เปิดวิสัยทัศน์ “5ขุนพล” ชิงนายกฯนครหาดใหญ่ โค้งสุดท้าย“สู้ไม่ถอย”งัดกลยุทธ์ดูดคะแนนเสียง
ศึกเลือกตั้งเทศบาลนครหาดใหญ่ “แข่งขันเดือด” เปิดเวทีแสดงวิสัยทัศน์ “โชว์กึ๋นทางการเมือง” ของผู้สมัครนายกฯทั้ง 5 ทีม หวังเรียกคะแนนเสียงจากชาวนครหาดใหญ่ ย้ำโค้งสุดท้ายทุกทีมยังมั่นใจ “กำชัยชนะ” 28 มี.ค.วันตัดสินหมากการเมืองนัดนี้ใครเข้าวิน
เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 64 เวลา 13.00 -15.00 น.ที่หอประชุมเทศบาลนครหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ได้มีการเปิดเวทีแสดงวิสัยทัศน์ของผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ โดยมีผู้สมัครชิงเก้าอี้นายกฯนครหาดใหญ่เข้าร่วมทั้ง 5 คน พร้อมด้วยผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลนครหาดใหญ่(ส.ท.)และกองเชียร์ของแต่ละทีมที่เดินทางมารับฟังและให้กำลังใจเต็มห้องประชุม
โดยผู้สมัครนายกฯ ประกอบด้วย นายณรงค์พร ณ พัทลุง หรือ ปลัดแป้น ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ เบอร์ 1,ดร.ไพร พัฒโน ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ เบอร์ 2 ,พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี หรือพี่หลวงคร ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ เบอร์ 3,นายพงษ์ศักดิ์ จิโรภาส ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่เบอร์ 4 และนายประยูร วงศ์ปรีชากร ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่เบอร์ 5
เริ่มการเปิดวิสัยทัศน์ที่ ดร.ไพร พัฒโน ได้กล่าวถึง ผลงานที่ผ่านมาว่าได้ทำอะไรให้กับนครหาดใหญ่ไว้มากมาย ทั้งด้านการศึกษาที่ได้วางรากฐานการศึกษาให้กับเด็กอย่างมีศักยภาพ มีโรงเรียนภายใต้การสนับสนุนของเทศบาลที่มีคุณภาพ โดยใช้งบประมาณ 1 ใน 3 ให้กับการศึกษา มีความโดดเด่นในเรื่องดนตรีและกีฬาระดับนานาชาติ มีการส่งเสริมด้านวัฒนธรรมทุกศาสนา นำเอาวัฒนธรรมมาเป็นจุดขาย จะทำเป็นไชน่าทาวน์เพื่อการท่องเที่ยวในอนาคต ในเรื่องสุขภาพมีการดูแลตั้งแต่อยู่ในครรภ์ กระทั่งผู้สูงอายุ มีศูนย์บริการสาธารณสุขของเทศบาลที่เทียบเท่าระดับสากล มีคุณหมอ และยาที่เทียบเท่ากับโรงพยาบาล ยกระดับรถพยาบาลฉุกเฉิน นอกจากนี้ยังมี ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพหาดใหญ่ชีวาสุข ที่กลายเป็นอะเมซิ่งของจังหวัดสงขลาไปแล้ว เป็นแหล่งท่องเที่ยวของคนรักสุขภาพต้องไป
การจัดการสิ่งแวดล้อมเมืองสีเขียว ที่ผ่านมาเทศบาลนครหาดใหญ่ได้ทำเอาไว้เป็นจำนวนมาก มีการเตรียมพัฒนาคลองเตยให้เป็นแลนด์มาร์ค ใช้คลองเตยในการแก้ปัญหาจราจร มีการปรับปรุงลู่เดินวิ่ง พัฒนาของเล่นในสวนสาธารณะ ปัจจุบันมีคนเข้าไปใช้บริการจำนวนมาก และจะใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้คุ้มค่าที่สุด
นายพงษ์ศักดิ์ จิโรภาส ได้นำเสนอแนวคิดในการส่งเสริมแผนการปรับปรุงสวนสาธารณะในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ มองพื้นที่นครหาดใหญ่เป็นเมืองที่มีต้นทุนในการพัฒนาที่แทบจะไม่ต้องใช้เงินลงทุน มีป่า มีพื้นที่ราบกว่า 950 ไร่ เพื่อที่จะนำมาปรับแต่งสร้างเป็นแลนด์มาร์คให้กับชาวนครหาดใหญ่ แนวคิดในการปรับคลองในนครหาดใหญ่ สามารถที่จะส่งเสริมในเรื่องเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว โดยพื้นที่คลองในนครหาดใหญ่นั้น จำเป็นต้องประสานงานกับหน่วยงานที่มีความเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกรมเจ้าท่าหรือหน่วยงานภาครัฐ เพื่อที่จะนำคลองในนครหาดใหญ่ ซึ่งมีความยาวราว 11 กิโลเมตร มีความกว้าง ประมาณ 16 เมตร คิดเป็นเนื้อที่ประมาณ 400 ไร่ ซึ่งพื้นที่ตรงนี้สามารถนำมาสร้างกิจกรรมต่างๆให้กับคนนครหาดใหญ่ เป็นส่วนหนึ่งในการนำมาสร้างเป็นพื้นที่จอดรถ เพื่อส่งเสริมในเรื่องของเศรษฐกิจ ส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในนครหาดใหญ่ได้รับความสะดวก
จากนี้ไปเทศบาลไม่เพียงแต่จะทำหน้าที่ดูแลพี่น้องประชาชนในด้านต่างๆ จะนำเรื่องของการออมเข้ามา เพื่อตอบโจทย์ให้กับพี่น้องประชาชน วันนี้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง หากทีมนี้ได้เข้ามาบริหารเทศบาลนครหาดใหญ่ จะมีศูนย์ที่จะคอยเชื่อมโยง ที่จะคอยผลักดันสถาบันทางการเงินเข้ามาอยู่ที่เทศบาล เพื่อที่จะรองรับพี่น้องประชาชน พ่อค้าแม่ขายที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ มีการสนับสนุนช่วยเหลือพ่อค้าแม่ขาย ผลักดันการท่องเที่ยว 12 เดือน 12 กิจกรรม เชิญชวนพี่น้องชาวนครหาดใหญ่เข้ามาร่วมคิดร่วมทำไปด้วยกัน
ในส่วนของคุณภาพชีวิตและสวัสดิการให้ความมั่นใจพี่น้องประชาชนถึงความพร้อมของเทศบาลที่จะเข้าไปดูแล จะยกระดับสาธารณสุขเทศบาลให้เทียบเท่ากับโรงพยาบาลขนาดใหญ่ การจ่ายยาที่มีคุณภาพเทียบเท่ากับโรงพยาบาลเอกชน การจัดให้มีรถพยาบาลไม่ฉุกเฉิน
ส่วนตัวก็จะสนับสนุนในเรื่องของสวนสาธารณะให้มีรูปแบบคล้ายกับที่สิงคโปร์ เลือกที่จะให้ประชาชนมาเลือกใช้พื้นที่สีเขียวให้เป็นประโยชน์ ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบสวนสาธารณะให้เป็นพื้นที่ที่มีสีเขียว ให้เป็นพื้นที่ที่มีกิจกรรมในมิติต่างๆหลากหลาย การสร้างพื้นที่สีเขียวในนครหาดใหญ่มีหลากหลายวิธี ส่วนในเรื่องการศึกษา วัฒนธรรม ดนตรีและกีฬา ทีมพร้อมที่จะเข้าไปดูแลครอบคลุมรอบด้าน
นายณรงค์พร ณ พัทลุง กล่าวว่า ปัจจุบันเมืองนครหาดใหญ่นักท่องเที่ยวหายไปเป็นจำนวนมาก เพราะ หาดใหญ่ไม่มีจุดขาย ขาดแลนด์มาร์ค ขาดความร่วมมือร่วมใจจากประชาชน จากนักธุรกิจ จากพ่อค้าแม่ขาย จึงเห็นว่าคนไม่มาหาดใหญ่ เพราะฉะนั้นคนหาดใหญ่ต้องช่วยกันทำให้หาดใหญ่กลับมายิ่งใหญ่เหมือนในอดีต ต้องสร้างแลนด์มาร์คให้กับนครหาดใหญ่ ทีมจะผลักดันให้นครหาดใหญ่เป็นเมืองปลอดภาษี หาดใหญ่จะต้องรุ่งเรืองหากเราทำทุกอย่างด้วยใจที่มุ่งมั่น
เรื่องของคุณภาพชีวิตอยากถามว่าในปัจจุบันคนที่มีฐานะยากจนสามารถเข้าถึงเหมือนคนที่มีความพร้อมหรือไม่ ยกตัวอย่าง โรงเรียนในฝันของเทศบาลนครหาดใหญ่ ลูกคนจนสามารถเข้าถึงได้มั้ย ถ้าตัวเองได้เข้าไปบริหารนครหาดใหญ่จะเดินหน้าให้หาดใหญ่เป็นเมืองปลอดภาษี จะทำให้คนนครหาดใหญ่ทุกคนมีความเท่าเทียมกัน เท่าเทียมในเรื่องความเป็นอยู่ เท่าเทียมเรื่องการศึกษา เท่าเทียมในเรื่องการรักษาพยาบาล คนทุกคนสามารถเข้าเรียนในโรงเรียนเทศบาลตั้งแต่อนุบาลจนถึง ม.6 พื้นที่หาดใหญ่ในเกิดอะไรขึ้น โรงพยาบาลไม่มีสักแห่ง ตนเองต้องการให้มีโรงพยาบาลสำหรับคนยากจน มั่นใจว่าตนเองสร้างให้เกิดขึ้นในนครหาดใหญ่ได้ มีหลายคนพร้อมบริจาค พร้อมสนับสนุน การดูแลประชาชนต้องดูแลด้วยใจ สร้างความเท่าเทียมให้เกิดขึ้น
พูดถึงสมาร์ท ซิตี้ การบริหารเมืองอย่างชาญฉลาดไม่ใช่เรื่องเทคโนโลยี แต่เป็นเรื่องการบริหารบ้านเมืองให้ประชาชนมีความสุขโดยใช้นวัฒกรรมในการทำงาน สร้างงานสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นแก่คนในชุมชน สมาร์ท ซิตี้ ที่ยั่งยืน คือ ประชาชนรวมทั้งราชการต้องทำงานร่วมกัน สมาร์ทโฟนที่จะคอยแจ้งเตือนในเรื่องของ PM 2.5 ส่วนในเรื่องการศึกษา วัฒนธรรม กีฬาและดนตรี จะได้รับการใส่ใจอย่างครบถ้วนและเสมอภาค
พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี เริ่มต้นด้วยการเน้นย้ำถึงความพร้อมของทีมบริหาร ที่มี อดีต ส.จ.รักษ์ (เจษฎาพงศ์ ชูแก้ว), ดร.วิชัย กาญจนสุวรรณ ,นายอาหมัด เบ็ญอาหลี และนายสัมฤทธิ์ บุญรัตน์ เป็นรองนายกฯ มีประธานที่ปรึกษาเป็นท่านสมพร ใช้บางยาง และมีเด็กรุ่นใหม่อย่าง มานพ เพ็งชุม และ สุนัยเนตร วงศ์เกียรติกุล เข้ามาเป็นเลขาฯ พร้อมกำชับถึงชีวิตที่เหลือจะทำงานเพื่อแผ่นดิน จะขอใช้ประสบการณ์ที่มีทั้งในและต่างประเทศเข้ามาบริหารนครหาดใหญ่ให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง เน้นการแก้ปัญหาจราจรระยะยาว มีการจัดตั้งศูนย์ควบคุมการจราจร โดยนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาใช้ คือระบบจราจรอัจฉริยะ อย่างเมืองซานตง ของประเทศจีน มีการให้ความรู้กับประชาชน ทำอย่างไรให้มีการใช้รถอย่างมีคุณภาพ ประชาชนต้องมีวินัย และสิ่งสำคัญคือการร่วมมือร่วมใจของประชาชน ผู้ประกอบธุรกิจต้องให้ความร่วมมือกับชุมชนและเทศบาล ชุมชนมีส่วนสำคัญในการช่วยเหลือ ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมแก้ไขปัญหา สื่อต้องมีส่วนร่วมในการสื่อสารข้อมูลทั้งกระแสหลัก กระแสรอง
เรื่องของเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และเมืองปลอดภาษี เราเป็นเมืองพี่ที่ต้องส่งเสริมกับเมืองน้อง โดยเฉพาะในพื้นที่ต้องมีการสร้างจุดขายใหม่ๆ สร้างแลนด์มาร์คใหม่ๆให้เป็นที่น่าสนใจ พัฒนาสวนสาธารณะให้กลับมามีชีวิตชีวา ตนเองยังมีความผูกพันธ์กับทีมบริหาร อบจ.สงขลา สามารถประสานงานให้สอดคล้องในเรื่องของนโยบาย สำหรับเรื่องสุขภาพคุณภาพชีวิตจะมีการดูแลอย่างทั่วถึง ส่งเสริมในเรื่องคุณภาพชีวิตตั้งแต่เยาว์วัยจนชรา รวมไปถึงผู้เปราะบางทางสังคมที่เราจะต้องเข้าไปดูแลอย่างทั่วถึง สิ่งสำคัญ คือ ต้องร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมแก้ไขปัญหา
นายประยูร วงศ์ปรีชากร กล่าวถึงเรื่องของการจัดการสิ่งแวดล้อมเมืองสีเขียว องค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้เมืองที่พัฒนาแล้วต้องมีพื้นที่สีเขียวไม่น้อยกว่า 20 ตารางเมตรต่อคน แต่กลางใจเมืองของเราไม่มีพื้นที่สีเขียวมีแต่น้ำโสโครก เราจะพัฒนาคลองเตยให้กลับมามีชีวิตด้วยการคืนความสะอาดให้กับคลองเตยของเรา ให้ใสสะอาดในน้ำมีปลา รอบข้างคลองมีต้นไม้ร่มรื่น สร้างสวนหย่อม สร้างสวนสาธารณะกลางใจเมืองให้เป็นปอดของคนหาดใหญ่ สิ่งแรกที่ต้องทำคือความสะอาด และความร่มรื่นที่ต้องอาศัยธรรมชาติ สิ่งสำคัญเราต้องช่วยกันลดมลพิษมลภาวะ มีการขุดลอกคูระบายน้ำ พื้นถนนต้องมีการปัดกวาดทำความสะอาดเป็นระยะๆ โดยเราจะขอความร่วมมือจากพี่น้องทั้ง 40 ชุมชนให้ร่วมมือร่วมใจกัน หาดใหญ่ต้องมีรถเมย์ประจำทางที่ใช้ระบบไฟฟ้า
เมืองอัจฉริยะไม่ใช่เราจะเอานโยบาย น้ำไหล ไฟสว่าง ทางสะดวกมาใช้หาเสียในยุคนี้กันแล้ว การบริหารงานของเทศบาลเราต้องทำให้อยู่ภายใต้ความร่วมมือในการบริหารของประชาชน ให้ประชาชนเข้ามาตรวจสอบการใช้งบประมาณ มีการสร้างระบบตรวจสอบให้พี่น้องประชาชนสามารถตรวจสอบได้ทุกนาที
มาถึงโค้งสุดท้ายทุกทีมยังคงมั่นใจ และเดินหน้าหาเสียงกันอย่างเข้มข้น ย้ำว่าทุกทีมพร้อมลุย เพื่อไปให้ถึงฝัน ชาวนครหาดใหญ่เท่านั้นที่จะเป็นผู้ชี้ขาด 28 มีนาคม 2564
Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=64598