มีช่วง “ยื้อ” กันได้อีกยก ฟ้องศาลปกครองต่อชีวิต “สนามกอล์ฟทองใหญ่”

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2560 เวลา 14.30 น.ที่บริเวณศาลากลาง  จังหวัดสงขลา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีกลุ่มพนักงาน และเจ้าหน้าที่ประจำสนามกอล์ฟทองใหญ่ ประมาณ 30 คน   ได้มายื่นหนังสือ ถึงนายกรัฐมนตรีผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา เพื่อให้ยกเลิกโครงการจัดสร้างสวนสาธารณะเมืองสงขลาเพื่อการท่องเที่ยว  ในพื้นที่ดังกล่าว หลังได้รับความเดือนร้อน และผลกระทบ ในด้านการประกอบอาชีพจากโครงการดังกล่าว โดยมีนายศักระ กปิลกาญจน์  ปลัดจังหวัดสงขลา และ นายรุ่งโรจน์ และสุบ ผอ.ศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดสงขลา เป็นผู้รับหนังสือแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา

สำหรับโครงการสวนสาธารณะเมืองสงขลาเพื่อการท่องเที่ยว เป็นโครงการที่ดำเนินการโดย อบจ.สงขลา บนที่ดินราชพัสดุ เลขที่ 508 จำนวน 88 ไร่ 1 งาน 84 ตารางวา (สนามกอล์ฟทองใหญ่) ซึ่งตั้งอยู่หน้าศาลากลางจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นการการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมเพื่อการท่องเที่ยว หาดสมิหลาสงขลา เพิ่มความสะดวกต่อการเดินทางของประชาชน การขนส่งและการท่องเที่ยว การพักผ่อน การแสดง งานเทศกาล งานประจำปี และสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของเมือง และความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีในอนาคต โดยใช้งบประมาณพัฒนาในระยะที่ 1 จำนวน  166 ล้านบาท

ขณะที่โครงการดังกล่าว ได้ถูกคัดค้านจากกลุ่มพนักงานและเจ้าหน้าที่สนามกอล์ฟ กว่า 30 คน ที่พยายามจะสงวนพื้นที่ไว้เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้สอดคล้องกับสภาพเมืองท่องเที่ยวในเชิงอนุรักษ์ และรักษาภูมิทัศน์ที่สวยงามระหว่างชายฝั่งทะเลกับพื้นที่สีเขียว นอกจากนั้นยังได้รับความเดือนร้อนในการประกอบอาชีพ (แค๊ดดี้) หาก อบจ.สงขลา เข้ามาดำเนินการ

“ที่ผ่านมา ทางอบจ.สงขลา ไม่ได้ดำเนินการชี้แจงถึงรายละเอียดโครงการล่วงหน้า อีกทั้งโครงการดังกล่าว ยังไม่ดำเนินการจัดทำการศึกษารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตามระเบียบโดยเฉพาะผลกระทบที่พนักงาน(แค๊ดดี้) จะได้รับ คือจะต้องตกงานไม่มีรายได้ไปเลี้ยงครอบครัว อีกทั้งพื้นที่ดังกล่าวก็ยังเป็นพื้นที่สีเขียว และมีการใช้ประโยชน์โดยเป็นศูนย์ฝึกกีฬากอล์ฟ ของเยาวชน และที่ฝึกอบรมและทำกิจกรรมของตำรวจตะแวนชายแดน อีกด้วย”

“อีกทั้งโครงการดังกล่าว อบจ.สงขลา ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา อธิบดีกรมธนารักษ์ และธนารักษ์พื้นที่  ใช้เลห์เพทุบาย ใช้ความสนิทสนมเป็นการส่วนตัวกับกับ ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี  ใช้อำนาจโดยมิชอบไม่คำนึกถึงหลักธรรมมาภิบาล บีบบังคับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (กองบังคับการ ตชด.ภาค 4  ซึ่งเป็นผู้ดูแลที่ดินดังกล่าว ) ส่งมอบที่ดินสนามกอล์ฟให้กับ อบจ.สงขลา พร้อมกับเตรียมงบประมาณกว่า 300 ล้านบาท ในการพัฒนา ทั้งๆที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนตามที่อบจ.สงขลาได้อ้างเอาไว้ และที่สำคัญภายในเขตเทศบาลนครสงขลา ยังมีพื้นที่ว่างที่เป็นสวนสาธารณะถูกปล่อยทิ้งร้างอีกหลายแห่ง ที่น่าจะไปพัฒนามากกว่าจะทำลายพื้นที่สีเขียวตรงนี้” กลุ่มผู้เดือนร้อนกล่าว

ด้าน นายอำนาจ สารดิษฐ์ ทนายความของกลุ่มผู้เดือนร้อน กล่าวว่า ขณะนี้โครงการดังกล่าวได้ยื่นฟ้อง ต่อ แผนกคดีสิ่งแวดล้อม ศาลปกครองสงขลา ไปแล้ว เมื่อวันที่ 14 และ วันที่ 20  กรกฎาคม ที่ผ่านมา เพื่อให้ศาลปกครองพิจารณา สั่งคุ้มครองชั่วคราว พร้อมกับเพิกถอนหนังสืออนุญาตจากกรมธนารักษ์  และหากไม่สามารถยกเลิกโครงการได้ ทาง อบจ.สงขลา จะต้องดำเนินการศึกษาผลกระทบและสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมาย พร้อมกับมีมาตรการชดใช้และเยียวยาแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ ในสนามกอล์ฟให้ชัดเจนด้วย

ผู้สื่อข่าว ยังรายงานอีกว่า และในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 17.30 น. ก็ได้มีการประชุมเรื่องการบริหารจัดการพื้นที่ โครงการข้างต้น พร้อมกับลงนามเพื่อมอบกรรมสิทธิ์ที่ดิน จากกองบังคับ ตชด. ภาค 4 ให้กับ อบจ.สงขลา  ที่ศาลากลางจังหวัดสงขลา โดยมี นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา รองผู้ว่าฯสงขลาเป็นประธาน พร้อมกับ พล.ต.ต. สมเกียรติ เนื้อทอง ผู้บังคับการ ตชด.ภาค 4 ,นายเฉลิมศักดิ์ ปาณศรี ธนารักษ์พื้นที่ จ.สงขลา , นายสมหมาย ขวัญทองยิ้ม รองนายกอบจ.สงขลา และเจ้าหน้าที่ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม

 

 

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=19394