ป.ป.ช.-สตง. ถกท้องถิ่นจังหวัดสงขลา ปมเงินกู้ 2,009 ล้าน ของ อบจ.สงขลา ย้ำตรวจเข้มขั้นตอน-กฎหมาย ก่อนถึงมือผู้ว่าฯสม
ป.ป.ช.-สตง. ถกท้องถิ่นจังหวัดสงขลา ปมเงินกู้ 2,009 ล้าน ของ อบจ.สงขลา ย้ำตรวจเข้มขั้นตอน-กฎหมาย ก่อนถึงมือผู้ว่าฯ
วันนี้ (26 สิงหาคม 2568) ที่ ศาลากลางจังหวัดสงขลา คณะเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานตรวจสอบระดับภาคและจังหวัด นำโดย นายปิยะวัฒน์ คุระพูล ผู้อำนวยการกลุ่มประสานการป้องกันการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 9, นายราม วสุธนภิญโญ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสงขลา และ นายวรา สัตถาวร ผอ.กลุ่มตรวจสอบและกลั่นกรองนายสุจินต์ อินทรัตน์ นักวิชาการตรวจเงินแผ่นดินชำนาญการพิเศษสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ภูมิภาคที่ 15 ได้เข้าพบ นายวิญญู สิงหเสม ท้องถิ่นจังหวัดสงขลา ในฐานะเลขานุการผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อหารือและให้ข้อเสนอแนะเบื้องต้นเกี่ยวกับกรณีที่ อบจ.สงขลาเตรียมกู้เงินจำนวนกว่า 2,009 ล้านบาท
โดยการเข้าพบครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะประเด็นด้าน ความถูกต้องตามระเบียบและกฎหมาย ซึ่งต้องตรวจสอบตามกรอบสำคัญ 2 ประการ ได้แก่
1. ประกาศคณะกรรมการกองทุนส่งเสริมกิจการ อบจ. เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การกู้เงินใหม่และการกู้ซ้ำโครงการเดิม
2. ระเบียบคณะกรรมการนโยบายกำกับหนี้สาธารณะ ที่เพิ่งประกาศแก้ไขเมื่อเดือนเมษายน 2568 ซึ่งเน้นความเข้มงวดในการทำประชาคมและการเสนอเรื่องต่อผู้ว่าราชการจังหวัด
ทั้งนี้ ป.ป.ช. และ สตง. ได้ให้ข้อสังเกตกับท้องถิ่นจังหวัดว่า หากขั้นตอนการทำประชาคมหรือเอกสารประกอบการกู้เงินไม่ถูกต้องครบถ้วน อาจส่งผลให้กระบวนการชะลอออกไปโดยไม่มีกำหนด ซึ่งจะมีผลต่อการพิจารณาของผู้ว่าราชการจังหวัดและการเสนอเรื่องไปยังส่วนกลาง ด้านนายราม วสุธนภิญโญ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสงขลา ระบุว่า การหารือในครั้งนี้เป็นเพียง “ข้อเสนอแนะเชิงป้องกัน” เพื่อให้หน่วยงานท้องถิ่นใช้เป็นแนวทาง ไม่ใช่การสั่งห้ามหรือแทรกแซงการทำงานของ อบจ. และ ย้ำว่า หากในอนาคตพบว่ากระบวนการกู้เงินไม่เป็นไปตามกฎหมาย ป.ป.ช. มีอำนาจตรวจสอบเชิงลึกและดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้เกี่ยวข้องได้ แต่ขณะนี้เพิ่งเข้าสู่กระบวนการเริ่มต้น เลยต้องบอกว่าความเสียหายยังไม่เกิดเพราะเงินที่ขอกู้ก็ยังไม่ได้ ที่ทำได้คือการกำชับและเฝ้าระวังไปพร้อมๆกันเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายในอนาคต ส่วนขั้นตอนต่อไปก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดในการพิจารณาอย่างไรต่อไป
ขณะที่ นายสุจินต์ อินทรัตน์ จาก สตง. ภาค 15 ชี้ว่า เอกสารประกอบการกู้ โดยเฉพาะหลักฐานการทำประชาคมของประชาชน เป็นหัวใจสำคัญที่ อบจ.สงขลาต้องส่งให้ครบถ้วน หากขาดตกบกพร่อง อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อความถูกต้องและความชอบธรรมของการกู้เงิน
อย่างไรก็ตาม สำหรับขั้นตอนในฝั่ง อบจ. สงขลา ขณะนี้สภา อบจ. ได้มีมติอนุมัติโครงการไปแล้ว แต่ยังอยู่ระหว่างการจัดทำและส่งเอกสารให้จังหวัดพิจารณา ก่อนจะเข้าสู่การกลั่นกรองระดับผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งถือเป็นด่านสำคัญว่าจะ “ไฟเขียว” หรือ “ชะลอ” การกู้ครั้งประวัติศาสตร์วงเงินกว่า 2 พันล้านบาทนี้
Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=100947