ศูนย์ประสานงานสำนักจุฬาฯ ภาคใต้ จับมือ กลุ่มคนช่วยฅน (มูลนิธิ) ช่วยเหลือคนยากไร้ ที่ได้รับผลกระทบจากพิษของโรคระบาด COVID 19
ศูนย์ประสานงานสำนักจุฬาราชมนตรีประจำภาคใต้ สภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สำนักจุฬาราชมนตรี ร่วมกับ กลุ่มคนช่วยฅน (มูลนิธิ) ได้กำหนดเป้าหมายร่วมกันว่าจะเร่งดำเนินการแจกหน้ากากอนามัยจำนวน 5,000 ชิ้น อาหารกล่อง 1,000 ชุด ถุงเมตตา (ยังชีพ) 300 ชุด เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือคนเปราะบางทางสังคม ได้รับผลกระทบจากพิษของโรคระบาด COVID 19 และที่ยิ่งทวีความเดือดร้อนรุนแรงขึ้นกว่าคนปกติ
โดยเมื่อวันที่ 9 เม.ย. 63 ที่ผ่านมา ได้ร่วมกันลงพื้นที่ช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ป่วยและญาติ ณ อาคารเย็นศิระ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ วัดโคกนาว ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยมะเร็งที่ต้องรับการฉายแสงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้ร่วมกันนำเงินและสิ่งของส่วนหนึ่งไปมอบ ดังนี้ เงินสดจำนวน 15,000 บาท, อาหารกล่อง 150 กล่อง, แมสผ้ามัสลิน จำนวน 200 ชิ้น และน้ำดื่ม 150 ขวด พร้อมทั้งยังได้ส่งมอบแอลกอฮอล์ และหน้ากากอนามัยจำนวนหนึ่งให้กับวัดโคกนาวอีกด้วย
ทั้งนี้ ดร.วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ ได้แจกจ่ายให้กับผู้ป่วย อีกส่วนหนึ่งได้มอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ โดยมีนางสาวมณฑาทิพย์ โอสถาน เจ้าหน้าที่นักสังคมสงเคราะห์ รพ.ม.อ. เป็นผู้รับมอบ นายมะสุกรี สีอน เจ้าหน้าที่พนักงานบริการเป็นตัวแทนรับมอบ
นายอิสม่าแอน หมัดอะด้ำ ประธานกลุ่มคนช่วยฅน เปิดเผยว่า กลุ่มคนช่วยฅนซึ่งมีนโยบายหลักเพื่อช่วยเหลือกลุ่มคน ยากไร้ ที่ต้องการความช่วยเหลือ ทั้งในรูปแบบของการช่วยเหลือสร้างบ้าน การแจกจ่ายอาหาร ให้กับคนยากไร้ ซึ่งในช่วงสถานการณ์วิกฤตเชื้อไวรัสโคโรน่านี้ กลุ่มคนสร้างฅนมีมติร่วมกันว่า ต้องช่วยเหลือ ในทุกด้านที่มีความจำเป็นแก่กลุ่มคนยากไร้ จึงเป็นที่มาของกิจกรรมแจกจ่ายอาหาร หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ ให้กับกลุ่มที่มีความจำเป็น หรือกลุ่มคนที่ต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งผู้ที่มาใช้บริการอาคารเย็นศิระนั้น กลุ่มคนช่วยฅน เห็นว่าเรื่องอาหารเป็นความจำเป็นพื้นฐาน ทั้งของผู้ป่วยไร้ญาติ ซึ่งแน่นอนว่ากลุ่มคนเหล่านี้ได้รับผลกระทบจากความเจ็บป่วย ทั้งทางด้านร่างกาน จิตใจ ขณะเดียวกัน ท่ามกลางสภาวะวิกฤตของโรคเชื้อไวรัสโคโรน่า อาหารจึงเป็นความจำเป็นยิ่ง สำหรับ ผู้ป่วยและญาติ และเพื่อลดค่าใช้จ่ายและผลกระทบที่ได้รับจากวิกฤตในครั้งนี้
“จากการสังเกตกลุ่มคนที่ได้รับมอบของบริจาคในครั้งนี้ เห็นว่าสายตาของคนส่วนใหญ่นั้นมีความภาคภูมิใจ ที่สังคมไม่ทอดทิ้ง และผู้ที่เป็นมุสลิมก็จะกล่าวคำขอบคุณตามหลัก ศาสนา ขณะเดียวกันกลุ่มคนช่วยคน ทุกคนต่างก็มีหัวใจที่ อิ่มเอม ที่ได้มีส่วนทุเลาความเดือดร้อนของพี่น้องที่ได้รับผลกระทบ ทั้งจากความเจ็บป่วยและวิกฤตต่างๆ ที่เกิดขึ้น ตั้งกลุ่มคนช่วยคนนั้นมีแนวคิดที่จะเผยแพร่ให้คนทั่วไปได้เห็นว่า ในการทำความดีโดยการช่วยเหลือสังคมนั้นไม่จำเป็นต้องมีความพร้อม โดยเฉพาะความพร้อมด้านการเงิน แต่สำคัญคือขอให้มีความตั้งใจดีที่จะช่วยเหลือแก้ไขปัญหา โดยใช้ความคิดสติปัญญา และความร่วมมือกันของเครือข่าย หรือให้เท่าที่มีพอจะให้ได้ หากไม่มีสิ่งไหนจะมอบให้สังคม ก็สามารถ ให้รอยยิ้ม และความรู้สึกดี ความเข้าใจดี เข้าใจสังคม เข้าใจปัญหา เช่น มีมุมมองที่ดีต่อผู้ที่ป่วย คือติดเชื้อไวรัส ไม่รังเกียจ หรือเหยียดยาม” นายอิสม่าแอน กล่าว
นายอิสม่าแอน หมัดอะด้ำ ประธานกลุ่มคนช่วยฅน กล่าวเพิ่มเติมว่า “สิ่งที่อยากจะฝากและเชิญชวน พี่น้องมุสลิมมาร่วมกัน หยิบยื่นความช่วยเหลือไปยังกลุ่มคน หรือสังคมที่ต้องการความช่วยเหลือ ตามวิธีรูปแบบ และสิ่งที่ ตัวเองพอมี และเราจะร่วมกันฝ่าวิกฤติเหล่านี้ไปด้วยกัน ไปพร้อมกัน โดยไม่ต้องรอความช่วยเหลือจากใคร ไม่ต้องรอให้ใครเริ่ม และ การสงเคราะห์ช่วยเหลือคนยากไร้หรือสังคม ที่เป็นปัญหานั้น อาจจะไม่ได้ช่วย แก้ไขปัญหาในระยะยาวได้แต่หากชุมชนหรือคนในสังคมโดยส่วนใหญ่หยิบยื่นความช่วยเหลือให้กับคนที่ลำบากยากไร้ ก็คงเป็น เครื่องมือสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในสังคมได้ ลดช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวยในสังคมได้ ดีขึ้น กลุ่มคนช่วยคนนั้น ได้ให้ ความช่วยเหลือผู้ป่วยและญาติที่มาใช้บริการอาคารเย็นศิระอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือนรอมฎอน”
เชื้อไวรัสโคโรน่า ระบาดนี้ส่งผลกระทบกับวิถีชีวิต ของชาวมุสลิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการ ปฏิบัติศาสนกิจร่วมกันในช่วงวันศุกร์ ตามประกาศที่ท่านจุฬาราชมนตรี ได้ประกาศไว้ ให้สอดรับกับมาตรการของรัฐบาล ในการป้องกัน ไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อ ในกลุ่ม ผู้ที่ปฏิบัติศาสนกิจ และอาจจะกระทบกับ การปฏิบัติศาสนกิจในช่วงเดือนรอมฎอน ซึ่งอาจจะกระทบกับความรู้สึก ของมุสลิม ที่มีศาสนกิจเป็นวิถีชีวิต หากรู้สึกเสียดาย หรือไม่คุ้นชิน กับการละหมาดที่บ้าน แต่ถือเป็นโอกาสดีที่ จะได้ร่วมปฏิบัติศาสนกิจกันภายในครอบครัวของตัวเอง และป้องกันตัวเองให้ห่างไกลจากกัน ติดเชื้อไวรัสให้ถึงที่สุด
Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=54300