เกษตรเขต 5 สงขลา แจ้งแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรเพื่อรับการช่วยเหลือกรณีประสบภัยพิบัติด้านพืช

เกษตรเขต 5 สงขลา แจ้งแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรเพื่อรับการช่วยเหลือกรณีประสบภัยพิบัติด้านพืช

           นายภูวเดช วุฒิวงศ์วัฒ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา กล่าวว่า จากประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้คาดการณ์ฤดูหนาวปี 2567 โดยระบุว่าประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูหนาวในช่วงประมาณปลายสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคม 2567 และจะสิ้นสุดฤดูหนาวในปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งจะส่งผลกระทบให้ภาคใต้ มีอากาศเย็นบางแห่งในบางช่วงส่วนมากจะหนาวเย็นในพื้นที่ตอนบนของภาค แต่ยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่น โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันออกในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม กับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และหนักมากในบางแห่ง ซึ่งจะทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากรวมทั้งน้ำล้นตลิ่งได้ในหลายพื้นที่ และในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำ และมีโอกาสสูงที่จะพัฒนาตัวเป็นพายุหมุนเขตร้อน แล้วเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้หรือเคลื่อนผ่านอ่าวไทยและภาคใต้ ซึ่งจะทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกชุกหนาแน่น จึงขอแจ้งเตือนให้เกษตรกรในพื้นที่ภาคใต้ เฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตและพื้นที่ทางการเกษตร ทั้งนี้ หากเกิดภัยในพื้นที่และมีการประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย/เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่ของสำนักงานเกษตรอำเภอ จะลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายและให้การช่วยเหลือตามระเบียบต่อไป                 สำหรับหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตร เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศเขตพื้นที่ประสบภัย ให้เกษตรกรผู้ประสบภัยแจ้งความเสียหาย (ตามแบบ กษ 01) โดยให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต. นายกเทศมนตรี ในพื้นที่ตรวจสอบและรับรองความเสียหาย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานเกษตรอำเภอตรวจสอบและคำนวณมูลค่าการช่วยเหลือ และดำเนินการประมวลรวบรวมความเสียหายและการช่วยเหลือ เพื่อเสนอคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป

           ทั้งนี้ การเยียวยาเกษตรกรจะเป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 หลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2563 และหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2564 โดยมีอัตราการช่วยเหลือดังนี้ ข้าว 1,340 บาทต่อไร่ พืชไร่และพืชผัก 1,980 บาทต่อไร่ ไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่น ๆ 4,048 บาทต่อไร่ และไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ ทั้งนี้ เกษตรกรต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกร และปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรก่อนเกิดภัย มีพื้นที่เสียหายจริง และอยู่ในพื้นที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือแล้ว

          “สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา จึงขอเชิญชวนเกษตรกรขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรให้เป็นปัจจุบัน เพื่อสิทธิประโยชน์ในการเข้าถึงการได้รับความช่วยเหลือและการเข้าร่วมตามมาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาล” นายภูวเดช กล่าวทิ้งท้าย

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=91960