มรภ.สงขลา รับลูก วช. พัฒนาระบบบริหารความปลอดภัยห้องปฏิบัติการ

มรภ.สงขลา รับลูก วช. พัฒนาระบบบริหารความปลอดภัยห้องปฏิบัติการ พร้อมจับมือ ม.หาดใหญ่ มหาวิทยาลัยแม่ข่าย ร่วมสร้างมาตรฐาน ลดความเสี่ยงผู้ปฏิบัติงาน

ผศ.ดร.นิวัต กลิ่นงาม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) กล่าวระหว่างเปิดการอบรมพัฒนาระบบบริหารจัดการความปลอดภัยห้องปฏิบัติการ ตามข้อกำหนดของคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ณ งานศูนย์เครื่องมือกลาง มรภ.สงขลา เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ปัจจุบันมีห้องปฏิบัติการกระจายอยู่ในมหาวิทยาลัยเป็นจํานวนมาก ทั้งที่ใช้เพื่อการศึกษาวิจัย การเรียนการสอน และการบริการวิชาการ แต่ห้องปฏิบัติการจํานวนหนึ่งยังไม่มีระบบที่ดี ในการดูแลความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน หรืออาจมีระบบในการบริหารจัดการอยู่แล้วแต่ยังไม่ทราบว่า ห้องปฏิบัติการควรมีความปลอดภัยในระดับใด จึงรู้สึกยินดีอย่างยิ่งเมื่อทราบว่าสํานักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้จัดทําระบบการลงทะเบียนห้องปฏิบัติการ และระบบประเมินระดับความปลอดภัย ซึ่งจะช่วยยกระดับห้องปฏิบัติการในมหาวิทยาลัยให้ได้มาตรฐานมากยิ่งขึ้น ทั้งยังส่งผลให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้ปฏิบัติงาน ลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายในรูปแบบต่างๆ

ด้าน ผศ.ดร.ทวีสิน นาวารัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ มรภ.สงขลา กล่าวว่า วช. มีนโยบายให้เกิดการจัดการความปลอดภัยขึ้นในห้องปฏิบัติการ โดยได้ดำเนินงานโครงการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยห้องปฏิบัติการวิจัยในประเทศไทย ซึ่งในส่วนของภูมิภาคภาคใต้ มีมหาวิทยาลัยแม่ข่าย 2 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ และ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ รับผิดชอบในการยกระดับห้องปฏิบัติการของมหาวิทยาลัยลูกข่ายแห่งละ 5 มหาวิทยาลัย โดยมหาวิทยาลัยหาดใหญ่รับผิดชอบ มรภ.สงขลา มรภ.ยะลา มรภ.นครศรีธรรมราช มรภ.ภูเก็ต และ มรส. (มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษภร์ธานี) เพื่อให้ทราบเกี่ยวกับแนวทางการจัดการความปลอดภัยของห้องปฏิบัติการกับการจัดสรรทุนวิจัย วช. ตลอดจนวิธีการที่ถูกต้องในการลงทะเบียนห้องปฏิบัติการ สถานภาพเบื้องต้นของห้องปฏิบัติการวิจัยที่ปฏิบัติงานด้วยการประเมินด้วยการทํา Checklists ในระบบ ESPReL ของ วช. รวมถึงมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมระบบการจัดการด้านความปลอดภัยของห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวกับสารเคมี (มอก.2677-2558) และ การนําความรู้ไปใช้พัฒนาห้องปฏิบัติการให้มีความปลอดภัยแก่ผู้ปฏิบัติงาน

ผศ.ดร.ทวีสิน กล่าวอีกว่า วช. ดำเนินงานโครงการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยห้องปฏิบัติการวิจัยในประเทศไทย หรือ ESPReL 3 ระยะมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 เพื่อส่งเสริมให้นักวิจัยเกิดความตระหนักเรื่องความปลอดภัย การสร้างบรรยากาศและสภาพแวดล้อมต่างๆ ตลอดจนการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรทุกระดับที่เอื้อให้เกิดการพัฒนาเรื่องนี้อย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยในปีงบประมาณ 2558 ได้ดำเนินโครงการมาตรฐานความปลอดภัยห้องปฏิบัติการวิจัยในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนายกระดับความปลอดภัยห้องปฏิบัติการวิจัยของมหาวิทยาลัยให้มีนโยบายความปลอดภัยห้องปฏิบัติการอย่างเป็นรูปธรรมทั่วทั้งองค์กร ตั้งแต่ระดับของมหาวิทยาลัยไปจนถึงระดับห้องปฏิบัติการ โดยมีมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ 9 แห่ง เป็นเป้าหมายหลักในการพัฒนา

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=45609