|

“อดทน อดกลั้น อดออม” นำพาสู่ความสำเร็จ ดร.ชวลิต หมื่นนุช ที่ปรึกษาอธิการบดี ม.หาดใหญ่

p1017116
“ดร.ชวลิต หมื่นนุช” กับบทบาทที่ปรึกษาอธิการบดีมหาวิทยาลัยหาดใหญ่ เผยปรัชญาชีวิต “เวลาเรียน เรียนไปให้สูงศักดิ์ เวลารัก รักจริงในสิ่งหมาย เวลาพัก พักไปให้สบาย เวลาทำ ทำให้เสร็จสำเร็จการ” พร้อมยึดหลัก “อดทน อดกลั้น อดออม ไม่ลืมตัว” เป็นแนวทางสู่ความสำเร็จ

การทำงานตั้งแต่อดีต – ปัจจุบัน
ผมจบการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต รุ่นที่ 1 มหาวิทยาลัยรามคำแหง หลังจากนั้นได้เข้าทำงานที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2518 จนกระทั่งเกษียณเมื่อ พ.ศ.2556 และลาออกมาในปี พ.ศ. 2558 รวมระยะเวลา 40 ปีเศษ ตลอดระยะเวลาการทำงาน ผมได้ดำรงตำแหน่งหน้าที่ต่างๆ มากมาย ซึ่งตำแหน่งสุดท้ายที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ ณ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ คือ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ 21 ปีเศษ และเลขาธิการสภามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ในช่วงปลายการทำงานนั้น ผมได้มีส่วนช่วยงานด้านอุดมศึกษาของทบวงมหาวิทยาลัย หรือ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาในปัจจุบัน รวมทั้ง ได้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย เป็นเวลา 6 สมัย หรือ 12 ปี อีกด้วย

ปัจจุบันยังคงทำงานต่อเนื่องในหลายตำแหน่งจากอดีต ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งคณะกรรมการ ในคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ได้รับคัดเลือกให้เป็นกรรมการพัฒนาระบบการประเมินคุณภาพการศึกษาระดับอุดมศึกษา (กพอ.) ของ สมศ. โดยได้ทำหน้าที่ติดตามและประเมินงานของสถาบันอุดมศึกษาทั้งภาครัฐและภาคเอกชน อนุกรรมการด้านการบริหารงานบุคลากรของสถาบันทดสอบแห่งชาติ กรรมการสภามหาวิทยาลัยรวม 5 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล วิทยาลัยเซนต์หลุยส์ สถาบันเทคโนโลยีแห่งสุวรรณภูมิ และสถาบันวิทยาการจัดการแปซิฟิก จ.พะเยา ล่าสุดได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการควบคุมมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ รวมทั้ง ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีสถาบันอุดมศึกษาเอกชน 10 แห่ง ที่จัดการศึกษาไม่เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน

ที่ปรึกษาอธิการบดีมหาวิทยาลัยหาดใหญ่เต็มตัว

ผมมีความผูกพันกับมหาวิทยาลัยหาดใหญ่เป็นพิเศษ โดยได้รับเกียรติจากมหาวิทยาลัยให้เป็นกรรมการสภา และได้มีส่วนช่วยในการจัดทำหลักสูตร MBA ของมหาวิทยาลัยและมาช่วยสอนอยู่ 3 รุ่น ซึ่งหลังจากที่ผมได้เกษียณจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญแล้ว ท่านผู้รับใบอนุญาตและท่านอธิการบดีได้เชิญให้มาเป็นที่ปรึกษาอธิการบดีอย่างเต็มตัว ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ทำหน้าที่นี้อยู่แล้ว แต่อาจจะไม่ค่อยได้เข้ามาที่มหาวิทยาลัย ในช่วงนั้นเวลาที่มหาวิทยาลัยมีปัญหาหรือมีเรื่องใด ๆ ที่จะขอคำปรึกษา จะมีการพูดคุยทางโทรศัพท์หรือส่งโทรสารปรึกษา แต่หลังจากเกษียณแล้ว ท่านอธิการบดีเชิญมาที่มหาวิทยาลัยอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง ครั้งละ 2 วัน
มหาวิทยาลัยหาดใหญ่เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนที่มีพัฒนาการเร็ว ท่านผู้รับใบอนุญาต และผู้บริหารมีความมุ่งมั่นที่จะจัดการศึกษาให้มีคุณภาพ มีการให้ทุนการศึกษาแก่บุคลากรเพื่อศึกษาต่อในระดับปริญญาโท และปริญญาเอก เพื่อรองรับการพัฒนางานต่อไป ซึ่งผมเป็นที่ปรึกษาด้าน HR ของมหาวิทยาลัยด้วย โดยในการพัฒนางานด้านการบริหารบุคคลนั้นอาจมีปัญหาและอุปสรรคบ้าง ผมจึงได้ใช้ประสบการณ์ที่มีอยู่ช่วยแก้ปัญหาและการดำเนินการต่างๆ มาโดยตลอด ทั้งนี้ ทางผู้บริหารมหาวิทยาลัยหาดใหญ่มีเป้าหมายที่จะพัฒนามหาวิทยาลัยให้เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทย รวมทั้งต้องการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ผมจึงได้อาศัยประสบการณ์ที่ได้สั่งสมมาเป็นระยะเวลากว่า 40 ปี มาช่วยพัฒนางานดังกล่าว

ยามว่างชอบอ่านหนังสือและออกกำลังกาย

ผมค่อนข้างจะดำเนินชีวิตไปตามแผนที่วางไว้ ซึ่งเป็นอุปนิสัยที่ดำเนินมาตั้งแต่สมัยเรียน คือ มีความมุ่งมั่น ตอนเด็ก ๆ ชอบอ่านหนังสือและไปอ่านเจอ มีคนเคยกล่าวว่า “เวลาเรียน เรียนไป ให้สูงศักดิ์ เวลารัก รักจริง ในสิ่งหมาย เวลาพัก พักไป ให้สบาย เวลาทำ ทำให้เสร็จ สำเร็จการ” ซึ่งคำสอนดังกล่าวนี้ ผมได้นำมาใช้ตลอด ทั้งนี้ ชีวิตผมจะอยู่แค่ที่ทำงานกับบ้าน บ้านและที่ทำงาน ไม่ได้ไปเที่ยวเตร่ที่ไหน นอกเหนือจากนั้น ผมทำเกี่ยวกับงานสังคมที่เกี่ยวข้องกับการทำงานในมหาวิทยาลัย ญาติพี่น้อง และเพื่อนฝูง แต่ส่วนใหญ่ผมจะใช้เวลาไปกับการอ่านหนังสือ ออกกำลังกาย ดูหนัง TV ฟังเพลง และดูแลต้นไม้บ้าง ส่วนเวลาว่างกับครอบครัวนั้น เราจะรับประทานอาหารร่วมกัน พูดคุยกัน ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันภายในบ้าน
ผมอ่านหนังสือทุกประเภท สมัยก่อนจะเป็นแนวสารคดี หนังสือท่องเที่ยว ผมชอบสะสมหนังสือที่เป็นความรู้เรื่องการบริหารจัดการท่องเที่ยว Health and Cuisine รวมทั้งหนังสือที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี เพราะปัจจุบันเทคโนโลยีต่างๆ เปลี่ยนแปลงเร็ว ในฐานะที่เป็นครูบาอาจารย์ จะต้องมีการติดตามเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งถ้าเราก้าวไม่ทันเทคโนโลยี เราจะกลายเป็นคนที่ล้าสมัย

“อดทน อดกลั้น อดออม” นำพาสู่ความสำเร็จ

ผมเป็นลูกชาวนา เรียนปริญญาตรีโดยเงินจากคุณพ่อและคุณแม่ ส่วนปริญญาโทและปริญญาเอกนั้นถูกจ้างไปเรียน ซึ่งปรัชญาในการใช้ชีวิตของผมก็คือ “เวลาเรียน เรียนไป ให้สูงศักดิ์ เวลารัก รักจริง ในสิ่งหมาย เวลาพัก พักไป ให้สบาย เวลาทำ ทำให้เสร็จ สำเร็จการ” และการที่ผมเป็นลูกชาวนา ผมถูกสอนให้รู้จักใช้เงินและใช้ชีวิต พ่อแม่ผมได้สอนว่า “นกน้อยสร้างรังแต่พอตัว” “เห็นช้างขี้อย่าขี้ตามช้าง” กอปรกับโบราณได้สอนไว้ว่า “มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์ มีน้อยใช้น้อยค่อยบรรจง อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนาน” สิ่งเหล่านี้ได้สอนผมมาตั้งแต่เด็ก และผมได้เห็นคุณพ่อคุณแม่ทำเป็นตัวอย่าง ผมจึงได้ซึมซับและได้ยึดเป็นหลักในการดำเนินชีวิตมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา อะไรไม่สำคัญอย่าไปตาม เป็นตัวของตัวเองดีที่สุด และรู้จัก “อดทน อดกลั้น และอดออม”
ผมจะสอนลูกและลูกศิษย์เสมอว่า คนเราจะประสบความสำเร็จได้ด้วยความอดทนมานะพากเพียร อดกลั้น และอดออม อดทนทำในสิ่งที่คนอื่นทำได้ยาก อดกลั้นต่อสิ่งที่เข้ามาชักจูงและกระตุ้นให้ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และอดออมจะทำให้เราสามารถสร้างความเป็นปึกแผ่นมั่งคั่งให้แก่ครอบครัว เพราะฉะนั้นการใช้ชีวิตอย่างมีแผนจะช่วยให้เราไม่ผิดพลาด และสามารถเดินไปได้อย่างมั่นคงและเรียบร้อย รวมทั้งไม่มีอะไรเข้ามาทำให้เราต้องเดือดเนื้อร้อนใจอีกด้วย

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=10960

แสดงความคิดเห็น

Share It

ความคิดเห็นล่าสุด

ข่าวมาใหม่

Find Us