สคร.12 สงขลา จับมือหน่วยงานในพื้นที่ ตั้งจุดคัดกรองโรคเมอร์ส ผู้เดินทางกลับจากพิธีฮัจย์
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลาร่วมกับหน่ วยงานในพื้นที่ตั้งจุดคัดกรองผู้ เดินทางกลับจากพิธีฮัจย์ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ และท่าอากาศยานนราธิวาส หลังชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ 7 จั งหวัดภาคใต้ตอนล่างจำนวนมากเดิ นทางไปแสวงบุญในช่วงเดือนสิ งหาคมที่ผ่านมา ณ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นประเทศที่พบรายงานผู้ป่ วยโรคทางเดินหายใจตะวั นออกกลางหรือโรคเมอร์สอยู่ ในขณะนี้
ดร.นายแพทย์สุวิช ธรรมปาโล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกั นควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา พี่น้องชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ ได้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งปัจจุบันเป็นประเทศที่ พบรายงานผู้ป่วยโรคทางเดิ นหายใจตะวันออกกลางหรือโรคเมอร์ ส และในช่วงเดือนกันยายนนี้ เป็นช่วงของการเดินทางกลับ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา ได้ร่วมกับสำนั กงานสาธารณสุขจังหวัด และโรงพยาบาลในพื้นที่ ตั้งจุดคัดกรองและเฝ้าระวั งโรคทางเดินหายใจตะวั นออกกลางหรือโรคเมอร์ส ในผู้เดินทางกลับ ระหว่างวันที่ 7-10 กันยายน 2560ณ ท่าอากาศยานนราธิวาส และระหว่างวันที่ 13-22 กันยายน 2560 ณ ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ ซึ่งขั้นตอนของการคัดกรองนั้ นเจ้าหน้าที่ประจำด่านควบคุ มโรคติดต่อระหว่างประเทศ จะตรวจวัดอุณหภูมิผู้เดิ นทางโดยใช้เครื่องเทอร์โมสแกน และตรวจร่างกายเบื้องต้น หากพบผู้เดินทางมีอาการไข้ อุณหภูมิร่างกายสูง 38 องซาเซลเ ซียสขึ้นไป ไอ หอบเหนื่อย จะมีการคัดแยกผู้เดินทางเพื่ อตรวจดูอาการอย่างละเอียดและเก็ บสารคัดหลั่งเพื่อตรวจหาเชื้ อเพิ่มเติม จากนั้นจะนำตัวผู้ที่มีอาการส่ งโรงพยาบาลเพื่อตรวจและรักษาต่ อไป
นอกจากนี้ หน่วยงานสาธารณสุขทุ กจังหวัดในพื้นที่ยังจะต้ องประสานกับโรงพยาบาล สำนักงานสาธารณสุขอำเภอและหน่ วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ติดตามเฝ้าระวังโรคในผู้แสวงบุ ญที่เดินทางกลั บมาจากการประกอบพิธีฮัจย์ เป็นประจำทุกสัปดาห์ นาน 14 วัน นับตั้งแต่เดินทางกลับ โดยจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรื อบุคคลากรทางการแพทย์ลงพื้นที่ เพื่อไปพบกับผู้แสวงบุญ ซึ่งหากพบผู้ป่วยสงสัยทางเดิ นหายใจตะวันออกกลาง หรือโรคติดต่ออื่นๆ เช่น โรคไข้หวัดนก โรคไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น ก็จะได้รายงานเข้าระบบของหน่ วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่ พร้อมกับให้คำแนะนำการดูแลสุ ขภาพแก่ผู้แสวงบุญที่เดินทางกลั บมาจากการประกอบพิธีฮัจย์ด้วย
ดร.นายแพทย์สุวิช ธรรมปาโล กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์โรคทางเดินหายใจตะวั นออกกลาง ปี 2560 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม -31 กรกฎาคม 2560 พบผู้ป่วยทั้งหมด 167 ราย จากประเทศซาอุดิอาระเบีย ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประเทศกาตาร์ และสาธารณรัฐเลบานอน เสียชีวิตทั้งสิ้น 48 ราย โรคดังกล่าวเป็นโรคที่เกิ ดจากการติดเชื้อระหว่างสัตว์สู่ คน สําหรับการแพร่เชื้อระหว่างคนสู่ คนสามารถแพร่ผ่านทางเสมหะของผู้ ป่วยจากการไอ และมักเกิดจากการสัมผัสอย่ างใกล้ชิดกับผู้ป่วยโดยมิได้มี การป้องกันตนเอง ซึ่งโรคนี้มีระยะฟักตัวของโรค 14 วัน ดังนั้นในช่วง14 วันหลังเดิ นทางกลับจากประเทศที่มีความเสี่ ยง หากมีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอให้หลีกเลี่ยงคลุกคลีกั บบุคคลอื่น สวมหน้ากากป้องกันโรค ล้างมือให้สะอาด และรีบไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ สาธารณสุขพร้อมแจ้งประวัติ การเดินทางให้ทราบ และหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ ยวกับ โรคติดเชื้อทางเดิ นหายใจตะวันออกกลาง สามารถโทรศัพท์สอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=20797