อบจ.สงขลา เปิดโครงการบริหารจัดการน้ำ มุ่งแก้ปัญหาการขาดแคลนแก่ ปชช. ในพื้นที่
อบจ.สงขลา เปิดการประชุมปฐมนิเทศโครงการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดสงขลา มุ่งแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภค – บริโภคแก่ประชาชนในพื้นที่ให้มีระบบน้ำประปาที่สะอาด และได้มาตรฐานไว้ใช้บริโภคอุปโภคตลอดทั้งปี
วันนี้ (21 ส.ค. 62) ที่ ห้องประชุมไทรแก้ว โรงแรมหาดแก้วรีสอร์ท อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา นายประพันธุ์ ศรีสุวรรณ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ปฏิบัติหน้าที่แทน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดการประชุมปฐมนิเทศโครงการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดสงขลา โดยมี ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ อาทิ นายผดุงเดช ลือปิยะพาณิชย์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสงขลา ฯลฯ นายมิตร แก้วประดิษฐ์ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และสมาชิกสภาในเขตพื้นที่ ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนองค์กร ชุมชน และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน
นายประพันธุ์ ศรีสุวรรณ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ปฏิบัติหน้าที่แทน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่รับผิดชอบต่อประชาชนในการบริการสาธารณะ ตลอดจนระบบสาธารณูปโภค ตลอดจนสาธารณูปการ เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีมีสุข มีหน้าที่จัดให้มีน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค และการเกษตร เป็นหน่วยงานที่ดําเนินงานโครงการ ที่มีขนาดใหญ่เกินศักยภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นในเขตจังหวัด มุ่งต่อประโยชน์ของท้องถิ่น หรือประชาชนเป็นส่วนรวม โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ได้ตระหนักถึงความปลอดภัย และความอยู่ดีมีสุขของประชาชนในพื้นที่ จึงได้ดำเนินการโครงการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อจะทําให้ประชาชนในพื้นที่มีน้ำประปาในการอุปโภค-บริโภค น้ำสะอาดถูกสุขอนามัย และมีคุณภาพเพียงพอต่อความต้องการของประชากรในพื้นที่ตลอดทั้งปีช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และนําไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตขั้นพื้นฐาของประชาชนในพื้นที่ให้ดียิ่งขึ้น
ดังนั้น เพื่อให้ได้ข้อมูลที่จําเป็นต่อการวางแผนดําเนินการโครงการ ความคุ้มค่าต่อการลงทุน และการศึกษาในการแก้ไขปัญหา การขาดแคลนน้ํา สําหรับการอุปโภค – บริโภค และให้เกิดประโยชน์สูงสุดจึงได้กําหนดให้มีการประชุมปฐมนิเทศโครงการเพื่อรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะของประชําชน อันจะเป็นประโยชน์ต่อการนําไปประกอบการศึกษาให้เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ต่อไป
ด้าน นางสาวชัญญณัท ทองคณารักษ์ หัวหน้าฝ่ายวางผังพัฒนาเมือง รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองผังเมือง องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ได้มีการประชุมร่วมกับผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในปีงบประมาณ 2561 ในพื้นที่อําเภอสิงหนคร อําเภอสทิงพระ อําเภอกระแสสินธุ์ อําเภอระโนด อําเภอควนเนียง อําเภอบางกล่ำ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา การขาดแคลนน้ําสําหรับการอุปโภค-บริโภคของประชาชนในพื้นที่จังหวัดสงขลา และได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่โดยมีกลุ่มเป้าหมายอําเภอสิงหนคร อําเภอสทิงพระ อําเภอกระแสสินธุ์ อําเภอระโนด อําเภอควนเนียง และอําเภอบางกล่ำ จํานวน 550 คน โดยมติที่ประชุมเห็นชอบให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เป็นหน่วยงานหลักในการดําเนินการจัดทําผังแม่บทในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อการอุปโภคบริโภคในพื้นที่จังหวัดสงขลา
องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาได้ตั้งงบประมาณรายจ่ายประจําปี 2562 โดยได้ดําเนินการว่าจ้างมหาวิทยาลัยขอนแก่น และสํานักงานศูนย์วิจัยและให้คําปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศึกษาออกแบบโครงการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อแก้ไขปัญหาการแคลนน้ําบริโภคอุปโภคแก่ประชาชนในพื้นที่ให้มีระบบน้ําประปาที่สะอาด และได้มาตรฐานไว้ใช้บริโภคอุปโภคตลอดทั้งปี โดยมีวัตถุประสงค์ของการดําเนินการโครงการ ดังนี้ 1. เพื่อศึกษาความเหมาะสมในการก่อสร้างระบบผลิตประปา ระบบท่อส่งจ่ายน้ำของแหล่งน้ําต้นทุน ปริมาณความต้องการใช้น้ําประปาในพื้นที่ 6 อําเภอ ประกอบด้วย อําเภอสิงหนคร อําเภอสทิงพระอําเภอกระแสสินธุ์ อําเภอระโนด อําเภอควนเนียง และอําเภอบางกล่ำ 2. เพื่อสํารวจออกแบบงานก่อสร้างระบบประปา และประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์
สําหรับการจัดประชุมปฐมนิเทศโครงการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดสงขลาในครั้งนี้ เป็นการนำเสนอความเป็นมา วัตถุประสงค์ของโครงการเพื่อให้ประชาชนร่วมแสดงความคิดเห็น และข้อเสนอแนะอันจะเป็นประโยชน์ต่อการนําไปประกอบการศึกษาให้เหมาะสม สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ต่อไป
กิจกรรมในครั้งนี้ ประกอบด้วย คณะที่ปรึกษา นำโดย ผศ.พนมชัย วีระยุทธศิลป์ จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น และ รศ.พัชรา พัชราวานิช นำเสนอรายละเอียดโครงการ, การประชุมซักถาม และแสดงความคิดเห็น รวมทั้งการสรุปผลการประชุมรับฟังความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมโครงการ
Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=45397