|

สงขลาขานรับนโยบายรัฐฯ เดินหน้าขับเคลื่อนพัฒนาเมืองสมุนไพร (Herbal City)

PNEWS18012412062700901

จังหวัดสงขลา ขานรับนโยบายรัฐบาลเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการพัฒนาเมืองสมุนไพร (Herbal City) สอดคล้องกับแผนแม่บทแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทย พ.ศ.2560-2564

วานนี้ (24 ม.ค.61) เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุม CEO ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายศักระ กปิลกาญจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโครงการพัฒนาเมืองสมุนไพร (Herbal City)จังหวัดสงขลา ครั้งที่ 1/2561 จังหวัดสงขลา เพื่อให้สอดคล้องกับแผนแม่บทแห่งชาติ ว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทย พ.ศ.2560-2564 โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ นักวิชาการ และภาคเอกชน เข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน

นายศักระ กปิลกาญจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ปัจจุบันทั่วโลกมีการนำสมุนไพรมาใช้อย่างแพร่หลายทั้งในรูปยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และเครื่องสำอาง ซึ่งรัฐบาลได้เล็งเห็นศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยเพื่อสุขภาพ โดยอนุมัติแผนแม่บทแห่งชาติ ว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทย 2560-2564 เพื่อให้องค์กรที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนได้ร่วมกันขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบครบวงจรอย่างยั่งยืน

PNEWS18012412062700902

ทั้งนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพัฒนาสมุนไพรให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นที่ยอมรับ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสมุนไพรไทย โดยมีการเพิ่มเป้าหมายจังหวัดสงขลาในการพัฒนาสมุนไพรไทยให้เป็นรูปธรรมในระดับจังหวัด ซึ่งทางจังหวัดสงขลาได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการโครงการพัฒนาเมืองสมุนไพร (Herbal City) จังหวัดสงขลา และจัดการประชุมขึ้นในครั้งนี้ ซึ่งคณะกรรมการดังกล่าว มีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดแนวทางการประเมินผลโครงการเมืองสมุนไพร , การประเมินผลโครงการเมืองสมุนไพร , การรายงานผลการประเมินให้คณะกรรมการอำนวยการทราบ และอื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามวัตถุประสงค์อันจะนำมาซึ่งความมั่นคงทางสุขภาพและความยั่งยืนของเศรษฐกิจไทยต่อไป โดยให้มีการยึดองค์ประกอบเมืองสมุนไพร 5 องค์ประกอบ ได้แก่ ภูมิปัญญาสู่อัตลักษณ์ (Local Identity) , ประชารัฐสามัคคี (Participation) , ลดความเหลื่อมล้ำ ( Happiness) , เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Sustainable) และคำนึงถึงผลกระทบทางธุรกิจ (Business impact) ด้วย

อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมมีข้อห่วงใยเรื่องสารเคมีตกค้างในดิน จึงต้องหาแหล่งเหมาะกับพืชสมุนไพร รวมทั้งเรื่องทิศทางการทำงานให้เกษตรกรสามารถปลูกสมุนไพรแล้วจำหน่ายได้ ซึ่งทางคณะกรรมการขับเคลื่อนฯ จะต้องพิจารณารอบด้าน ทั้งเรื่องต้นทุน รวมทั้งการวางกรอบการท่องเที่ยว และการจัดชุมชนต้นแบบ เพื่อสนับสนุนโครงการดังกล่าวอีกทางหนึ่งด้วย

สุธิดา พฤกษ์อุดม สวท.สงขลา

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=25814

แสดงความคิดเห็น

Share It

ความคิดเห็นล่าสุด

ข่าวมาใหม่

Find Us