ท่องเที่ยววิถีชุมชน ‘ท่าหิน’ – ‘คลองแดน’ วันธรรมดาก็เที่ยวได้
มหาวิทยาลัยหาดใหญ่เดินหน้าขับเคลื่อนการท่องเที่ยวโดยชุมชนใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดึง 2 ชุมชนในจังหวัดสงขลา ‘ท่าหิน’ – ‘คลองแดน’ เข้าร่วม ชูแนวคิด สัมผัสวิถีภูมิปัญญาโหนด นา เล – ชมสวนผสมทางการเกษตรตามแนววิถีเศรษฐกิจพอเพียง เที่ยวได้ทุกวัน ไม่ใช่แค่วันหยุด
เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 61 ที่ผ่านมา ทีมนักวิจัยของมหาวิทยาลัยหาดใหญ่ นำโดย ดร.ปรัชญากรณ์ ไชยคช อาจารย์ประจำสาขาอุตสาหกรรมบริการ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ได้นำสื่อมวลชนลงพื้นที่ชุมชนท่าหิน อำเภอสทิงพระ และชุมชนคลองแดน อำเภอระโนด ซึ่งเป็น 2 ใน 10 ชุมชน ที่ได้ร่วมโครงการวิจัย ตามโครงการยกระดับการท่องเที่ยวโดยชุมชนใน 5 จังหวัดภาคใต้ (สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) ซึ่งทีมวิจัยฯ ได้ลงพื้นที่ไปสำรวจชุมชนและได้ทำแผนพัฒนาการตลาดการท่องเที่ยวโดยชุมชนให้กับชุมชนท่าหินภายใต้แนวคิด สัมผัสวิถีภูมิปัญญาโหนด นา เล และชุมชนคลองแดน ภายใต้แนวคิด นำชมสวนผสมทางการเกษตรตามแนววิถีเศรษฐกิจพอเพียง
ดร.ปรัชญากรณ์ ไชยคช อาจารย์ประจำสาขาอุตสาหกรรมบริการ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ เปิดเผยว่า โครงการวิจัยตามโครงการยกระดับการท่องเที่ยวโดยชุมชนใน 5 จังหวัดภาคใต้ (สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) เป็นโครงการที่ต่อยอดจากงานวิจัยที่เคยทำมานานแล้ว ตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งทำเรื่องการท่องเที่ยวโดยชุมชนใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่การหาศักยภาพการท่องเที่ยวในชุมชน เรื่องการจัดการ การตลาด ซึ่งเป็นการทำงานเป็นขั้นเป็นตอน โดยในช่วงแรกมีชุมชนเข้าร่วมโครงการทั้งหมดประมาณ 20 ชุมชน แต่เมื่อได้ศึกษาเรื่องศักยภาพของชุมชนที่พอจะทำการตลาดได้ ทำให้เหลือแค่ 10 ชุมชน และได้ยกระดับชุมชนขึ้นมา เพื่อให้คนมาท่องเที่ยวในชุมชน และชาวบ้านในพื้นที่ได้รับประโยชน์ ทั้งในเรื่องอาหาร ที่พัก กิจกรรมท่องเที่ยว ของที่ระลึก นักสื่อความหมายท้องถิ่น และยานพาหนะเดินทาง ซึ่งคิดว่าการท่องเที่ยวแบบนี้ชาวบ้านจะได้ประโยชน์
“การทำโครงการนี้ต่อยอดมาจาก 10 ชุมชนใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งคลองแดนเป็น 1 ใน 10 ชุมชนที่มีความพร้อม ทั้งเรื่องศักยภาพ การตลาด และเว็บไซต์ โดยคลองแดนในวันหยุด เสาร์ อาทิตย์ จะมีคนมาเที่ยวเป็นประจำอยู่แล้ว แต่อยากให้คนมาเที่ยวคลอดงแดนในวันธรรมดาด้วย ได้ไปสัมผัสวิถีชีวิต อาทิ รับประทานอาหารท้องถิ่น ไหว้พระ นั่งเรือ นอนริมน้ำ นั่งรถอีแต๊กชมทุ่งนา เที่ยวสวนเกษตรพอเพียง ซื้อของที่ระลึกต่างๆ ซึ่งยังไม่ค่อยมีคนมาเที่ยว โดยแต่ละชุมชนจะมีความแตกต่างกัน”
ดร.ปรัชญากรณ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันในประเทศไทยมีชุมชนที่เข้าร่วมโครงการท่องเที่ยวโดยชุมชนจำนวนกว่า 700 ชุมชน การท่องเที่ยวโดยชุมชนจะเป็นตัวที่ช่วยชุมชนได้ ซึ่งในปัจจุบันการท่องเที่ยวในรูปแบบนี้เป็นกระแสของโลก โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเรียกว่า “ประสบการณ์ที่ได้จากการเดินทางท่องเที่ยว” ซึ่งประสบการณ์ส่วนหนึ่งนั้นอยู่ในชุมชน
สำหรับชุมชนท่าหิน จะมีเสน่ห์ในเรื่องวิถีชีวิตในรูปแบบ ภูมิปัญญาโหนด นา เล ซึ่งวิถีชีวิตของคนท่าหินอยู่กับโหนด กับนา กับเล มีการพึ่งพาตัวเอง โดยการนำตาลโตนดมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ สบู่ โลชั่น โดยใช้วัตถุดิบจากตาลโตนด ตั้งแต่รากถึงใบ หากนักท่องเที่ยวสนใจมาสัมผัสวิถี โหนด นา เล ในรูปแบบของคนท่าหิน ซึ่งชาวบ้านมีโฮมสเตย์ไว้รองรับนักท่องเที่ยวในราคาเพียง 200 บาท ต่อคน รวมอาหารเช้า และยังมีกิจกรรมต่างๆ ให้ได้สัมผัส อาทิ การทำสบู่จากตาลโตนด หยอดน้ำตาลแว่น ทำขนม จักสาน ซีข้าว ดำนา ก่อนนอนจะมีมโนราเด็ก หนังตะลุง เพลงบอก ให้ได้ชมกัน และในช่วงเช้าอีกวันจะมีการลงเรือดูวิถีชีวิตชาวเลในทะเลสาบสงขลา ดูการเก็บอวน กู้ไซ ทอดแห และทานข้าวห่อใบบัวบนเรือ และเมื่อกลับมาที่บ้านจะมีการทำกิจกรรมต่างๆ อีก อาทิ การเพาะเห็ด ทำนาในโรงสี เลี้ยงสัตว์ ทำแก๊สชีวภาพ เผาถ่าน ทำน้ำหมักชีวภาพ เป็นต้น ทั้งนี้ หากใครสนใจสามารถโทรไปสอบถามราคาและจองทริปล่วงหน้าได้ที่ 081-275-7156 ผู้ประสานงานศูนย์เรียนรู้วิถีโหนด–นา–เล
ทั้งนี้ โครงการยกระดับการท่องเที่ยวโดยชุมชนใน 5 จังหวัดภาคใต้ (สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) ได้รับการสนับสนุนจาก UCCN หรือ หน่วยประสานงานการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยให้งบประมาณมหาวิทยาลัยในการดำเนินการ
‘การท่องเที่ยวโดยชุมชน’ กับ ‘การท่องเที่ยวในชุมชน’ นั้นต่างกัน ‘การท่องเที่ยวโดยชุมชน’ คือ ชาวบ้านจะมีส่วนร่วมในการทำงานร่วมกัน มีความแบ่งปันกัน แต่ ‘การท่องเที่ยวในชุมชน’ คือ การขับรถไปเที่ยวแล้วกลับ ซึ่งชาวบ้านอาจจะไม่ได้ประโยชน์อะไร ได้บ้างเล็กๆ น้อยๆ
Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=26273