|

เครือข่ายภาคประชาชนภาคใต้ ร่วมกันแถลงถึงการเดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงนายกฯ ”อุ๊งอิ๊ง“ เพื่อนำเสนอแนวทางในการพัฒนาภาคใต้ในช่วงของการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดสงขลา

เครือข่ายภาคประชาชนภาคใต้ ร่วมกันแถลงถึงการเดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงนายกฯ ”อุ๊งอิ๊ง“ เพื่อนำเสนอแนวทางในการพัฒนาภาคใต้ในช่วงของการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดสงขลา

            วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 ที่สำนักงานสมาคมรักษ์ทะเลไทย สงขลา ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา เครือข่ายภาคประชาชนภาคใต้ นำทีมโดย นายสมบูรณ์ คำแหง ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนระดับชาติ (กป.อพช.) นายบรรจง นะแส ที่ปรึกษาสมาคมรักษ์ทะเลไทย นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ เครือข่ายภาคใต้สีเขียว ร่วมกันแถลงถึงการเดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอแนวทางในการพัฒนาภาคใต้ ในโอกาสที่นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีเดินทางมาประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ที่จังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 17-18 กุมภาพันธ์ 2568 โดยจะมีเครือข่ายภาคประชาชน จากหลายจังหวัดภาคใต้ ประมาณ 300 คน เดินเท้าเข้าพบยื่นหนังสือ นำเสนอปัญหาต่อนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งเป็นสถานที่ประชุม ครม.สัญจรในครั้งนี้                  ประเด็นหลักที่จะนำเสนอคือ ขอให้ทบทวน การนำเสนอกฎหมาย SEC หรือระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ เข้าสู่ที่ประชุม ครม.แม้ทราบมาว่าไม่ได้เข้าสู่ที่ประชุม ครม.ในครั้งนี้ก็ตาม โดย กฎหมาย SEC นั้นเป็นกฎหมายที่ให้สิทธิพิเศษกับคนพิเศษก็คือนักลงทุน แต่ผลกระทบต่างๆ จะเกิดกับคนในพื้นที่ จึงไม่ต้องการให้เกิดกฎหมายพิเศษสำหรับคนพิเศษในภาคใต้หรือภาคอื่นๆ ของประเทศ และยังมีประเด็นย่อยๆ ของเครือข่ายภาคประชาชนอีกหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มชาวเล กลุ่ม เครือข่ายคัดค้านกาสิโน และเครือข่ายสิ่งแวดล้ม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

          ยืนยันว่าต้องการที่จะเดินทางเข้าพบ ยื่นหนังสือ พร้อมนำเสนอแนวทางการพัฒนาต่อนายกรัฐมนตรีโดยตรงแต่จากการประสานงาน มีความพยายามของหน่วยงานที่จะกำหนดสถานที่ และให้ภาคประชาชนเครือข่ายต่างๆ ยื่นหนังสือกับตัวแทนนายกรัฐมนตรีเท่านั้น จึงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเปิดพื้นที่ เพื่อพบปะรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะกับภาคประชาชนโดยตรง ซึ่งจะถือเป็นมิติใหม่ในการประชุม ครม.สัญจรนอกสถานที่ที่จังหวัดสงขลาในครั้งนี้

           โดยเสนอให้นายกรัฐมนตรีเปิดพื้นที่พบปะประชาชนอย่างแท้จริง ยืนยันว่าต้องการเข้าพบและยื่นหนังสือกับนายกรัฐมนตรีโดยไม่มีเจตนาขัดขวางการประชุม ขอหน่วยงานอย่าสกัดกั้นจนเกิดปัญหาความรุนแรง อย่างที่เคยเกิดขึ้นมาในช่วงการประชุม ครม.สัญจร ในอำเภอเมืองสงขลาเมื่อปี 2545 ซึ่งครั้งนั้นศาลฎีกาก็พิพากษาแล้วว่า ประชาชนที่เดินทางขอพบนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นไม่มีความผิดเพราะได้ใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=94997

แสดงความคิดเห็น

Share It

ความคิดเห็นล่าสุด

ข่าวมาใหม่

Find Us