รัฐมนตรี”พิพัฒน์”เข้าถึงสื่อใต้ ชี้ทุกสื่อร่วมผลักดันการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ยั่งยืน
รัฐมนตรี“พิพัฒน์“เข้าถึงสื่อใต้ ชี้ทุกสื่อร่วมผลักดันการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ยั่งยืน
สมาคมสื่อมวลชนภาคใต้ 2558 โดยนายอนันต์ จันทรัตน์ นายกสมาคมฯ พร้อมกรรมการร่วมจัดกิจกรรมพบปะสื่อมวลชนทั่วภาคใต้ทุกแขนง พูดคุยเรื่อง “บทบาทสื่อกับการท่องเที่ยวและกีฬายุคดิจิตอล“รัฐมนตรีฯท่องเที่ยวและกีฬา ย้ำให้ความสำคัญทุกสื่อทุกแขนงร่วมผลักดันการทีองเที่ยวและกีฬาให้ยั่งยืน เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.65 ที่โรงแรมญันนะตีย์ หาดใหญ่ จ.สงขลา สมาคมสื่อมวลชนภาคใต้ 2558 โดยมีนายอนันต์ จันทรัตน์ นายกสมาคมฯ พร้อมกรรมการร่วมจัดกิจกรรมพบปะสื่อมวลชนทั่วภาคใต้ทุกแขนง พูดคุยเรื่อง “บทบาทสื่อกับการท่องเที่ยวและกีฬายุคดิจิตอล“กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาโดยงานในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เดินทางมาเป็นประธานและร่วมบรรยายในหัวข้อดังกล่าว
นอกจากนี้ยังมี นายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ส.ส.สงขลา เขต 5 สงขลา นายกองเอก พุทธ กฤชคงพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายนิพัฒน์ อุดมอักษร เลขานุการนายกอบจ.สงขลา นายสัมฤทธิ์ บุญรัตน์ รองนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ พร้อมคณะ และแขกผู้มีเกียรติ สื่อมวลชน ร่วมงานประจำปีกับสมาคมสื่อมวลชนภาคใต้ 2558 ในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากล่าวบนเวทีว่า การทำงานเพื่อผลักดันการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้กลับมาคึกคักเหมือนยุคก่อนสถานการณ์โควิด-19 ให้ได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ได้ริเริ่มเปิดการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตในการต้อนรับชาวต่างชาติซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีมีการวางแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวรายจังหวัด กลุ่มจังหวัด ให้เกิดความเชื่อมโยงกันให้มากที่สุดเพื่อเพิ่มรายได้ทางการท่องเที่ยวให้เข้าถึงชุมชนมากที่สุด
ในส่วนของจังหวัดสงขลา ได้ผลักดันการท่องเที่ยวรอบลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวผ่านด่านสะเดา และทุกเส้นทางทั้งทางบก ทางอากาศ ซึ่งในการพัฒนานั้นตนเองอยากให้หาดใหญ่เป็นศูนย์กลางในการต้อนรับนักท่องเที่ยวเพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันอยู่แล้ว โดยให้มาพักที่หาดใหญ่แต่มีการเดินทางท่องเที่ยวไปยังอำเภอรอบๆ และจังหวัดข้างเคียง ซึ่งมีสถานที่สวยงามและไม่ไกลสามารถเดินทางเชื่อมโยงสร้างรายได้สู่ชุมชนเล็กๆด้วย สิ่งเหล่านี้ต้องช่วยกันผลักดันและทำอย่างต่อเนื่องเพื่อความสำเร็จอย่างยั่งยืน ทางด้านนายเดชอิศม์ ขาวทอง(นายกชาย) ได้ขึ้นเวทีร่วมพบปะผู้ร่วมงานได้กล่าวว่าหลายคนอาจคิดว่าตนกับรัฐมนตรีพิพัฒน์ อยู่คนละพรรคแล้วต้องแข่งกันความจริงแล้วอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมเราต้องช่วยกันผลักดัน โดยส่วนตัวรู้จักกันมานานในฐานะคนสงขลาด้วยกัน มีความสนิทสนมและได้รับการช่วยเหลือจากรัฐมนตรีพิพัฒน์มาตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือเรียกได้ว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ถึงแม้จะอยู่คนละพรรคแต่เราพวกเดียวกัน ในฐานะ ส.ส.สมัยแรกขอฝากเนื้อฝากตัวกับสื่อมวลชนและพร้อมรับฟังทุกข้อเสนอแนะจากทุกท่านเพื่อนำไปปรับใช้ในการทำงานให้กับพี่น้องชาวสงขลาและประชาชนทั้งประเทศต่อไป
Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=76235