ภาคีเครือข่ายป้องกันปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพและสังคม
ภาคีเครือข่ายป้องกันปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพและสังสม ออกแถลงการณ์พร้อมยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯสงขลา เรียกร้อง 3 ข้อ หลังเกิดเหตุ อส.กร่านยิงสนั่นร้านข้าวต้ม กลางเมืองหาดใหญ่
วันนี้ 24 ธ.ค.67 ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ภาคีเครือข่ายป้องกันปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพและสังคม รวมตัวอ่านแถลงการณ์ และยื่นหนังสือปิดผนึกถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา โดยมีนายชาญวิทูร สุขสว่างไกร ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าสงขลาเป็นตัวแทนยื่นหนังสือผ่านทางนายรุ่งโรจน์ และสุบ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา เป็นผู้รับมอบ
โดยเนื้อหาในแถลงการณ์กล่าวขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง พร้อมทั้งขอส่งกำลังใจให้กับครอบครัวผู้สูญเสียและผู้บาดเจ็บทุกท่าน จากเหตุการณ์การยิงในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เวลา 22.00 น. ดังปรากฏจากข่าว ซึ่งนับเป็นเหตุการณ์สะเทือนใจที่ประชาชนจังหวัดสงขลา ประชาชนชาวไทยล้วนเศร้าสลดใจ และขอส่งกำลังใจให้ทั้งกับบุคลากรองค์กร ที่ได้ทุ่มเทให้การช่วยเหลือผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และสูญเสีย จากเหตุการณ์ดังกล่าว ที่ปรากฏว่าผู้ก่อเหตุ คือสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา ได้ใช้อาวุธปืนยิงลูกค้าภายในร้าน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย มีเด็ก และสตรี รวมอยู่ด้วย ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชน เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เครือข่ายป้องกันปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ ขอประณามการกระทำที่ใช้ความรุนแรง ในครั้งนี้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่งชี้ได้ชัดเจนว่า พฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นต้นเหตุ ทำให้ผู้ก่อเหตุขาดสติ และกระทำเหตุอันเป็นอันตรายต่อสังคม อีกกี่ชีวิต อีกกี่ครอบครัว อีกกี่เหตุการณ์ ที่จะได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (เครื่องดื่มเปลี่ยนคนให้เป็นปีศาจ) ขอให้เหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นเหตุการณ์สุดท้าย ที่จะเกิดกับสังคมไทย และนำไปสู่บทเรียนเพื่อแก้ไขปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต และร่วมด้วยช่วยกันปลุกสังคมให้ตื่นรู้ ถึงภัยเงียบของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ในการนี้เครือข่ายฯ ได้มีข้อเสนอ ดังนี้
1. การกำกับดูแลการพกพาอาวุธของเจ้าหน้าที่รัฐ ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาออกมาตรการ และดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม ในการควบคุมการพกพาอาวุธในพื้นที่สาธารณะ ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด มีการกำหนดหลักเกณฑ์และมาตรการตรวจสอบที่เข้มงวดต่อการใช้อาวุธของเจ้าหน้าที่รัฐ
2. การควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรบังคับใช้พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเคร่งครัด กำหนดมาตรการและแนวทางอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อลดการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่สาธารณะและพื้นที่เสี่ยง
3. การสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กและเยาวชน ส่งเสริมการสร้างพื้นที่ปลอดภัยในชุมชน เพื่อป้องกันผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และพฤติกรรมเสี่ยงทสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับภัยจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสังคมอย่างกว้างขวาง
เนื่องจากผู้ก่อเหตุในกรณีนี้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ภาคีเครือข่ายฯ ขอเรียกร้องให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนและเป็นตัวอย่างในการป้องปรามการกระทำผิดในอนาคต นอกจากนี้ ควรมีมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบและครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างเหมาะสมและทั่วถึง
Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=93559