|

ศึกษาธิการจังหวัดสงขลา ชี้แจงกรณีที่มีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อ “แม่ใจจะขาด ลูกสาวถูกครูโหดกระหน่ำตี เหตุเพราะรำมโนราห์ผิดท่าฯ” นำทีมสหวิชาชีพลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริง พร้อมร่วมกำหนดแผนให้ความช่วยเหลือเด็กอย่างต่อเนื่อง

ศึกษาธิการจังหวัดสงขลา ชี้แจงกรณีที่มีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อแม่ใจจะขาด ลูกสาวถูกครูโหดกระหน่ำตี เหตุเพราะรำมโนราห์ผิดท่าฯนำทีมสหวิชาชีพลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริง พร้อมร่วมกำหนดแผนให้ความช่วยเหลือเด็กอย่างต่อเนื่อง

            นางสาวชนภรณ์  อือตระกูล ศึกษาธิการจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อโทรทัศน์ และสื่อออนไลน์แม่ใจจะขาด ลูกสาวถูกครูโหดกระหน่ำตีเหตุเพราะรำมโนราห์ผิดท่า ขอลาออกจากวงทำครูโกรธ สั่งรุ่นพี่ผู้ชายตบที่ใบหน้าหลายครั้งจนหูอื้อ ลั่นเอาเรื่องให้ลาออกจากความเป็นครูนั้น โดยเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 ทางศึกษาธิการจังหวัดสงขลา ร่วมกับ นักสังคมสงเคราะห์ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสงขลา , นักสังคมสงเคราะห์ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสงขลา และเจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดสงขลา ได้ลงพื้นที่เพื่อสอบข้อเท็จจริง พร้อมเยี่ยมบ้านเพื่อสืบเสาะ และพินิจ ประเมินสภาพครอบครัว ให้คำปรึกษา แนะนำบทบาทภารกิจ และให้กำลังใจแก่เด็ก ทั้งนี้ได้ร่วมกันกำหนดแนวทางในการให้ความช่วยเหลือเรื่องต่าง ดังนี้

            นักสังคมสงเคราะห์ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสงขลา นำเด็กพบจิตแพทย์เด็กเพื่อประเมินสุขภาพจิต แพทย์ได้วินิจฉัยว่าเด็กได้รับผลกระทบกระเทือนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขั้นรุนแรง และได้ให้ยารับประทาน เพื่อรักษาอย่างต่อเนื่อง และจะติดตามอาการอย่างเป็นระยะ , เจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดสงขลา ได้แจ้งสิทธิกรณีขอรับเงินเยียวยาผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา ส่วนแผนการให้ความช่วยเหลือ นักสังคมสงเคราะห์ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสงขลา ประสานนักจิตวิทยาตามประมวลกฎหมายปวิอาญา เพื่อเข้าร่วมสอบปากคำเด็กในฐานะพยานในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 , ประสานโรงเรียนเพื่อร่วมกำหนดมาตรการเรื่องความปลอดภัยของนักเรียนคนดังกล่าว เนื่องจากเด็กมีความประสงค์จะกลับไปโรงเรียนในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อเตรียมตัวสอบ , ประสานโรงเรียนแห่งใหม่ที่นักเรียน และพี่ชาย มีความประสงค์จะย้ายไปศึกษาต่อในระดับชั้น .3 , ดำเนินการนำข้อมูลของเด็กเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการสหวิชาชีพคุ้มครองเด็กจังหวัดสงขลา เพื่อร่วมกันกำหนดแผนให้ความช่วยเหลือเด็กและอื่น ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว และจะดำเนินการติดตามเด็กในด้านต่าง อย่างต่อเนื่อง จนยุติการให้บริการต่อไป

           อย่างไรก็ตาม ในส่วนของโรงเรียนที่ปรากฏเป็นข่าว เนื่องจากเป็นโรงเรียนเอกชน อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดสงขลา ซึ่งได้ส่งนิติกรลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และเบื้องต้นได้รายงานข้อมูลไปยังหน่วยงานต้นสังกัดเพื่อพิจารณาดำเนินการ ส่วนด้านคดีความเป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=77792

แสดงความคิดเห็น

Share It

ความคิดเห็นล่าสุด

ข่าวมาใหม่

Find Us