|

สสก.5 สงขลา เตือนเกษตรกรรับมือเพลี้ยไฟมังคุดด้วยสารชีวภัณฑ์

E664DAC1-6E86-4AB4-94B3-FF9A7120AC80             ในช่วงเดือน มกราคมเมษายน บริเวณภาคใต้ของไทยอยู่ในช่วงฝนทิ้งช่วง สภาพอากาศร้อนและแห้งแล้ง เหมาะสมต่อการระบาดของเพลี้ยไฟมังคุด ซึ่งเป็นไม้ผลเศรษฐกิจสำคัญอย่างหนึ่งของภาคใต้ และช่วงนี้มังคุดอยู่ในระยะแตกใบอ่อนออกดอก จนถึงติดผลอ่อน หากเพลี้ยไฟลงทำลาย จะส่งผลให้คุณภาพของผลผลิตเสียหายไม่เป็นที่ต้องการของตลาด ราคาตกต่ำสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา ขอให้เกษตรกรเฝ้าระวังและป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟมังคุดอย่างต่อเนื่อง

            เพลี้ยไฟเป็นแมลงที่มีขนาดเล็กมาก บางครั้งมองดูด้วยตาเปล่าไม่เห็น ยาวประมาณ 0.7-0.8 มม. มีสีเหลืองหรือน้ำตาลอ่อน เคลื่อนไหวได้รวดเร็ว วงจรชีวิตจากไข่ถึงตัวเต็มวัยใช้เวลา 11-18 วัน ตัวเต็มวัยมีชีวิตอยู่ได้ 22 วัน ทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยงที่ยอดอ่อน ดอก และผลอ่อน ทำให้ยอดแห้ง หงิกงอ แคระแกร็น ผิวผลลาย  (ขี้กลาก) มียางไหล หากรุนแรงอาจทำให้ผลร่วงได้ พบว่าในระยะแตกใบอ่อนเป็นระยะที่ดึงดูดเพลี้ยไฟเข้าทำลายมังคุดได้มากที่สุด ทั้งนี้หากอุณหภูมิสูงขึ้นจำนวนประชากรเพลี้ยไฟจะเพิ่มมากขึ้น แต่หากมีฝนตกหรือปริมาณน้ำฝนเพิ่มมากขึ้นจะทำให้จำนวนประชากรลดลง          1D11DA29-9D1A-4B76-A438-0D3580A22224                ดังนั้นเกษตรกรต้องสำรวจแปลงอย่างสม่ำเสมอทุกสัปดาห์ ในระยะแตกใบอ่อนและระยะออกดอกติดผล โดยการเคาะใบหรือผลอ่อนลงบนแผ่นพลาสติกที่ทาด้วยกับดักกาวเหนียว หากพบเพลี้ยไฟ 1 ตัว/ยอด ต้องรีบป้องกันกำจัด ตามคำแนะนำของกรมส่งเสริมการเกษตร ได้แก่ ใช้กับดักกาวเหนียวติดตั้งในสวนมังคุดตั้งแต่มังคุดเริ่มแตกใบอ่อน (กับดักกาวเหนียวสีเหลืองขนาด 24 x 24 นิ้ว แขวนไว้บริเวณรอบทรงพุ่มของต้นมังคุดทั้ง 4 ทิศ จำนวน 4 กับดักต่อต้น) การปรับเปลี่ยนวิธีการให้น้ำ ด้วยการฉีดพ่นน้ำภายในทรงพุ่ม เพื่อให้เกิดความชื้น ทุก 2-3 วัน หรืออนุรักษ์ศัตรูธรรมชาติ ได้แก่เพลี้ยไฟตัวห้ำ ด้วงเต่าตัวห้ำ หรือการใช้ชีวภัณฑ์เชื้อราบิวเวอเรีย (Beauveria brassiana) ควบคุม ทุก 5-7 วัน ในอัตราส่วนเชื้อราบิวเวอเรีย 1 กก.ต่อน้ำ 80 ลิตร ผสมสารจับใบฉีดพ่นให้ทั่วทรงพุ่มโดยเฉพาะบริเวณยอดอ่อน/ผลอ่อน           F0419CA5-5D96-4F02-A4A4-194A1D804912                เชื้อราบิวเวอเรีย (Beauveria brassiana) เป็นเชื้อราที่มีสปอร์สีขาว เข้าทำลายแมลงศัตรูพืชโดยสปอร์งอกเส้นใยแทงเข้าไปในลำตัวแมลง แมลงที่ถูกเชื้อราบิวเวอเรียทำลาย จะเบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ไม่เคลื่อนไหว และมีเส้นใยสีขาวเจริญเติบโตในตัวแมลง หลังจากนั้นจะเห็นสปอร์คล้ายฝุ่นสีขาวปกคลุมตัวแมลง สามารถทำลายแมลงศัตรูพืชทั้งระยะตัวอ่อนและตัวเต็มวัย ได้แก่ เพลี้ยอ่อน เพลี้ยกระโดด เพลี้ยไฟเพลี้ยไก่แจ้ส้ม ไรแดง แมลงหวี่ขาว และหนอนห่อใบข้าว เป็นต้น ไม่เป็นอันตรายกับมนุษย์ และสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นชีวภัณฑ์ที่เกษตรกรสามารถผลิตขยายชีวภัณฑ์บิวเวอเรียได้เอง ขั้นตอนการผลิตไม่ยุ่งยาก และลดต้นทุนการผลิต ได้อย่างดี ตลอดจนปลอดภัยต่อเกษตรกรผู้ใช้ ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้สามารถติดต่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอและศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชนใกล้บ้านท่าน

F510B4BA-D8C5-4128-9B1D-023FD95F98A2

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=64646

แสดงความคิดเห็น

Share It

ความคิดเห็นล่าสุด

ข่าวมาใหม่

Find Us