก่อเหตุลดลงร้อยละ 66 ในห้วงเวลาเดียวกัน โดยมีการนำมิติแห่งคุณธรรมตามหลักศาสนาอิสลาม และมิติทางกายภาพให้ชุมชนตักวานำสู่การยุติปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ขณะที่ทัพเรือภาคที่ 2 ได้รายงานภารกิจความรับผิดชอบของกองทัพเรือภาคที่ 2 บริเวณน่านน้ำอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีไปจนถึงจังหวัดนราธิวาส ครอบคลุมพื้นที่กว่าแสนตารางกิโลเมตร โดยดูแลในเรื่องความมั่นคงในพื้นที่ อาทิ ปัญหาแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย , ปัญหาการรุกล้ำน่านน้ำไทย , ปัญหาการทำลาย/แย่งชิงทรัพยากรธรรมชาติ , ปัญหายาเสพติด , ปัญหาการค้าน้ำมันเชื้อเพลิง และสินค้าโดยไม่ผ่านศุลกากร ฯลฯ ซึ่งทัพเรือภาคที่ 2 ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และมีการเน้นย้ำศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า-ออก ออก ( PIPO) ให้สอดส่องดูแลการเข้าออกของเรือแต่ละลำอย่างเข้มงวดและใกล้ชิด เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาต่างๆ
ด้าน จังหวัดสงขลา ได้รายงานสถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่ โดยมีการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยใน 3 มิติ ได้แก่ มิติที่ 1 เป็นพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือที่เรียกว่าพื้นที่พัฒนาพิเศษเฉพาะกิจใน 4 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอจะนะ , อำเภอเทพา ,อำเภอนาทวี และอำเภอสะบ้าย้อยที่เป็นพื้นที่นำร่องในการเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านกระบวนการยุติธรรม โดยเปิดโอกาสให้อภัยต่อผู้ต้องหาที่กระทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ให้กลับตัวหันมาร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ , มิติที่ 2 เป็นพื้นที่ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเมือง การท่องเที่ยว การศึกษา และคมนาคม ประกอบด้วย พื้นที่ 3 อำเภอ คือ อำเภอหาดใหญ่ อำเภอเมืองสงขลา และอำเภอสะเดา ซึ่งมีความอ่อนไหวขณะที่ มิติที่ 3 คือ เป็นพื้นที่เฝ้าระวังทั่วไป ซึ่งที่ผ่านมาสถานการณ์ในพื้นที่ลดลง เนื่องจากทางจังหวัดสงขลามีการตรวจล้อมจับกุมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
ด้าน มณฑลทหารบกที่ 42 ได้รายงานในประเด็นการเตรียมความพร้อมด้านการบรรเทาสาธารณภัยของมณฑลทหารที่ 42 ซึ่งที่ผ่านมาจังหวัดสงขลาได้ประสบปัญหาอุทกภัยจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และมีมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีการแบ่งหน่วยและกำลังพล ร่วมกับหน่วยงานพลเรือน ภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรการกุศล และกลุ่มพลังมวลชน ในการดูแลพื้นที่ที่รับผิดชอบ โดยยึดการปฏิบัติงานภายใต้แนวคิดของกองทัพบก “ทหาร ต้องเป็นที่พึ่งประชาชนในทุกโอกาส ช่วยแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งต้องทำให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้” โดยมีแผนดำเนินการตั้งแต่ก่อนเกิดภัย ขณะเกิดภัย พร้อมร่วมฟื้นฟูหลังเกิดภัย เพื่อลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ตลอดจนทุกภาคส่วน
สุธิดา พฤกษ์อุดม สวท.สงขลา
Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=29020