ม.อ. ร่วม มจร.ว ส.ปัตตานี เปิดกิจกรรม ‘ศาสนิกสัมพันธ์’ ส่งเสริม นศ. ต่างศาสนาใช้ชีวิตร่วมกัน
แผนกพัฒนาสังคม คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ร่วมกับ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์ปัตตานี เปิดโครงการศาสนิกสัมพันธ์ระหว่างสถาบันอุดมศึกษาและชุมชน หวังให้นิสิตนักศึกษาต่างศาสนาเรียนรู้การใช้ชีวิตร่วมกัน พร้อมพัฒนาการท่องเที่ยวในเขตเศรษฐกิจพิเศษอำเภอสะเดา
เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 61 ที่ ลานอเนกประสงค์ อ่างเก็บน้ำคลองสะเดา (เขื่อนห้วยคู) ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา นายศักระ กปิลกาญจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดโครงการศาสนิกสัมพันธ์ระหว่างสถาบันอุดมศึกษาและชุมชน ประจำปี 2562 โดยมี พระมหาวิเชียร วชิรธัมโม ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์ปัตตานี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย รศ.ดร.นิเวศน์ อรุณเบิกฟ้า รองผู้อำนวยการศูนย์บริการวิชาการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ นิสิต นักศึกษา จาก 2 มหาวิทยาลัย อาทิ รัฐประศาสนศาสตร์ รัฐศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยีและการสื่อสาร อิสลามศึกษา ศึกษาศาสตร์ สังคมสงเคราะห์ และการพัฒนาสังคม เป็นต้น รวมทั้ง นักศึกษาต่างชาติจาก ประเทศจีน และกลุ่มประเทศอัฟริกา เข้าร่วมกิจกรรม
พระมหาวิเชียร วชิรธัมโม ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์ปัตตานี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์ปัตตานี และ แผนกพัฒนาสังคม คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ร่วมกับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวชุมชนตำบลสำนักแต้ว อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรมโครงการศาสนิกสัมพันธ์ระหว่างสถาบันอุดมศึกษาและชุมชน เพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวในเขตเศรษฐกิจพิเศษอำเภอสะเดา โดยใช้พลังชุมชนเป็นฐานในการดำเนินกิจกรรม ในระหว่างวันที่ 3-4 พฤศจิกายน 2561 โดย นิสิต นักศึกษา จาก 2 มหาวิทยาลัย เข้ามาใช้ชีวิต เรียนรู้วิถีชีวิตคนในชุมชนที่อยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุขถึงแม้จะต่างความเชื่อ ต่างการปฏิบัติ ต่างศาสนา แต่ประชาชนอยู่ร่วมกันด้วยความเป็นหนึ่ง และมีความตั้งใจที่จะช่วยกันพัฒนาเขตพื้นที่ตำบลสำนักแต้ว ทั้ง 10 หมู่บ้าน ให้เป็นเขตการพักผ่อนและการท่องเที่ยวชุมชน เนื่องจากสภาพภูมิศาสตร์ และทรัพยากรธรรมชาติมีความอุดมสมบูรณ์พร้อมที่จะเชื่อเชิญคนต่างถิ่นให้มาเยี่ยมเยือน พื้นที่ตำบลสำนักแต้ว เป็นส่วนหนึ่งใน 4 ตำบล (ตำบลสำนักขาม ตำบลปาดังเบซา และตำบลสะเดา) ของอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ที่อยู่ในนโยบายการพัฒนาในเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ อันมีเป้าหมายเพื่อสร้างสรรค์พื้นที่ ที่มีสภาพทางภูมิศาสตร์ที่ติดชายแดนเป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว
“การจัดกิจกรรมในครั้งนี้จะมีประโยชน์เป็นอย่างมากต่อการพัฒนาพื้นที่ เพราะเป็นการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจโดยฐานของชุมชนจากการท่องเที่ยว และส่งเสริมความสามารถ ความเชื่อมั่นของชุมชนในการที่จะเตรียมตัวในการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นชุมชนท่องเที่ยว การบริการจากฐานวัฒนธรรมความเป็นตัวตนของตนเอง และกิจกรรมการท่องเที่ยวที่สอดคล้องกับสภาพภูมินิเวศน์ จากการสร้างความมั่นใจของชุมชนโดยชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมสร้างกระบวนการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว จาการทำกิจกรรมกับ นิสิต นักศึกษาจากทั้ง 2 สถาบัน ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และบริการนักท่องเที่ยวผู้มาเยือน อันจะเป็นฐานที่จะนำเสนอเพื่อให้เกิดประโยชน์ตามเป้าประสงค์ของการส่งเสริมกิจกรรมในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ คือ 1. ส่งเสริมการลงทุนด้านการท่องเที่ยวชุมชนในประเทศ 2. ส่งเสริมการศักยภาพชุมชนในด้านการบริการการท่องเที่ยว จากการต้อนรับและแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับนิสิตนักศึกษาและคณาจารย์จากสองสถาบัน 3. ส่งเสริมให้มีการนำเทคโนโลยีชุมชน หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการโฆษณาความเป็นอัตลักษณ์ของชุมชน จากคนรุ่นใหม่ อันจะนำไปสู่ความ มั่นคง มั่งคั่ง และยังยืนของประชาชนในพื้นที่ต่อไป”
นางสิโนรัตน์ รัตนศรี ปลัด อบต.สำนักแต้ว กล่าวว่า ทางตำบลสำนักแต้วมีความตื่นเต้นและยินดีเป็นอย่างมากที่นิสิตนักศึกษาได้เข้ามาทำกิจกรรมในครั้งนี้ ได้มาเรียนรู้วิถีชีวิตการอยู่ร่วมกันที่มีความแตกต่างกัน ซึ่งมั่นใจว่าทุกคนจะสามารถไปด้วยกันได้ นอกจากนี้ ยังเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวในอำเภอสะเดาให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย
ด้าน นายทัศนพล ชื่นอิ่มทรัพย์ นิสิตชั้นปี 4 มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์ปัตตานี กล่าวว่า เป็นกิจกรรมที่ดี ทำให้นักศึกษาทั้ง 2 มหาวิทยาลัย ได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ได้เรียนวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชุมชน ส่งเสริมความสามัคคี สร้างประสบการณ์ใหม่ให้นิสิตนักศึกษา พร้อมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชนและชาวบ้านอีกด้วย
Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=34790