|

มรภ.สงขลา ลงนามความร่วมมือ สอวช.-ราชภัฏ 38 แห่ง 
พัฒนานโยบายและข้อริเริ่มเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนามหาวิทยาลัยราชภัฏ เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ

D84F6144-1AEE-4A93-BD52-4148F1A401D1มรภ.สงขลา ลงนามความร่วมมือ สอวช.-มหาวิทยาลัยราชภัฏ 38 แห่ง พัฒนานโยบายและข้อริเริ่มเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนามหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ ชี้ใช้จุดแข็งด้านความใกล้ชิดท้องถิ่น มีทรัพยากรบุคคลและองค์ความรู้ในสาขาที่หลากหลาย เป็นกลไก ขับเคลื่อนสร้างความเข้มแข็ง

           เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 รศ.ดร.ทัศนา ศิริโชติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนานโยบายและข้อริเริ่มเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนามหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ ร่วมกับสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) และ มหาวิทยาลัยราชภัฏ 38 แห่งทั่วประเทศ ผ่านระบบ zoom โดยมี พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี เป็นประธานกิตติมศักดิ์และ .(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ         CAC0D830-FAEE-4F20-A07C-91E22F83AF6A            ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยราชภัฏถือได้ว่าเป็นสถาบันอุดมศึกษากลุ่มหลักในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และทรัพยากรมนุษย์ ตั้งแต่ในระดับชุมชนท้องถิ่นจนถึงในระดับพื้นที่ภูมิภาค ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศ โดยอาศัยจุดแข็งที่โดดเด่นทั้งในด้านตำแหน่งที่ตั้งที่กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ มีทรัพยากรบุคคลและองค์ความรู้ในสาขาที่หลากหลาย ทั้งยังมีประสบการณ์การทำงานอย่างมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ และมีความใกล้ชิดกับชุมชนท้องถิ่นมาเป็นระยะเวลานาน ดังนั้น เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้มหาวิทยาลัยราชภัฏ เป็นกลไกขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งแก่รากฐานของการพัฒนาประเทศ ที่เหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นที่ภูมิภาค สอวช. กับมหาวิทยาลัยราชภัฏ จึงได้ตกลงร่วมมือดำเนินการพัฒนานโยบายและข้อริเริ่มเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนามหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ           B86C7536-DE88-47BF-A3B3-594B696D5C0E               พลเอก ดาว์พงษ์ กล่าวว่า มีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำงานร่วมกับราชภัฏ ขอบคุณในความทุ่มเททำงานสิ่งที่อยากจะให้ข้อสังเกตเพิ่มเติมคือ 1. เน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องการจัดทำแผน เพราะคงเป็นเรื่องยากแน่นอน 2. ในการทำยุทธศาสตร์ต้องคิดนอกกรอบ แต่ต้องเคารพกฎกติกา การขับเคลื่อนแนวคิดต้องมีการอธิบาย ขยายความให้ชัดเจน อย่าใช้ศัพท์ที่เป็นทางการจนยากแก่การทำความเข้าใจ3. ต้องให้ความสำคัญกับการผลิตครู และนึกถึงคณะอื่น ด้วย ต้องไปด้วยกัน มีแผนพัฒนาทิศทางที่จริงจังและชัดเจน นำไปสู่ท้องถิ่น 4. วิศวกรสังคม คือ การพัฒนานักศึกษา สร้างเยาวชน ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ต้องคิดต่อ ยอด เรื่องแผนไม่อยากให้เป็นแค่กระดาษ แต่อยากให้ทำอย่างจริงจัง อยากให้ท่านอธิการฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเริ่มต้นจากการจัดทำแผนที่ดี ควรให้ความสำคัญกับการแผน 5 ปี และต้องระดมความเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แผน 5 ปีต้องชัดเจน ต้องนึกถึงสารตั้งต้น เช่น พระบรมราโชบายด้านการศึกษา แผนยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏ ที่มีอยู่เดิมแล้ว เป็นต้น

          ต้องขอขอบคุณทางกระทรวง อว. และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน ที่สำคัญคืออธิการราชภัฏทั้ง 38 แห่งที่มาร่วมกันในวันนี้ ผมมีความสุขและสนุกที่ครั้งที่ได้ทำงานร่วมกับราชภัฏ และไม่เคยลืมสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านรับสั่งไว้ว่า ให้แนะนำมหาวิทยาลัยราชภัฏให้ทำงานให้เข้าเป้าในการยกระดับการศึกษาและพัฒนาท้องถิ่นในท้องที่ตนพลเอก ดาว์พงษ์ กล่าว          BA4FFBB3-567A-4047-B3CF-2BCC0F14949F             ด้าน .(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติและปลื้มใจที่ได้มาทำพิธีลงนามในวันนี้ สิ่งที่เราทำเป็นการตอกย้ำให้มหาวิทยาลัยราชภัฏทั้ง 38 แห่งได้เชื่อมั่นว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและรัฐบาลให้ความสำคัญและบทบาทกับราชภัฏในการตอบโจทย์พัฒนาประเทศ เมื่อมีนวัตกรรม มีแผนพัฒนาเกิดขึ้น เรายิ่งต้องทำต่อไปซ้ำ ตอกย้ำไปเรื่อย การทำแผนพัฒนานโยบายราชภัฏต้องเขียนเพื่อจะชนะ แม้ว่าการชนะนั้นอาจจะมีความบกพร่องในบางเรื่องก็ตาม แต่ต้องชนะเพื่อร่วมตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ

AEAFD037-E506-419A-9EEB-12AFDE350051

E0C5B99B-750C-486C-9944-142155F89ACB

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=69018

แสดงความคิดเห็น

Share It

ความคิดเห็นล่าสุด

ข่าวมาใหม่

Find Us