“ชาวบ้านนาทวี”รุดร้องศูนย์ดำรงธรรม โรงงานเลื่อย/โรงงานฯผลิตเชื้อเพลิงชีวมวล กระทบความเป็นอยู่ซ้ำซาก สร้างปัญหาทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก

“ชาวบ้านนาทวี”รุดร้องศูนย์ดำรงธรรม โรงงานเลื่อยไม้/โรงงานฯผลิตเชื้อเพลิงชีวมวล กระทบความเป็นอยู่ซ้ำซาก สร้างปัญหาทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก

          เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ตัวแทนชาวบ้านหมู่ที่ 3 บ้านลำพด อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม อำเภอนาทวี หลังจากได้รับผลกระทบจากโรงงานประกอบกิจการเลื่อยไม้ มากว่า 2 ปี ซึ่งเคยได้มีการร้องเรียนไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่ปัญหาก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข  และยังคงเกิดปัญหาเดิมซ้ำอีก ประกอบกับเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาได้มีการสร้างโรงงานเพิ่มขึ้นอีก 1 โรงในพื้นที่ติดกัน เป็นโรงงานประกอบกิจการผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่ง ซึ่งซ้ำเติมจากผลกระทบเดิมที่มีอยู่ก่อนแล้ว โดยมีเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา ได้รับหนังสือดังกล่าว และจะนำไปพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป                    นายณัฐกร สุขมี ชาวบ้านลำพดผู้ได้รับผลกระทบ กล่าวว่า ตนได้รับผลกระทบมา 2 ปีกว่า เรื่องแรก คือปัญหาฝุ่นละออง เรื่องที่สอง คือ เสียง ซึ่งโรงงานมีการดำเนินการทั้งกลางวันกลางคืน ไม่ได้มีการแก้ปัญหาโดยมีการทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เป็นเวลา 2 ปีกว่าแล้วที่เป็นอย่างนี้ เรื่องที่สาม คือ เรื่องของกลิ่นเหม็น มีการปล่อยน้ำเสียลงคลองสาธารณะ ลงหลังวัด และผ่านสวนของชาวบ้าน

          และที่หนักสุดตอนนี้ คือ ควันซึ่งส่งกลิ่นไปทั้งหมู่บ้านและหมู่บ้านใกล้เคียง ซึ่งตนมองว่าทั้งหมดคือสารตั้งตนของโรคมะเร็ง และเรื่องการจราจรหน้าโรงงานจะมีรถไม้จอดขวางหน้าบ้าน เวลาขึ้นลงก็ลำบากตอนนี้กังวลเรื่องสุขภาพของลูกหลานจึงไม่ให้เด็กตัวเล็กกลับมาที่บ้าน เพราะกลัวเรื่องฝุ่นละออง ตอนเย็นนั่งหน้าบ้านคือแสบจมูกมาก อยากให้โรงงานแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในทุกๆ ด้าน

         “ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่ โรงงานเปิดอยู่ในชุมชน มีบ้านเรือนชาวบ้าน ชาวบ้านทำกิจกรรมกันตามวิถีชีวิต แต่เมื่อมีโรงงานแห่งนี้เกิดขึ้นกลับทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ทั้งยังมีผลกระทบต่อสุขภาพ และในอนาคตนั้นเกรงว่าจะมีผลกระทบเพิ่มมากขึ้นจึงอยากให้ส่วนราชการเร่งรัดแก้ปัญหาอย่างจริงจัง โดยเฉพาะเราได้ร้องเรียนไปที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอนาทวีแล้วหลายครั้ง จึงอยากให้ส่วนราชการเห็นใจและแก้ปัญหาอย่างจริงจัง

         ทั้งนี้หากปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข ชาวบ้านก็จะเดินทางเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อให้ลงพื้นที่สัมผัสกับปัญหาที่เกิดขึ้นบ้าง” ตัวแทนชาวบ้านกล่าว

 

 

 

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=98046