ม.อ. จับมือ 7 บริษัท ประชารัฐรักสามัคคี เพิ่มขีดความสามารถชุมชนท้องถิ่น สร้างความยั่งยืนมั่นคง
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และ 7 บริษัท ประชารัฐรักสามัคคี (วิสาหกิจเพื่อสังคม) ซึ่งประกอบด้วยบริษัท ประชารัฐรักสามัคคีจังหวัดตรัง สงขลา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ณ ห้องประชุมเจ้าฟ้า สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต เมื่อวันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม 2562 โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ประธานและกรรมการบริษัทประชารัฐรักสามัคคีฯ ทั้ง 7 จังหวัด ร่วมกันลงนามในบันทึกข้อตกลงทางวิชาการ และมี นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ศาสตราจารย์นายแพทย์จรัส สุวรรณเวลา นายกสภามหาวิทยาลัย นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและที่ปรึกษาสภามหาวิทยาลัย นายบัญญัติจันทน์เสนะ ประธานคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์และสื่อมวลชนร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามครั้งนี้
นายบัญญัติ จันทน์เสนะ ประธานคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดทำบันทึกข้อตกลง ว่า บันทึกข้อตกลงที่จัดทำร่วมกันในวันนี้เพื่อพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ให้มีความยั่งยืนและมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจสังคม ทรัพยากร ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ โดยกระบวนการการมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชนภาคสังคม ภาคท้องถิ่น และภาควิชาการ เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างเป็นระบบ โดยมุ่งเน้นด้านการศึกษา เพื่อสร้างคนให้เป็นคนดี คนเก่ง และมีคุณธรรม ให้พร้อมสำหรับวิถีชีวิตในศตวรรษที่ 21 และเพิ่มขีดความสามารถของชุมชนท้องถิ่น ในการพัฒนาการบริหารจัดการ และการพึ่งพาตนเองเพื่อให้เกิดสังคมที่มีคุณภาพในท้องถิ่นต่างๆ ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดียิ่งที่ มหาวิทยาลัยได้ร่วมลงนามความร่วมมือกับ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีฯ จำกัด ทั้ง 7 จังหวัด ซึ่งมีเจตนารมณ์ร่วมกันที่จะเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน และพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ให้มีความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจต่อไป
ด้าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีพันธกิจหลักที่สำคัญ คือ การสร้างความเป็นผู้นำทางวิชาการและนวัตกรรม โดยมีการวิจัยเป็นฐานเพื่อการพัฒนาภาคใต้และประเทศไทยโดยมหาวิทยาลัยมีความพร้อมในการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานทุกภาคส่วน ซึ่งจะก่อให้เกิดการมีส่วนร่วมในด้านการลงทุน การบริหารจัดการในโครงการต่างๆ โดยจะร่วมกันจัดทำแผนและโครงการต่างๆ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทุกช่วงวัยพร้อมทั้งพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถของคนเพื่อเป็นหลักในการสร้างความเข้มแข็งระดับฐานรากของประเทศ และร่วมกันสร้างองค์ความรู้ และนวัตกรรมจากการวิจัย และนำองค์ความรู้ดังกล่าวไปบริหารจัดการให้เป็นประโยชน์ต่อการจัดทำเศรษฐกิจชุมชน เพื่อสร้างชุมชนเข้มแข็งและมีความสุขอย่างยั่งยืน ซึ่งได้แต่งตั้งคณะทำงานจัดทำความร่วมมือ MOU ระหว่างมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ร่วมกับบริษัทประชารัฐในจังหวัดที่มีวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เป็นรูปธรรมได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ขณะที่ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและที่ปรึกษาสภามหาวิทยาลัย กล่าวถึงความร่วมมือของทั้ง 2 ฝ่าย ว่า การแก้ปัญหาและการพัฒนาประเทศ ตัวชี้ขาดอยู่ที่การทำให้ชุมชนท้องถิ่นซึ่งเป็นฐานรากของประเทศมีความเข้มแข็ง มหาวิทยาลัยจึงมีภารกิจสำคัญคือการสร้างและใช้ปัญญา ความรู้ทางวิชาการ เข้าไปช่วยทั้งเรื่องการพัฒนาศักยภาพคน และการปรับกระบวนการทำงานให้มีทั้งกระบวนการเรียนรู้และกระบวนการมีส่วนร่วมในระดับพื้นที่ การเกิดความร่วมมือทางวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์กับบริษัท ประชารัฐรักสามัคคี วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด” ทั้ง 7 จังหวัด ในครั้งนี้ ถือเป็นแนวทางที่ถูกต้องแล้ว และถ้าสามารถผลักดันให้เกิดรูปธรรมความสำเร็จ ก็จะเป็นแบบอย่างที่รัฐบาลจะนำไปผลักดันเป็นนโยบายให้สถาบันอุดมศึกษาต่างๆ ทำงานลักษณะนี้ให้มากขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นผลดีต่อการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงเรื่องสุขภาพด้วย
ทั้งนี้ การดำเนินงานภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการนี้ จะมีการตกลงกันในรายละเอียดและแผนการดำเนินงานในแต่ละโครงการต่อไป โดยบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้มีกำหนด 5 ปี นับแต่วันลงนาม
Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=44158