|

“ชุมชนวัดควนมีด” โรงเรียนวิถีพุทธ ใกล้ชิดชุมชน

IMG_7499

“โรงเรียนชุมชนวัดควนมีดเป็นโรงเรียนวิถีพุทธชั้นนำ ที่มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ครูและบุคลากร เทคโนโลยีให้ได้คุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานการศึกษา ด้วยการมีส่วนร่วม” นี่คือวิสัยทัศน์ของโรงเรียนชุมชนวัดควนมีด ที่นอกจากจะเป็นโรงเรียนวิถีพุทธแล้ว โรงเรียนยังมีความใกล้ชิดกับชุมชนอีกด้วย

นายสุพล บทจร ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนวัดควนมีด กล่าวถึงนโยบายในการพัฒนาโรงเรียน ว่า เนื่องจากมีแรงบันดาลในการสอนนักเรียนในสมัยเป็นครูผู้สอน โดยเริ่มต้นจากครูโรงเรียนบ้านควนเสม็ด อำเภอสะเดา และย้ายมาโรงเรียนบ้านนนท์ อำเภอจะนะ ซึ่งโรงเรียนบ้านนนท์ในขณะนั้นถ้าเทียบคะแนนกับโรงเรียนอื่นๆ ในอำเภอจะนะแล้ว เป็นโรงเรียนที่ถูกจัดลำดับเป็นรองสุดท้ายของอำเภอ โดยวัดกันที่ผลของการสอนนักเรียนชั้นสูงสุด จากวันที่เริ่มเข้าสอนได้รับมอบหมายให้สอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และพ่วงด้วยนักเรียนเตรียมอีก 10 กว่าคน โดยมีความมุ่งมั่นตั้งใจไว้ว่า ถ้ากลับมาอยู่ที่บ้านเกิด ทำงานที่บ้าน จะไม่ทำให้ชื่อเสียงของพ่อแม่ ญาติพี่น้องต้องเสียหาย และต้องทำงานเพื่อตอบแทนคุณแผ่นดินเกิด จึงมุ่งมั่นทำงานจนปีที่ 2 ได้เลื่อนชั้นสอน ป.4 – 6 ในวิชาคณิตศาสตร์ ในปีนั้นเองได้ค้นพบความจริงในการสอนนักเรียน สอนอย่างจริงจัง ประเมินผลตามจุดประสงค์ ไม่ผ่านสอน ซ่อมจนผ่าน เครื่องมือไม่มี ซื้อให้เอง ปรากฏว่าในปีต่อมาโรงเรียนบ้านนนท์ได้เลื่อนจากรองสุดท้ายมาเป็นลำดับที่ 9 ของอำเภอจะนะ ซึ่งจากแรงบันดาลใจ และผลจากการสอนจริง วัดจริง ประเมินจริง ทำให้รู้ว่าถ้าหากได้ทำงานอย่างจริงจังโดยยึดผลประโยชน์ของนักเรียนเป็นที่ตั้ง เราจะพัฒนาเขาได้

เมื่อเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหาร โดยเริ่มตั้งแต่โรงเรียนบ้านเกาะใหญ่ มาโรงเรียนบ้านทุ่งนาเคียน และโรงเรียนชุมชนวัคควนมีด พบว่าชุมชนทั้งหมดต้องการให้ครูเข้าไปพูดคุย พบปะ เยี่ยมเยียน และเป็นกันเองกับชุมชน รวมทั้งชุมชนยังต้องการให้ลูกเป็นคนเก่ง เป็นคนดี มีวินัย และสามารถสอบเข้าเรียนต่อโรงเรียนประจำจังหวัดได้จำนวนมาก

โดยลำดับแรกที่เริ่มพัฒนาโรงเรียนวัดควนมีด คือการพัฒนาด้านสถานที่ ปรับปรุงห้องเรียน ห้องพิเศษ ระดมทุนทำรั้วโรงเรียน ถนนคอนกรีตภายในโรงเรียน ควบคู่กับการพัฒนาครูผู้สอนให้สอนจริงจัง วัดผลจริงจัง โดยดำเนินการตามคู่มือโรงเรียนวิถีพุทธ ใช้หลักการ บวร (บ้าน วัด โรงเรียน) ให้ชุมชนตระหนักในความเป็นเจ้าของ โดยเฉพาะในการระดมทุน 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 ในปี 2547 ได้แรงศรัทธาจากชุมชนจำนวนเกือบ 700,000 บาท ปี 2549 ปี 2551 ได้ 450,000 บาท และ 400,000 บาท ตามลำดับ และพัฒนามาเป็นโรงเรียนวิถีพุทธชั้นนำในปี 2550

ลำดับ 2 ในการพัฒนาคือ ด้วยประสบการณ์การทำงานเป็นครูผู้สอนมาก่อน จึงทำให้ครูสอนจริง ในระดับชั้นอนุบาลให้เตรียมความพร้อมต่อ ป.1 – 3 เตรียมให้นักเรียนอ่านออกเขียนได้ อ่านคล่อง เขียนคล่อง และระดับ ป.4 – 6 ให้เรียนรู้วิชาความสามารถเฉพาะ ด้านดนตรีไทย สากล มโนราห์ ฯลฯ ลำดับที่ 3 มุ่งสร้างนักเรียนคุณภาพ โดยโรงเรียนจัดการเรียนรู้ที่เข้มข้น เข้มแข็ง ให้กับนักเรียน เพื่อให้นักเรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สอบเข้าเรียนต่อในโรงเรียนยอดนิยม ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา โรงเรียนสามารถส่งนักเรียนได้ตามที่ผู้ปกครองต้องการจำนวนมาก และลำดับที่ 4 สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างโรงเรียนและชุมชนด้วยกิจกรรมสำคัญทางพุทธศาสนา ทั้งนี้ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากชุมชนตลอดมา

“เนื่องจากทุกคนในโรงเรียนรู้และเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของตนเอง แต่สิ่งที่ต้องการมากที่สุดในขณะนี้คือการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปกครองได้รับรู้ในบทบาทหน้าที่ของตนเอง ที่ควรมีควรทำได้ เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือนักเรียนและคุณครูอีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ ทางโรงเรียนมีโครงการเยี่ยมบ้านนักเรียนทุกคน เพื่อจะให้ครูได้ข้อมูลที่ถูกต้องในการนำมาพัฒนาเด็กเป็นรายบุคคลต่อไป” นายสุพล เล่าถึงปัญหาที่พบบ่อยในการบริหารงานโรงเรียน และกล่าวถึงการศึกษาไทยในปัจจุบันว่า

IMG_7497

“ปัญหาการศึกษาของเมืองไทยตลอดระยะเวลาหลาย 10 ปีที่ผ่านมา คือปัญหานโยบายนายกรัฐมนตรี รวมถึงนโยบายของหน่วยงานต่างๆ ที่มีแต่นโยบาย แต่ไม่มีใครปฏิบัติเลย จึงทำให้โรงเรียนพลอยทำตามนโยบายของรัฐบาลไปทุกเรื่อง จนลืมเรื่องสำคัญในการจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับสภาพของชุมชน ซึ่งมาตรการและนโยบายในบางเรื่องสวยหรู แต่ไม่ได้ลงมือทำ ปล่อยกันมาจนเป็นปัญหาเรื้อรัง เช่น การอ่านออก เขียนได้ เมื่อก่อนอ่านไม่ออก ซ้ำชั้น แต่ปัจจุบันนี้ไม่ซ้ำชั้น แต่ปล่อยให้นักเรียนไปแก้ในปีต่อไปจนเป็นลูกโซ่ และในเรื่องของครูขาดการเตรียมความพร้อมในการสอน ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาใหญ่อีกเช่นเดียวกัน ครู 10 คน จะเตรียมการสอนจริงๆ สักกี่คน ผู้บริหารจะอยู่ดูแลโรงเรียน ดูแลครู ดูแลนักเรียนจริงๆ สักกี่คนกัน จึงอยากเสนอแนะรัฐบาลหรือผู้มีอำนาจให้ประกาศอย่างชัดเจนว่า ให้ครูทุกสถาบันใส่ใจกับการเตรียมตัวในการสอน และในการทำงานอย่างจริงจัง วัดผลประเมินผลอย่างจริงจัง และประกาศให้ชัดเจนเป็น พรบ. เกี่ยวกับการสอน การดูแลนักเรียนรายบุคคลของครู และในช่วงปิดภาคเรียนเป็นเรื่องของนักเรียนเท่านั้น ส่วนครูควรมาทำงานเตรียมตัวสอนในปีการศึกษาต่อไป ผู้บริหารควรเตรียมความพร้อมของสถานศึกษาในทุกๆ ด้าน ต่อไป”

“ตอนนี้ข้าพเจ้ามีอายุราชการ 37 ปี ถ้าเป็นนาฬิกาก็คงใกล้ค่ำเต็มที ยังมีเวลาอีก 4 ปี กว่า หากเป็นไปได้คิดว่าจะดูแลและพัฒนาโรงเรียนชุมชนวัดควนมีดให้เต็มศักยภาพที่สุด เป็นโรงเรียนในชนบทที่มีความพร้อมในทุกๆ ด้าน ศิษย์รุ่นต่างๆ เข้ามาช่วยกันดูแลรักษา พัฒนาต่อยอด ให้เป็นโรงเรียนของชุมชน ครูของชุมชน ผู้อำนวยการของชุมชน และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทำมาแล้ว ไมว่าจะเป็นห้องประชุม อาคารโดม เพื่อฝึกกิจกรรมต่างๆ ห้องประชุมอเนกประสงค์ที่สามารถรองรับการประชุมต่างๆ ได้ โรงอาคารที่สวยงาม สภาพบริเวณโรงเรียนที่สะอาดร่มรื่น ห้องเรียนพิเศษต่างๆ และที่อยากมี อยากได้ อยากทำ และต้องทำให้ได้ คือ สระว่ายน้ำ ของโรงเรียน เพื่อบริการนักเรียนและชุมชนต่อไป” นายสุพล กล่าวทิ้งท้ายในสิ่งที่ตั้งใจอยากจะทำก่อนเกษียณอายุราชการ

IMG_7498

สำหรับโรงเรียนชุมชนวัดควนมีด ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ต.คลองเปียะ อ.จะนะ จ.สงขลา เป็นโรงเรียนขนาดกลาง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 3 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีเนื้อที่ 12 ไร่ 1 งาน 88 ตารางวา ภายใต้การบริหารงานของ นายสุพล บทจร ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนวัดควนมีด มีข้าราชการครู 14 คน พนักงานราชการ 2 คน ครูลูกจ้าง 3 คน ครูพี่เลี้ยงเด็กพิการ 1 คน ครูธุรการ 1 คน ช่างไฟฟ้า 1 คน นักการภารโรง 1 คน มีนักเรียนทั้งหมด 304 คน จัดการศึกษา 2 ระดับ คือ ชั้นปฐมวัย และประถมศึกษา (ป.1- ป.6)

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=16056

แสดงความคิดเห็น

Share It

ความคิดเห็นล่าสุด

ข่าวมาใหม่

Find Us