เกษตรเขต 5 สงขลา เปิดตัว ครูสุวิทย์ เกิดศรี ที่ปรึกษากลุ่มยุวเกษตรกร ของโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 111
เกษตรเขต 5 สงขลา เปิดตัว ครูสุวิทย์ เกิดศรี ที่ปรึกษากลุ่มยุวเกษตรกร ของโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 111 (บ้านทุ่งนางแก้ว) อำเภอละงู จังหวัดสตูล ต้นแบบของครูเกษตร คว้ารางวัลชนะเลิศระดับประเทศ ปี 2568
นายสุวิทย์ เกิดศรี อายุ 59 ปี วุฒิการศึกษาเกษตรศึกษา สาขาสัตวศาสตร์ (วท.บ.) ที่อยู่ 75 หมู่ที่ 10 ตำบลบางเหรียง อำเภอควนเนียง จังหวัดสงขลาโทรศัพท์ 0987137219 ตำแหน่งปัจจุบัน ครูชำนาญการพิเศษ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ความคิดริเริ่มและความพยายามฟันฝ่าอุปสรรคในการสร้างผลงาน
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 นายสุวิทย์ เกิดศรี ได้รับมอบหมายจากทางโรงเรียนให้รับผิดชอบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในกลุ่มสาระการงานอาชีพมาโดยตลอด จากการสังเกตการทำกิจกรรมของนักเรียนพบว่า นักเรียนส่วนใหญ่ขาดความอดทน ขาดความรับผิดชอบและมีทัศนคติที่ไม่ดีต่ออาชีพเกษตรกรรม ซึ่งเป็นอาชีพดั้งเดิมของบรรพบุรุษ และผู้ปกครองของนักเรียนก็ประกอบอาชีพเกษตรกร ทำให้เด็กและเยาวชนส่วนใหญ่ใช้เวลาว่างไปในทางที่ไม่ค่อยจะเกิดผลดีต่อตนเองและสังคมมากนัก จึงมีความคิดที่จะแก้ไขพฤติกรรมเหล่านี้ ซึ่งในขณะนั้น ครูสุวิทย์ ก็ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบเป็นที่ปรึกษากลุ่มยุวเกษตรกรโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 111 (บ้านทุ่งนางแก้ว) จึงเริ่มจากให้นักเรียนทดลองปลูกผักและเลี้ยงสัตว์ พบว่ามีนักเรียนบางส่วนไม่ค่อยให้ความร่วมมือ แต่ก็พยายามพูดคุยและชักชวนด้วยเหตุผลต่าง ๆ จากการให้ทดลองทำการเกษตรที่โรงเรียนและได้จัดสรรรายได้ให้แก่นักเรียนเพื่อสร้างแรงจูงใจและกระตุ้นให้นักเรียนหันมาสนใจและต้องการที่จะทำกิจกรรมนี้
ซึ่งจากจุดเล็กๆ จุดนี้ พบว่าพฤติกรรมของนักเรียนก็เริ่มเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีความคิดว่าการทำเกษตรนั้นหากต้องการให้เกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริง สู้งาน และประสบความสำเร็จแม้เพียงเสี้ยง เราควรเริ่มจากการทำการเกษตรแบบ “Learning by Doing” เรียนรู้จากการทำจริงผ่านฐานเรียนรู้ต่างๆ เพื่อให้สมาชิกยุวเกษตรกรได้นำไปปฏิบัติและขยายผลไปยังที่บ้านตนเองและชุมชนต่อไป ความภูมิใจและความสุขสิ่งหนึ่งคือ การได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง สู่การปฏิบัติจริงขยายผลให้เด็ก ๆ รู้จักการวางแผนในชีวิต รู้จักพอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี มีความรู้ และมีคุณธรรม การฝึกให้เขารู้จักการวางแผน การทำงานอย่างมีระบบระเบียบ ก่อนลงมือปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์เราต้องเตรียมอะไรบ้าง การจดบันทึก การเจริญเติบโต จดบันทึกการใช้จ่าย จดบันทึกรายได้ นักเรียนจะเห็นคุณค่าของเงิน จะได้มีความพอเพียง ใช้จ่ายอย่างประหยัด
นอกจากนี้ได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ สำนักงานเกษตรจังหวัดสตูล สำนักงานเกษตรอำเภอละงู สำนักงานพัฒนาที่ดินจังหวัดสตูล ที่ว่าการอำเภอละงู ประมงอำเภอ ปศุสัตว์อำเภอ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดสตูล กองพันทหารราบที่ 2 กรมหาหารราบที่ 5 องค์การบริหารส่วนตำบลน้ำผุด ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการเกษตร ปราชญ์ชาวบ้าน ภูมิปัญญาท้องถิ่นในชุมชน และผู้ปกครองนักเรียนได้ช่วยเหลือสนับสนุน และให้ความร่วมมือในการพัฒนา ส่งเสริมให้กลุ่มยุวเกษตรกรมีการดำเนินผลงานและความสำเร็จของผลงาน ทั้งปริมาณและคุณภาพ ตลอดจนระยะเวลาที่ปฏิบัติงาน และความยั่งยืนในอาชีพ
การขับเคลื่อนกิจกรรมกลุ่มยุวเกษตรในโรงเรียนได้ประชุมวางแผนร่วมกันกับคณะครูในการพัฒนากระบวนการเรียนรู้โดยได้จัดทำหลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียงขึ้นมา เพื่อบูรณาการกับกลุ่มสาระต่าง ๆ ทุกชั้นเรียน และได้สร้างฐานการเรียนรู้ขึ้น เพื่อให้นักเรียนและผู้ที่สนใจได้เข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้โดยให้กลุ่มยุวเกษตรกรเป็นแกนนำขับเคลื่อนงานกิจกรรม สำหรับการดำเนินงานกลุ่มยุวเกษตรกรนั้นจะไม่ใช้เวลาเรียนปกติของนักเรียนมาทำกิจกรรมแต่จะใช้เวลาว่างของนักเรียนในช่วงเช้า หลังเลิกเรียนทุกวัน และในวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ตามภารกิจของงาน โดยได้เรียกประชุมผู้ปกครองนักเรียนกลุ่มนี้เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจ “มันเป็นสิ่งที่ท้าทายว่าพวกเขาจะคิดอย่างไร สู้ไม่สู้กับบททดสอบเหล่านี้” และได้ให้คำแนะนำ
แนวทางการดำเนินกิจกรรมฐานเรียนรู้ของกลุ่มยุวเกษตรกร ดังนี้
1. การทำนา แนะนำให้สมาชิกได้เรียนรู้ ลงมือปฏิบัติจริง ตั้งแต่การเตรียมพื้นที่การปลูกข้าว ตลอดจน
การเก็บเกี่ยว เพื่อให้สมาชิกได้รู้คุณค่าของ ข้าว และเกิดความภาคภูมิใจในการลงมือปฏิบัติจริง
2. การปลูกผักปลอดสารพิษ แนะนำตั้งแต่กระบวนการปลูก การดูแล ตลอดจนการเก็บเกี่ยว การนำปุ๋ยหมักน้ำหมัก มาใช้ในแปลงผัก และรวมทั้งการจัดการโรคและแมลงศัตรูพืชที่ถูกต้องและปลอดภัย พร้อมสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ผักให้กับกลุ่มยุวเกษตรกร
3. การเลี้ยงไก่ไข่ เป็ดไข่ แนะนำให้ใช้แหนแดงมาเป็นอาหารสัตว์ เพื่อลดต้นทุนการผลิต และระบบการให้น้ำของการเลี้ยงเป็ดไข่จะมีภาชนะที่เป็นการให้น้ำอัตโนมัติซึ่งได้ประดิษฐ์ขึ้นมาเองเพื่อสะดวกในการจัดการ และนำมูลไก่มาใช้ในการผลิตปุ๋ยหมักต่อไป
4. การเลี้ยงปลา แนะนำให้นำเศษอาหารจากโรงอาหาร และการนำแหนแดงมาใช้เป็นอาหารปลา เพื่อลดต้นทุนการผลิต ตลอดจนการนำมาแปรรูป เพื่อสร้างรายได้เสริม
5. การผลิตปุ๋ยหมัก น้ำหมัก แนะนำให้ผลิตเพื่อนำมาใช้ในแปลงเกษตร
6. การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร แนะนำให้นำผลผลิตมาแปรรูป เพื่อได้เรียนรู้ ปฏิบัติจริง และเพื่อเป็นรายได้เสริม เช่น กล้วยฉาบ ปลาส้ม น้ำพริก น้ำสมุนไพร
7. การถอดบทเรียน แนะนำและให้สมาชิกกลุ่มยุวเกษตรกรเรียนรู้การนำความรู้ที่ได้รับมาถอดบทเรียน เพื่อเป็นการสรุปผลการดำเนินงานและถ่ายทอดให้กับบุคคลอื่นได้
8. การจดบันทึกการปฏิบัติงาน แนะนำให้สมาชิกได้มีการวางแผนในแต่ละกิจกรรม ให้มีการจดบันทึกการปฏิบัติงาน รายรับรายจ่าย และสรุปเป็นข้อมูลเพื่อนำเสนอในที่ประชุม
กิจกรรมทางการเกษตรที่บ้านของครูที่ปรึกษากลุ่มยุวเกษตรกร
อาชีพหลักคือรับราชการ และมีอาชีพเสริมคือทำการเกษตร เพื่อได้นำความรู้ไปถ่ายทอดให้กลุ่มยุวเกษตรกร และเพื่อให้เกษตรกร บุคคลที่สนใจในชุมชนได้มาเรียนรู้ แลกเปลี่ยน และนำกลับไปปฏิบัติที่บ้าน โดยกิจกรรมทางการเกษตร ดังนี้
1. สวนยางพารา จำนวน 10 ไร่ โดยข้าพเจ้าได้ใส่ปุ๋ยเพื่อบำรุงต้นยาง คอยสังเกต สำรวจเรื่องโรคและแมลง และกำจัดวัชพืชโดยวิธีการตัดหญ้า
2. บริเวณรอบบ้าน ได้มีการทำการเกษตรแบบผสมผสาน ดังนี้
-ปลูกองุ่น จำนวน 30 ต้น โดยปลูกในท่อซีเมนต์และตะกร้า ทำลักษณะเป็นซุ้ม และได้ให้ผลผลิตแล้ว
-ปลูกผักยกแคร่ จำนวน ๑ โรงเรือน โดยได้ผสมดินเพื่อปลูกเอง ใช้ปุ๋ยหมักน้ำหมักในการปลูก และนำผลผลิตที่ได้รับประทานเองที่บ้านและแจกจ่ายเพื่อนบ้าน
-ปลูกผักในล้อยางเพื่อนำวัสดุที่ไม่ใช้แล้วมาใช้ให้เกิดประโยชน์ และเป็นการอนุรักษ์ธรรมชาติ โดยได้ปุ๋ยหมัก น้ำหมักในการบำรุงต้นพืชผัก และใช้สารชีวภัณฑ์ในการป้องกันกำจัดโรคและแมลง
-ปลูกเสาวรส โดยทำเป็นซุ้ม เพื่อสะดวกในการเก็บผลผลิต และเพื่อความสวยงาม เมื่อได้ผลผลิตก็จะนำมาบริโภคสด หรือทำเป็นน้ำปั่น และได้นำแจกจ่ายให้เพื่อนบ้าน
-ปลูกบวบ จำนวน 1 แปลง ได้มีการบำรุงดิน ใช้ปุ๋ยหมัก น้ำหมัก และนำขวดน้ำที่ไม่ใช้แล้วมาทำเป็นระบบน้ำหยดให้กับต้นผัก
-ปลูกไม้ผลรอบ ๆ บ้าน โดยมีทั้งที่ให้ผลผลิตแล้วและยังไม่ให้ผลผลิต มีการตัดแต่งกิ่ง ใส่ปุ๋ย และกำจัดวัชพืชโดยการตัดหญ้า
-ปลูกผักสวนครัว และพืชผักอื่น ๆ รอบบ้าน เพื่อนำมาบริโภคในครัวเรือน ลดรายจ่าย และเป็นพืชผักที่ปลอดสารพิษเช่น ตะไคร้ มะนาว ผักกูด ผักเหรียง ชะอม
– จัดทำโรงเรือนบอนสี จำนวน 1 โรงเรือน โดยมีบอนสีสายพันธุ์ต่าง ๆ ประมาณ 10 สายพันธุ์ มีการขยายพันธุ์บอนสีเอง เพื่อเพิ่มจำนวนและอนุรักษ์สายพันธุ์ไว้ ทั้งนี้ ได้มีคนในชุมชนที่สนใจเข้ามาเรียนรู้และได้แบ่งปันพันธุ์บอนสีให้ไปด้วย
-การจัดบันทึก รายรับ รายจ่าย ของตนเอง
ความเป็นผู้นำและการเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวมในด้านต่าง ๆ
1. ผู้นำในการจัดตั้งและดำเนินการของกลุ่มยุวเกษตรกรโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 111 (บ้านทุ่งนางแก้ว) 2. ผู้นำการดำเนินโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อปรับสภาพแวดล้อมบริเวณโรงเรียนให้สะอาด
สวยงาม มีบรรยายร่มรื่น เพื่อให้โรงเรียนเป็นแหล่งความรู้มากขึ้น
3. ผู้นำในการจัดทำฐานเรียนรู้ทั้งทางด้านเกษตร ปศุสัตว์ ประมง ปุ๋ย แปรรูป เพื่อให้สมาชิกได้ฝึก
ปฏิบัติและเป็นจุดเรียนรู้ให้กับโรงเรียนหรือบุคคลที่สนใจเข้ามาเรียนรู้
4. เป็นผู้ประสานงานกับองค์กรภาครัฐและภาคีเครือข่าย ในการขอความอนุเคราะห์องค์ความรู้และวัสดุอุปกรณ์ให้กับกลุ่มยุวเกษตรกรของโรงเรียนเป็นผู้ประสานงานกับชุมชน
5. ผู้นำในการฝึกซ้อมและนำนักเรียนเข้าร่วมการแข่งขันกีฬานักเรียนและเยาวชนจังหวัดสตูล
ประจำปี 2565
6. เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ทางด้านการเกษตร เคหกิจเกษตร และอื่นๆ
Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=97326