สธ.สงขลา ย้ำ หากมีอาการไข้สูงสงสัยเป็นไข้เลือดออก ห้ามซื้อยากินเอง เสี่ยงอาการรุนแรง – เสียชีวิต

สธ.สงขลา เน้นย้ำหากมีอาการไข้สูงสงสัยเป็นไข้เลือดออก ห้ามซื้อยากินเอง เพราะเสี่ยงต่อเกิดอาการรุนแรงและอาจจะทำให้เสียชีวิตได้ ขณะที่จังหวัดสงขลาพบผู้ป่วย 2,938 ราย เสียชีวิต 4 ราย มากสุดในพื้นที่อำเภอคลองหอยโข่ง นาหม่อมและสะเดา

นพ.อุทิศศักดิ์ หริรัตนกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ช่วงนี้ในพื้นที่ภาคใต้และจังหวัดสงขลา มีฝนตกเป็นระยะๆ ทำให้มีแหล่งเพาะพันธ์ยุงลายมากขึ้นและยุงลายมีการขยายพันธุ์เพิ่มขึ้น ประชาชนยิ่งเสี่ยงต่อการป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกมากขึ้นด้วย ดังนั้น ในระยะนี้ หากประชาชนมีอาการไข้สูงลอย 2 วัน กินยาลดไข้พาราเซตามอลแล้วไข้ไม่ลดลง ให้รีบไปสถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่ถูกต้อง ห้ามซื้อยามากินเอง เพราะอาจจะได้รับยาประเภทแอสไพรินและยาในกลุ่มเอ็นเสด ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ป่วยมีเลือดออกมากขึ้น เกิดอาการรุนแรงขึ้น และอาจจะทำให้เสียชีวิตได้ ทั้งนี้ โดยทั่วไปผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก จะมีอาการไข้สูงลอย กินอาหารและดื่มน้ำได้ในช่วงไข้ลด หากมีอาการซึมลง กินอาหารและดื่มน้ำไม่ได้ อ่อนเพลีย ปวดท้องมาก คลื่นไส้อาเจียน กระวนกระวาย อาจเข้าสู่ระยะช็อค ควรรีบพาส่งโรงพยาบาลใกล้บ้านทันที ผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกจะมีอาการตั้งแต่เล็กน้อย ถึงรุนแรงมาก แต่ส่วนใหญ่มักมีอาการไม่รุนแรง

เชื้อโรคไข้เลือดออก มี 4 สายพันธุ์ ตั้งแต่สายพันธุ์ 1 ถึงสายพันธุ์ 4 เมื่อติดเชื้อสายพันธุ์ใดแล้ว ก็จะมีภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์นั้น แต่ก็มีโอกาสที่จะติดสายพันธุ์อื่นๆ ได้อีก ซึ่งการติดเชื้อครั้งที่สองอาจรุนแรงกว่าครั้งแรก โรคไข้เลือดออกมีโอกาสเป็นได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ หากในระยะนี้มีคนในครอบครัวมีอาการไข้สูงลอย ให้สงสัยว่าอาจจะป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก ไม่ควรซื้อยามากินเอง ให้กินยาพาราเซตามอลในการลดไข้ และเช็ดตัวลดไข้ควบคู่ไปด้วย ห้ามกินยาที่มีส่วนผสมของแอสไพริน และยาในกลุ่มเอ็นเสด เพราะเสี่ยงต่อการทำให้เกิดเลือดออกได้ง่าย หากรับประทานยาลดไข้แล้ว 2 วันอาการไม่ดีขึ้น ให้รีบไปสถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านทันที และควรไปพบแพทย์ ตามนัดแม้ว่าไข้จะลงแล้ว เพื่อการรักษาที่ต่อเนื่อง

สำหรับสถานการณ์โรคไข้เลือดออกจังหวัดสงขลา พบผู้ป่วยไข้เลือดออก 2,938 ราย (อัตราป่วย 208.53 ต่อประชากรแสนคน) มีผู้เสียชีวิต 4 ราย (อัตราตาย 0.18 ต่อประชากรแสน) กลุ่มอายุที่พบสูงสุดคือกลุ่มอายุ 10-14 ปี (อัตราป่วย 659.36 ต่อประชากร แสนคน) รองลงมาคือกลุ่มอายุ 5 – 9 ปี, 15 – 25 ปี อำเภอที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุดคือ อำเภอคลองหอยโข่ง รองลงมาคืออำเภอนาหม่อม และสะเดาตามลำดับ (ข้อมูล ณ 10 ธ.ค. 2562)

โรคไข้เลือดออก พบการระบาดได้ตลอดทั้งปี และจะพบการระบาดมากในช่วงฤดูฝน ทั้งนี้มีการพยากรณ์ว่า โรคไข้เลือดออกมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับขณะนี้พบว่ามีหลายสถานที่ เช่น ชุมชน โรงเรียน วัด ยังมีค่าดัชนีลูกน้ำยุงลายสูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน ทำให้มีความเสี่ยงที่โรคไข้เลือดออกอาจจะแพร่กระจาย และขยายเป็นวงกว้างขึ้นด้วย ดังนั้นจังหวัดสงขลาจึงขอความร่วมมือจากประชาชน ทุกครอบครัว ทุกหน่วยงาน/องค์กรที่เกี่ยวข้อง ครอบคลุมใน 6 ร. ได้แก่ โรงเรียน, โรงแรม/รีสอร์ท, โรงงาน, โรงธรรม (วัด รวมถึงมัสยิด), โรงเรือน (บ้าน), รวมถึงโรงพยาบาลและสถานบริการสาธารณสุข ร่วมเพื่อรณรงค์กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย โดยใช้มาตรการ 3 เก็บ อย่างจริงจังต่อเนื่อง คือ 1) เก็บบ้านให้สะอาด ให้โปร่ง โล่ง ไม่ให้เป็นที่เกาะพักของยุงลาย 2) เก็บขยะเศษภาชนะ ไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย 3) เก็บน้ำ ปิดมิดชิดไม่ให้ยุงลายวางไข่ รวมทั้งจุดที่มักมองข้ามภายในบ้าน เช่น แก้วน้ำ แจกันหน้าหิ้งพร และศาลพระภูมิ ควรล้างและเปลี่ยนน้ำทุกสัปดาห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การคัดแยกขยะต้นทางก่อนนำไปทิ้งและกำจัดให้ถูกต้อง ขยะที่ย่อยสลายได้ อาจจะทำปุ๋ยอินทรีย์ หรือนำไปฝังดิน ส่วนขยะที่ไม่ย่อยสลาย เช่น แก้ว กระเบื้อง พลาสติก ควรมีการนำกลับมาใช้ซ้ำ – มาใช้ใหม่ รวมทั้งนำไปจัดเก็บและทิ้งอย่างถูกวิธี ไม่ปล่อยทิ้งไว้ให้เป็นที่น้ำขังและเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย

ทั้งนี้ ในระยะนี้หากมีคนในครอบครัวมีอาการไข้สูงลอย ให้สงสัยว่าอาจจะป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก เด็กเล็กควรนอนในมุ้ง, ทายาป้องกันยุงกัดก่อนไปโรงเรียน ในผู้ใหญ่ให้ทายากันยุงป้องกันยุงกัด กำจัดยุงโดยใช้ไม้ช๊อตไฟฟ้า จุดสมุนไพรหรือยาจุดไล่ยุง หรือใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น หากคนในครอบครัวเจ็บป่วย สามารถขอความช่วยเหลือจากสายด่วนนเรนทรสงขลา หมายเลขโทรศัพท์ โทร 1669 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

ศิริลักษณ์ แคล้วคลาด/ข่าว

นายณัฏฐกร นาคแก้ว/ภาพ

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา

17 ธ.ค. 62

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=50164