รองผู้ว่าฯ สงขลา กำชับทุกหน่วยงาน เร่งรัดการใช้จ่ายเงินงบประมาณ ปี 62 ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ
รองผู้ว่าฯ สงขลา กำชับทุกหน่วยงาน เร่งรัดการใช้จ่ายเงินงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ 2562 ตามมาตรการด้านการงบประมาณเพื่อการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ และแผนแม่บทได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทันตามกำหนด และเกิดประโยชน์สูงสุด
วานนี้ (11 ก.ค. 62) ที่ห้องประชุม CEO ศาลากลางจังหวัดสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายราชิต สุดพุ่ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานการประชุมติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายเงินงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ 2562 ครั้งที่ 4 / 2562 โดยมีผู้ที่เกี่ยวข้อง อาทิ นางมัลลิกา อัพภาสกิจ คลังจังหวัดสงขลา , นายธีระเทพ เทพสุยะ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสงขลา ฯลฯ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน
นายราชิต สุดพุ่ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี ได้มีมติเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2561 เห็นชอบมาตรการด้านการงบประมาณเพื่อการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ และแผนแม่บท โดยกำหนดเป้าหมายการใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่าย ประจำปีประมาณ พ.ศ.2562 (ไม่รวมงบกลาง) ประกอบด้วย การใช้จ่ายรายจ่ายภาพรวม รายจ่ายลงทุน และรายจ่ายประจำ ร้อยละ 100 ของเงินงบประมาณ ซึ่งทางกรมบัญชีกลางได้แจ้งว่า ขณะนี้เข้าสู่ไตรมาสที่ 4 ของปีงบประมาณ พ.ศ.2562 ซึ่งเหลือระยะเวลาในการดำเนินการก่อหนี้ และเบิกจ่ายเงินงบประมาณประมาณ 3 เดือน คือ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-เดือนกันยายน 2562 จึงได้กำชับเจ้าหน้าที่ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการ เพื่อเร่งรัดการดำเนินการในการก่อหนี้ และเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จ ภายในเดือนกันยายน 2562 เพื่อไม่ให้เงินงบประมาณถูกพับไป
สำหรับหน่วยงานที่ดำเนินการโครงการก่อหนี้ครบทุกโครงการ/รายการ หรือดำเนินการบรรลุวัตถุประสงค์ตามเป้าหมายผลผลิตที่ได้รับจัดสรรงบประมาณแล้วมีเงินมีเงินงบประมาณเหลือจ่ายจากการใช้วงเงินได้ต่ำกว่าวงเงินที่ได้รับจัดสรร และยังมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายจากเงินงบประมาณเหลือจ่ายดังกล่าว เพื่อให้ดำเนินโครงการ/รายการที่ไม่ได้รับการจัดสรรประมาณ หรือได้รับจัดสรรงบประมาณไม่เพียงพอ โดยให้กำชับเจ้าหน้าที่เร่งโอนเปลี่ยนแปลงรายการ เพื่อไปดำเนินโครงการรายการที่มีความจำเป็นดังกล่าว โดยปฏิบัติตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งก่อหนี้ และเบิกจ่ายงบประมาณให้แล้วเสร็จโดยเร็วต่อไป
ข่าว-สุธิดา พฤกษ์อุดม / สวท.สงขลา
ภาพ-โปรดปราน บุญธรรม / KTSLive.com
Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=43659