สถานการณ์หมอกควัน จ.สงขลา เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ เตือน ปชช.กลุ่มเสี่ยง เฝ้าระวังใกล้ชิด
สถานการณ์หมอกควันในพื้นที่จังหวัดสงขลา พบคุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ขอให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วยมีโรคประจำตัว เฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิด หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปสถานบริการใกล้บ้านทันที พร้อมติดตามข่าวสารทางราชการอย่างใกล้ชิด
นายแพทย์อุทิศศักดิ์ หริรัตนกุล นายแพทย์ สาธารณสุขจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า สภาพหมอกควันที่ปกคลุมในพื้นที่จังหวัดสงขลา จากข้อมูลการรายงานของกรมควบคุมมลพิษ ในวันที่ 19 กันยายน 2562 (ณ เวลา 09.00 น.) พบว่า ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่บริเวณ ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มีปริมาณฝุ่นละออง โดยค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) มีค่าเท่ากับ 70 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (ค่ามาตรฐาน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ และปริมาณฝุ่นละอองขนาด 10 ไมครอน (PM 10) เท่ากับ 84 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) ดัชนีคุณภาพอากาศเท่ากับ 149 (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 100) คุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
ทั้งนี้ ประชาชนทั่วไปสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ตามปกติ ควรสวมหน้ากากอนามัยป้องกันเมื่อออกจากบ้าน ควรลดกิจกรรมกลางแจ้ง ดื่มน้ำมากๆ ใช้น้ำเกลือกลั้วคอป้องกันเจ็บคอ ควรขับรถด้วยความระมัดระวัง และควรปิดประตูหน้าต่างไม่ให้ฝุ่นเข้า ประชาชนกลุ่มเสี่ยง เด็ก คนชรา หญิงมีครรภ์ และผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวในกลุ่มโรคทางเดินหายใจ และโรคหัวใจและหลอดเลือดควรเฝ้าระวังสุขภาพ ถ้ามีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง
พร้อมทั้งขอให้ประชาชนติดตามรับฟังข่าวสารและข้อมูลจากทางราชการอย่างใกล้ชิด เพื่อรับทราบสภาวะหมอกควันจากไฟไหม้ป่าอินโดนีเซียอย่างทันเหตุการณ์ เกิดความเข้าใจ และปฏิบัติตัวได้ถูกต้อง สามารถติดตามข้อมูลสถานการณ์หมอกควัน ได้เพิ่มเติมทางเว็บไซต์ สำนักงานสิ่งแวดล้อม ภาคที่ 16 จังหวัดสงขลา หรือ ที่เว็ปไซต์กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ http://air4thai.pcd.go.th หากเจ็บป่วยฉุกเฉิน/อุบัติเหตุฉุกเฉิน สามารถโทรขอความช่วยเหลือจาก ศูนย์นเรนทร สงขลา โทรสายด่วน 1669 บริการฟรี 24 ชั่วโมง
ศิริลักษณ์ แคล้วคลาด/ข่าว
ประชา โชคผ่อง/ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์ จ.สงขลา
19 ก.ย. 62
Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=46437