|

ม.อ. ผนึกกำลัง สวก. ผลักดันเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันรายย่อย สู่มาตรฐาน GAP – RSPO

%e0%b8%99%e0%b8%b3%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%99%e0%b8%ad%e0%b8%9c%e0%b8%a5%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b8%b1%e0%b8%a2-4

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) สัมมนารายงานผลการวิจัย โครงการ “การพัฒนากลุ่มเกษตรกรรายย่อยอย่างมีส่วนร่วมในการผลิตปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืนตามมาตรฐาน GAP และ RSPO” หวังส่งเสริมและพัฒนากลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันรายย่อย เพื่อมุ่งเข้าสู่การรับรอง GAP และ RSPO”

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) จัดสัมมนารายงานผลการวิจัย โครงการ “การพัฒนากลุ่มเกษตรกรรายย่อยอย่างมีส่วนร่วมในการผลิตปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืนตามมาตรฐาน GAP และ RSPO” นำโดย รศ.ดร.สุธัญญา ทองรักษ์ และผศ.ดร.สิริรัตน์ เกียรติปฐมชัย (อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ ม.อ.) อาจารย์ธีระพงศ์ จันทรนิยม (ผู้เชี่ยวชาญด้านปาล์มน้ำมัน จากศูนย์วิจัยและพัฒนาการผลิตปาล์มน้ำมัน คณะทรัพยากรธรรมชาติ ม.อ.) และ คุณธิตินัย พงศ์พิริยะกิจ (ตัวแทน RSPO Thailand) ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2559 ณ โรงแรมแก้วสมุย จ.สุราษฎร์ธานี มีผู้เข้าร่วมงานจากภาครัฐ ภาคเอกชน โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบ บุคลากรทางการศึกษา และเกษตรกรผู้ผลิตปาล์มน้ำมันในภาคใต้ กว่า 170 คน

%e0%b8%9c%e0%b8%a8-%e0%b8%94%e0%b8%a3-%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%95%e0%b8%99%e0%b9%8c-%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%a3%e0%b8%95%e0%b8%b4%e0%b8%9b

ดังที่ทราบกันดีว่า ไทยเป็นผู้ผลิตปาล์มน้ำมันอันดับ 3 ของโลกรองจากประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซีย แต่ในโครงสร้างของผู้ผลิตของไทยมีสัดส่วนของเกษตรกรรายย่อยจำนวนมาก (ประมาณร้อยละ 80) ซึ่งปัจจุบัน (ปี 2559) มีเกษตรกรรายย่อยมากกว่า 2 แสนราย และเกษตรกรรายย่อยส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการสวนปาล์มน้ำมันที่เหมาะสม (GAP) ขาดการบันทึกข้อมูล ขาดแรงจูงใจในการผลิตปาล์มคุณภาพ ขาดการรวมกลุ่ม ส่งผลให้ผลผลิตต่อไร่ต่ำและต้นทุนการผลิตสูงกว่าที่ควรจะเป็น ประกอบกับในมุมของโรงงานสกัดยังขาดความร่วมมือกับเกษตรกรในการพัฒนาปาล์มคุณภาพและพัฒนากลุ่มเกษตรกรให้เป็นพันธมิตรทางธุรกิจอย่างแท้จริง นอกจากนี้อุตสาหกรรม ยังต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมภายนอกค่อนข้างมาก ทั้งการแข่งขันและความต้องการของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนมากขึ้น ซึ่งการปฏิบัติตามมาตรฐาน GAP และ RSPO เป็นแนวทางที่สามารถช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้

%e0%b8%99%e0%b8%b3%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%99%e0%b8%ad%e0%b8%9c%e0%b8%a5%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b8%b1%e0%b8%a2-1

ซึ่งงานวิจัยนี้ได้ดำเนินการขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนากลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันรายย่อยเพื่อมุ่งเข้าสู่การรับรอง GAP และ RSPO รวมทั้ง ส่งเสริมและพัฒนากลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันรายย่อยที่ผ่านการรับรอง RSPO ให้ยึดมั่นและรักษาระบบควบคุมภายใน (ICS) 2) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตปาล์มน้ำมันบนฐานความรู้ของเกษตรกรมืออาชีพ (Smart farmers) และ 3) เพื่อคัดเลือกและจัดทำกรณีศึกษาเกษตรกรมืออาชีพด้านการผลิตปาล์มน้ำมันในพื้นที่จังหวัด สุราษฎร์ธานี ตรัง และสระแก้วมีเป้าหมายกลุ่มเกษตรกร 8 กลุ่ม (กลุ่มนำร่องเดิม 4 กลุ่ม กลุ่มที่จัดตั้งใหม่ 4 กลุ่ม) และโรงงานน้ำมันปาล์มดิบ 7 โรง เกษตรกร 1,000 รายเข้าร่วมโครงการระยะเวลาการวิจัยประมาณ 3 ปี

ทั้งนี้ ในการดำเนินโครงการมีกิจกรรมหลักดังนี้ 1) เริ่มจากคัดเลือกโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบ 2) มีการรวมกลุ่มเกษตรกรรายย่อย 3) จัดหาพี่เลี้ยงเกษตรกรประจำกลุ่ม 4) จัดตั้งกลุ่มและวางระบบการบริหารงานกลุ่มตามหลักการบริหารจัดการความยั่งยืน ฝึกอบรมและจัดดูงานให้กับเกษตรกรสมาชิกกลุ่มในการจัดอบรม มีทั้งหมด 10 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรการจัดการสวนปาล์ม การใช้ปุ๋ยในสวนปาล์มการเป็นผู้ประกอบการด้านการผลิตปาล์มน้ำมันการบริหารจัดการข้อมูลและฐานข้อมูล การสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มอาชีวอนามัยและความปลอดภัย  การอนุรักษ์ดิน น้ำ และทรัพยากรธรรมชาติและการจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสาน แนวปฏิบัติตามมาตรฐานการผลิตปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืน: GAP/RSPO พื้นที่ที่มีคุณค่าสูงต่อการอนุรักษ์ และระบบควบคุมภายใน พร้อมเอกสารประกอบการอบรม และมีการติดตามผลการดำเนินของกลุ่มและสมาชิกอย่างต่อเนื่อง

%e0%b8%99%e0%b8%b3%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%99%e0%b8%ad%e0%b8%9c%e0%b8%a5%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b8%b1%e0%b8%a2-2

ผลการวิจัยพบว่า จากข้อมูลจนถึงเดือนตุลาคม 2559 มีเกษตรกรที่เป็นสมาชิกกลุ่มทั้ง 8 กลุ่ม 959 ราย มีสวนปาล์มที่เข้าร่วมโครงการ 36,592ไร่ กลุ่มนำร่องเดิมผ่านการตรวจรับรองมาตรฐาน RSPO ประจำปี 3 กลุ่ม อีกหนึ่งกลุ่ม ไม่ได้ขอการรับรองเนื่องจากมีปัญหาเรื่องแรงงานต่างด้าว สำหรับกลุ่มที่จัดตั้งใหม่ ทั้ง 4 กลุ่มได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อขอการตรวจรับรองโดยการทำ Pre-audit แล้วทั้ง 4 กลุ่ม คาดว่ากลุ่มจะมีการปรับปรุงการบริหารจัดการกลุ่มตามผลการ Pre-audit และเตรียมการเพื่อการตรวจรับรองกลุ่มในปี 2560

เกษตรกรที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มและเข้ามามีส่วนร่วมในการอบรมและดูงาน ได้รับความรู้และนำความรู้ไปปฏิบัติในการจัดการสวนปาล์มในหลายประเด็น ที่สำคัญ เช่น การใช้แม่ปุ๋ยแทนปุ๋ยผสม การใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน/ใบ การวางทางใบคลุมสวนปาล์มเพื่อรักษาความชื้นและลดปัญหาวัชพืชมีการจดบันทึกข้อมูลละเอียดและเป็นระบบมากขึ้นมีการจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสาน มีการลดการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชและไม่ใช้สารเคมีขายปาล์มให้กับลานเท/โรงงานเครือข่ายได้ราคาส่วนเพิ่มการรวมกันซื้อปุ๋ยกับกลุ่มและโรงงานเครือข่ายเป็นต้น และจากการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับผลผลิตและต้นทุนพบว่าเกษตรกรที่นำความรู้ดังกล่าวไปปฏิบัติ มีประสิทธิภาพในการผลิตปาล์มน้ำมันมากขึ้น ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่สูงขึ้นและ/หรือต้นทุนการผลิตต่อหน่วยลดลง มีเกษตรกรอย่างน้อย 35 ราย(จากที่วิเคราะห์ 309 ราย) ได้ผลผลิตเฉลี่ยมากกว่า 4 ตัน/ไร่/ปี บางรายได้ผลผลิตสูงถึง 8.659 ตัน/ไร่/ปี ในปี 2558 ซึ่งถือว่าสูงมาก เนื่องจากในปี 2558 ผลผลิตเฉลี่ยในภาพรวมของประเทศ 2.576 ตัน/ไร่ และโครงการได้คัดเลือกเกษตรกรมืออาชีพด้านการผลิตปาล์มน้ำมันเพื่อจัดทำกรณีศึกษาทั้งหมด 14 ราย เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ของเกษตรกรรายอื่นต่อไป

%e0%b8%99%e0%b8%b3%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%99%e0%b8%ad%e0%b8%9c%e0%b8%a5%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b8%b1%e0%b8%a2-5

จากผลการวิจัย ทีมวิจัยมีข้อเสนอแนะรูปแบบการพัฒนากลุ่มเพื่อผลิตปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืนแก่ผู้เกี่ยวข้องในการผลิตปาล์มน้ำมัน ดังนี้ สำหรับเกษตรกรรายย่อย ควรมีความมุ่งมั่นพร้อมที่จะพัฒนาการผลิต การทำงานและปฏิบัติตามกฎระเบียบของกลุ่ม มีการดูแลจัดการสวนด้วยตนเอง นำความรู้ไปปฏิบัติจริง จงรักภักดีต่อกลุ่ม เชื่อและให้ความสำคัญกับความรู้ ส่วนกลุ่มเกษตรกรรายย่อยนั้นควรกำหนดวัตถุประสงค์การรวมกลุ่มที่ชัดเจน จัดโครงสร้างและกฎระเบียบการบริหารจัดการกลุ่ม มีกรรมการที่มีความพร้อม เสียสละในการทำกิจกรรมและพัฒนากลุ่ม มีผู้จัดการกลุ่มและพี่เลี้ยงเกษตรกร ทำงานกับสมาชิกและจัดทำเอกสารกลุ่มที่สองคล้องกับระบบที่ต้องการขอรับการรับรอง สำหรับโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบ ควรสนับสนุนกิจกรรมกลุ่ม ให้ความช่วยเหลือด้านวิชาการ ให้ข้อมูลข่าวสารและให้ราคาตามคุณภาพกับสมาชิกนอกจากนี้ทีมวิจัยได้ให้ข้อเสนอแนะแก่หน่วยงานภาครัฐว่า ควรให้การสนับสนุนด้านวิชาการและข้อมูลข่าวสาร วิจัยและพัฒนาเพื่อแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง กำหนดนโยบายและสนับสนุนการผลิตปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืน

ในการจัดสัมมนาครั้งนี้ ทีมผู้จัดขอขอบคุณสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตรที่ให้การสนับสนุนเงินทุนวิจัยเกษตรกรและกรรมการกลุ่ม โรงงานเครือข่าย ทีมวิจัย และพี่เลี้ยงเกษตรกร ที่ทำให้การวิจัยสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ทั้งนี้หากหน่วยงานใดสนใจจะนำผลการวิจัยไปใช้ประโยชน์ สามารถติดต่อ หัวหน้าทีมวิจัย รศ.ดร.สุธัญญา ทองรักษ์ ได้ที่คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โทร. 074-282471, 081-7381257 หรือ อีเมล์ sutonya.t@psu.ac.th

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=10975

แสดงความคิดเห็น

Share It

ความคิดเห็นล่าสุด

ข่าวมาใหม่

Find Us