เกษตรเขต 5 สงขลา เชิญชวนเกษตรกรปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรให้เป็นปัจจุบัน เตรียมรับสถานการณ์ภัยพิบัติ และมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ

เกษตรเขต 5 สงขลา เชิญชวนเกษตรกรปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรให้เป็นปัจจุบัน เตรียมรับสถานการณ์ภัยพิบัติ และมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ

          พื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงปลายปี เนื่องมาจากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม สำหรับเกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

           สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา ขอเชิญชวนเกษตรกรให้มาขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ภัยพิบัติน้ำท่วม หรือภัยด้านต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับเรือกสวนไร่นาของเกษตรกร ทั้งนี้เพราะเมื่อเกิดภัย พื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหาย และอยู่ในพื้นที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือแล้ว เกษตรกรสามารถขอรับการช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์การช่วยเหลือได้ นอกจากนี้ยังได้สิทธิ์ในการเข้าร่วมตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรของรัฐบาล ซึ่งจะต้องเป็นเกษตรกรที่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้แล้ว โดยเกษตรกรจะต้องเป็นผู้มาแจ้งขึ้นทะเบียนที่สำนักงานเกษตรอำเภอตามที่ตั้งแปลงปลูก เมื่อได้เริ่มทำการเกษตรใหม่และต้องแจ้งปรับปรุงข้อมูลทุกครั้งที่มีการเก็บเกี่ยวแล้วทำการเพาะปลูกใหม่ไปแล้ว 15 วัน           

           การขึ้นทะเบียนเกษตรกร สามารถขึ้นได้ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล สำหรับเกษตรกรรายใหม่ หรือรายเดิมแต่เพิ่มแปลงใหม่ ให้แจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอที่ตั้งแปลงที่ทำกิจกรรมการเกษตรอยู่ หากมีแปลงที่ทำการเกษตรในหลายพื้นที่ หลายอำเภอ ให้ยื่นที่สำนักงานเกษตรอำเภอที่ตั้งแปลงหลักหรืออำเภอที่มีจำนวนแปลงมากที่สุด สำหรับเกษตรกรรายเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้หลายช่องทาง เช่น ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง แจ้งผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน(อกม.) แจ้งข้อมูลผ่าน Farmbook Application แจ้งข้อมูลผ่านe-Form ที่เว็บไซต์ทะเบียนเกษตรกร (efarmer.doae.go.th) หลักฐานในการขึ้นทะเบียนเกษตรกร ประกอบด้วย

1. แบบคำร้องทะเบียนเกษตรกร(ทบก.01)

2. บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริง

3. เกษตรกรรายใหม่หรือรายเดิมแต่เพิ่มแปลง ต้องนำหลักฐานการใช้ที่ดินมาแสดงด้วย

4. กรณีแจ้งขึ้นทะเบียนหรือปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกกัญชา กัญชง ต้องนำใบอนุญาตผลิต(ปลูก) กัญชงและกัญชา ที่ยังไม่หมดอายุ จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) หรือสำเนามาแสดงด้วย

5. สมุดทะเบียนเกษตรกร(ถ้ามี) เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบข้อมูล

6. หลักฐานอื่น ๆ เจ้าหน้าที่สามารถเรียกเพิ่มเติมได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม

           การแจ้งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรเป็นประจำทุกปี ข้อมูลจะมีความครบถ้วน เป็นปัจจุบัน ทำให้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกร เนื่องจากทำให้ภาครัฐสามารถวางแผนการผลิต การตลาด ส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกรได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และใช้เป็นฐานข้อมูลในการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรได้อีกด้วย ดังจะเห็นได้จากการใช้ข้อมูลทะเบียนเกษตรกรไปใช้เป็นข้อมูลประกอบโครงการและมาตรการเพื่อให้การสนับสนุน และช่วยเหลือเกษตรกรได้แก่ การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านพืช และโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/67

           จึงขอเชิญชวนเกษตรกรขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรให้เป็นปัจจุบัน เพื่อสิทธิประโยชน์ในการเข้าถึงมาตรการช่วยเหลือและโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาล โดยสามารถขอข้อมูลตลอดจนรายละเอียดต่าง ๆ ได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอ หรือสำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=83821