|

‘สจ.ชาย’ ตีตั๋ว! นั่งนายก อบต.เขามีเกียรติ

จะด้วยเป็นคุณลักษณะของนักการเมือง ที่ “จมูกไว” หรือจะด้วยเพราะ “กระแส” ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกขณะ ทำให้บรรยากาศการเมืองขยับเข้าสู่การเลือกตั้งมาตามลำดับ นับแต่รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มีผลบังคับใช้  วันนี้จึงเห็นชัดเจนว่าบรรดานักการเมืองทั้งระดับชาติและท้องถิ่น ที่พร้อมแปรไปสู่ “นักเลือกตั้ง” เมื่อถึงวันที่สนามเลือกตั้งเปิดขึ้น ซึ่งตามที่คาดเดา เอาไว้ก็ประมาณเดือน ส.ค. 2561 จึงพากันเคลื่อนไหวเตรียมตัว แต่งหน้า ทาปาก จัดทัพรับศึกเลือกตั้งกันอย่างคึกคัก

ไม่ต่างกับ “ธนพล ศรีเนตร” นักการเมืองท้องถิ่นที่ชาวบ้าน อ.สะเดา จ.สงขลา เรียกกันติดปากว่า  “สจ.ชาย” อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขามีเกียตริ และอดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา อ.สะเดา  จ.สงขลา ซึ่งตลอดระยะเวลาบนถนนสาย “ขรุขระ”  ของการเมืองท้องถิ่นที่ผ่านมา ก็ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ สะสมชั่วโมงบิน บนวิถีแนวทางทำ “การเมืองเพื่อสังคม” มาตลอด 20 กว่าปี  แต่ทว่าความสงบ ราบรื่น ในทะเลกว้าง มันไม่มี ฉันใด การเมืองบ้านเราก็เป็นฉันนั้น

18010784_1252800461484988_3348787174553937511_n

“ ผมก้าวเข้ามาเป็นนักการเมืองครั้งแรกใน  ตำแหน่งรองนายกอบต.เขามีเกียตริ จนขยับขึ้นมาเป็นสจ. ด้วยเหตุผลที่ว่า หากเป็น สจ. เราสามารถช่วยเหลือชาวบ้านได้มากกว่า     ผมตัดสินใจลาออกจากรองนายกฯ พร้อมกับลงสมัครสจ.ทีม “นายกชาย”   พร้อมกับได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.อบจ. สงขลา เขต 1 อ.สะเดา ซึ่งในการดำรงตำแหน่ง 1 สมัยระหว่างนั้น นอกจากความยากลำบากในการประสานงบประมาณ   จากหน่วยงานต่างเพื่อนำมาพัฒนาและแก้ปัญหาให้กับพี่น้องพื้นที่แล้วตำแหน่ง สจ.ยังทำให้ผมมองว่า   การช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ยามเดือนร้อน มันไม่สามารถทำได้ทันท่วงที ไหนจะประสาน กว่าความช่วยเหลือเข้าไปถึงชาวบ้าน  บางครั้งต้องรอคิว  และที่หนักข้อไปกว่านั้นคือ ไม่นำเอาการเมืองมายึดโยงกับประชาชนให้เกิดการพัฒนาที่เท่าเทียมกัน  แต่กลับเอาการเมืองไปยึดโยงไว้กับพวกพ้องตนเอง ทำให้ผมรู้สึกว่าบริบทของสจ. นอกจากไม่สามารถช่วยชาวบ้านแล้ว ยังมีหน้าที่เป็นฝีพายเรือ ให้โจรนั่งอีกหนึ่งหน้าที่ ถ้าคนไหนไม่พายก็จะโดนถีบตกน้ำ ซึ่งผมก็เป็นอีกหนึ่งคนในจำนวน สจ.ที่โดนถีบลงน้ำ ด้วยข้อหาแข็งข้ออภิปราย ไม่ไว้ใจนายกฯ เลยโดน “วิชามาร” การเมืองไทย ถล่ม จนทำให้ผมพ้นสภาพตำแหน่งสจ.”  สจ.ชาย กล่าว

แต่อย่างไรก็ตามตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ถึงแม้จะไม่มี “หัวโขน” ใส่ แต่ สจ.ชาย ก็ยังดำเนินแนวทาง “การเมืองเพื่อสังคม”  ต่อไป เท่าที่ทำได้  โดยเฉพาะความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สิน  ของผู้ที่ใช้รถใช้ถนน สาย กาญจนวนิช เชื่อมต่อระหว่างประเทศ จากเขตแดน – เมืองหาดใหญ่  ซึ่งถนนสายนี้ในเขตอำเภอสะเดา ทุกวันจะมีรถบรรทุก เศษยางพารา และขี้ยางก้อนเปียก วิ่งส่งโรงงานอุตสาหกรรมยางพารา ซึ่งบางคัน ปล่อยน้ำเสีย เรี่ยราดบนถนน  พอช่วงฝนตกใหม่ๆจะทำให้ถนนลื่นและเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง

“ผมรู้สึกไม่สบายใจทุกครั้ง หลังจากที่ทราบว่า มีคนเสียชีวิต ด้วยอุบัติเหตุ บนถนนสายนี้ เนื่องจากเราทราบปัญหาว่ามันเกิดจากความมักง่าย และไม่รับผิดชอบต่อสังคมของคนบางกลุ่ม   ผมจึงประสานผ่านไปทางท่านนิกร จำนง  สมาชิก สปท. เพื่อนำปัญหานี้เข้าประชุมสภาฯ เพื่อหาทางแก้ไข และให้ทางเจ้าหน้าที่กวดขันรถบรรทุกที่มีน้ำ มีดิน ที่ตกเรี่ยราดพื้นผิวถนนอย่างจริงจัง”

17757539_1443917275640168_4202525180327206687_n

(ขณะเยี่ยมจุดตรวจร่วมเจ็ดวันอันตราย มีท่านรองผู้กำกับพ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์  สภ.คลองแงะ และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ฝ่ายปกครองอำเภอสะเดา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมรับ เครื่องดื่ม น้ำ ผ้าเย็น ไว้บริการเจ้าหน้าที่และประชาชน)

ล่าสุดนี้ “สจ.ชาย” สารภาพ กับ “เลาะรั้ว ท้องถิ่น ”  ถึงแม้ว่าจะเบื่อการเมืองในสนามใหญ่  แต่หัวใจยังคงยึดมั่นแนวทาง “การเมืองเพื่อสังคม”  และพร้อมที่จะเข้ามา “รับใช้” พี่น้องชาวบ้านตำบลเขามีเกียรติ พร้อมที่จะสานงานต่อ “นายกสุพร โชติศิริ”  อดีตนายกอบต.เขามีเกียรติ ที่เสียชีวิตลงด้วยโรคประจำตัว

17862521_1443917325640163_850063265585033090_n

  ก่อนหน้านี้เห็นว่าเบื่อการเมือง ทำไมประสงค์จะมาลงสมัครนายกเขามีเกียรติ  ?

            “สำหรับตัวผมที่ผ่านมาตำแหน่งทางการเมืองคือสิ่งที่จะนำมาใช้เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน อ.สะเดา และ ต. เขามีเกียรติได้ แต่ที่เบื่อ…คือเบื่อการเมืองแบบไทยๆ มากกว่า !

  การเมืองแบบไหนครับ ?

            “ก็เป็นอย่างที่ผมโดนไง !  ผมมุ่งมั่นทำงานหาเสียงกว่าจะได้เข้าไปเป็นปากเป็นเสียงพี่น้อง อ.สะเดา เลือดตาแทบกระเด็น เข้าไปก็ด้วยความหวังที่จะทวงคืนโอกาสในการพัฒนาด้านต่างๆ ให้กับชาว อ.สะเดา ในห่วงเวลาที่อบจ.สงขลาอยู่ภายใต้ความขัดแย้ง ทาง การเมืองแบ่งฝักแบ่งฝ่ายที่รุนแรง ผมโดนถล่มทางการเมือง จนแพ้การเลือกตั้ง ซึ่งมันทำลายโอกาสของการพัฒนา อ.สะเดาอย่างมาก”

ช่วงเว้นวรรคเป็นอย่างไรบ้าง ?

“หากในเรื่องส่วนตัว ผมก็มีความสุขมากที่ได้อยู่กับครอบครัว อยู่กับเพื่อนร่วมงาน มีเงินเหลือก็ช่วยเหลือสังคมนอกจากนั้นก็ได้มีเวลาพาครอบครัวท่องเที่ยว มีความสุขมากเลยครับ…

แสดงว่ามีความสุขมากกว่ามีตำแหน่งทางการเมือง ?

          “ครอบครัวคือความสุข ความอบอุ่นที่สุดของผม แต่การทำงานให้สังคมก็เป็นหน้าที่ เราเป็นคนต้องทำตัวให้มีค่าถึงจะมีตำแหน่งหรือไม่ผมและครอบครัวผมก็ทำงานช่วยสังคมมาตลอด

ตอนนี้เตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งไว้อย่างไร ?

                “ สำหรับตัวผมพร้อมทุกวัน เพราะมันอยู่ในสายเลือด ส่วนทีมผู้บริหารและสมาชิก เราก็มีคนเก่าๆซึ่งคงไว้ถึงการเข้าใจบริบทในพื้นที่  ที่มีความสามารถที่มีประสบการณ์ และพร้อมที่จะสานงานด้านการพัฒนาต่อจาก อดีตนายก สุพร โชติศิริ ที่เสียชีวิตไป และก่องานใหม่ ให้พี่น้องชาว ต.เขามีเกียรติมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”

สุดท้ายนี้จะพูดอะไรกับชาวอ.สะเดา และ ชาว ต.เขามีเกียรติ  ?

       “ผมอยากบอกว่า ที่ผ่านมาผมมีความบริสุทธิ์ใจที่จะทำประโยชน์ให้กับพ่อแม่พี่น้อง อ.สะเดา และต่อไปมีความตั้งใจ ที่จะทำประโยชน์ให้กับพี่น้อง ต.เขามีเกียรติ โดยไม่หวังชื่อเสียง เกียรติยศ เงินทอง เพราะ ชื่อเสียง เกียรติยศ เงินทอง ไม่ใช่ความสุขของผม !  ความสุขของผมคือ  ครอบครัว ซึ่งเราสมบูรณ์อยู่แล้ว….ที่ทำอยู่ก็เพราะต้องการทำตัวให้ มีประโยชน์ คุ้มค่ากับการที่ได้เกิดมา มันเป็นความภูมิใจที่ยิ่งใหญ่มากกว่า เกียรติยศ เงินทอง…แต่ขณะเดียวกัน การพัฒนา ต.เขามีเกียรติ นั้นผมหรือใครคนใดคนหนึ่ง ไม่สามารถทำคน เดียวได้  ต.เขามีเกียรติไม่สามารถพัฒนาแต่เฉพาะวัตถุได้…ต้องพัฒนาไปพร้อมกัน ทั้งด้าน  เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องสังคม เรื่องการศึกษา เรื่องสิ่งแวดล้อมมันเป็นหน้าที่ของคนต.เขามีเกียรติทุกๆ คนต้องช่วยกัน…ขอให้ทุกคนรัก “เขามีเกียรติ” จริง แล้วช่วยกัน”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=15774

แสดงความคิดเห็น

Share It

ความคิดเห็นล่าสุด

ข่าวมาใหม่

Find Us