|

สธ.สงขลา ย้ำ ปชช. กลุ่มเสี่ยง – ผู้มีอาการสงสัย รับการตรวจคัดกรองวัณโรค

54436639_2199197713493782_7074025043063209984_n

สธ.สงขลา เน้นย้ำประชาชนกลุ่มเสี่ยงและผู้มีอาการสงสัยเข้ารับการตรวจคัดกรองวัณโรค เนื่องวันวัณโรคสากล เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย “ถึงเวลา ยุติปัญหาวัณโรค” ขณะที่พบผู้ป่วยมากสุดในพื้นที่อำเภอเมือง หาดใหญ่และสะเดา

นายแพทย์อุทิศศักดิ์ หริรัตนกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้วันที่ 24 มีนาคมของทุกปี เป็นวันวัณโรคโลก (World TB Day) เพื่อย้ำเตือนให้ประชาชนทั่วโลกเกิดการรับรู้ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เหมาะสมในการควบคุม รักษา และป้องกัน โดยเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตกว่า 1.7 ล้านคนต่อปี วัณโรคเป็นโรคติดต่อสำคัญที่ยังเป็นปัญหาสาธารณสุขไทยและเป็น 1 ใน 14 ประเทศที่มีผู้ป่วยวัณโรคสูง มีผู้ป่วยวัณโรคที่ติดเชื้อเอชไอวีสูง และมีผู้ป่วยวัณโรคดื้อยาหลายขนานสูง ที่สำคัญยังก่อให้เกิดเป็น วัณโรคดื้อยาที่คาดว่าอาจมีมากถึง 3,900 รายในประเทศไทย ประเทศไทยจึงผลักดันด้านการต่อต้าน วัณโรคให้เข้มข้นสู่เป้าหมาย “เมืองไทยปลอดวัณโรค เพื่อโลกปลอดวัณโรค” วัณโรคเป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย สามารถติดต่อได้ด้วยระบบทางเดินหายใจและติดต่อจากคนสู่คน พบได้ทั่วไป แต่จะพบมากที่สุดในกลุ่มเสี่ยงที่อยู่บ้านเดียวกับผู้ป่วย (ผู้สัมผัสร่วมบ้าน), ผู้ติดเชื้อเอชไอวี , ผู้สูงอายุที่มีโรคร่วม, ผู้ป่วยโรคเรื้อรังโดยเฉพาะโรคเบาหวาน, ประชากรกลุ่มเสี่ยงและด้อยโอกาส เช่น ชุมชนแออัด นักโทษในเรือนจำกลุ่มชาติพันธุ์ตามเขตชายแดน แรงงานต่างด้าว พนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ และบุคลากรสาธารณสุข

สำหรับผู้ที่รับเชื้อวัณโรคเข้าสู่ร่างกาย จะไม่แสดงอาการป่วยในทันที แต่จะแสดงอาการเมื่อร่างกายอ่อนแอ ซึ่งเชื้อวัณโรคสามารถเกิดได้กับทุกส่วนของร่างกาย แต่ส่วนใหญ่ร้อยละ 80 พบที่ปอดนอกจากนี้ยังพบได้ที่อวัยวะอื่นๆ เช่น ต่อมน้ำเหลือง กระดูก เยื่อหุ้มสมอง สาหรับเชื้อวัณโรคสามารถแพร่กระจายโดยผู้ป่วย จะมีอาการไอ จาม ทำให้ละอองเสมหะ ฟุ้งกระจาย ล่องลอยอยู่ในอากาศ เมื่อสูดเอาละอองเสมหะที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าไป จะทำให้มีอาการ ไข้ต่ำๆ เรื้อรังโดยเฉพาะตอนเย็นและค่ำ มีเหงื่อออกในตอนกลางคืนถึงแม้อากาศเย็น มีอาการไอเรื้อรังเกิน 2 สัปดาห์ ช่วงแรกจะไอแห้งๆ ต่อมามีเสมหะออกมา บางครั้งมีเลือดปนเสมหะออกมาด้วย แต่ในปัจจุบันบางรายก็ไม่มีอาการ แต่เมื่อเอกซเรย์ปอดก็พบว่าปอดผิดปกติ วัณโรคสามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยการกินยาอย่างน้อย 6 เดือน และสิ่งที่สำคัญคือ การกินยาตามแพทย์สั่งอย่างต่อเนื่องตลอด 6 เดือน หากมีอาการแพ้ยาไม่หยุดยาก่อนกำหนด ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ทันที และผู้ป่วยควรงดเหล้า บุหรี่ และปิดปาก จมูก เวลาไอ จาม บ้วนเสมหะลงในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิดและทำลาย โดยการเผา เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรค จัดสิ่งแวดล้อมในบ้านให้สะอาด และปลอดโปร่ง ไม่อับทึบ แสงแดดส่องผ่านได้ พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 6 – 8 ชั่วโมง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

นายแพทย์อุทิศศักดิ์ หริรัตนกุล กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องในวันวัณโรคสากลปี 2562 ได้กำหนดคำขวัญการรณรงค์ “IT’S TIME TO ZERO TB” หรือ “ถึงเวลา ยุติปัญหาวัณโรค” โดยมีความหมายว่า “ถึงเวลาที่ทุกภาคส่วนต้องลงมือทำโครงการหรือกิจกรรมต่างๆ เพื่อยุติปัญหาปัญหาวัณโรคของประเทศ” โดย “ถึงเวลา ต้องค้นหารักษาวัณโรคให้หาย” เพิ่มโอกาสการเข้าถึงการวินิจฉัยแก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่ กลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยวัณโรค ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้สูงอายุที่มีโรคร่วม ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ต้องขังในเรือนจำ แรงงานต่างด้าว และกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข การรักษาผู้ป่วยวัณโรคทุกรายให้หาย โดยใช้เทคนิคการดูแลรักษาผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง และส่งเสริมให้ประชาชน มีประเมินตนเองและสามารถคัดกรองวัณโรคเบื้องต้นด้วยตนเองได้ รวมทั้ง “ถึงเวลาตรวจหาวัณโรค – รู้เร็ว รักษาหาย ไม่แพร่กระจาย” โดยประชาชนต้องตระหนักถึงวัณโรค ตรวจหาวัณโรคให้เร็วที่สุดเมื่อมีอาการ เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าในการรักษา หรือต้องตรวจหาวัณโรคอย่างน้อยปีละ 1 ครั้งโดยการเอกซเรย์ปอด และหากประชาชนสามารถรู้ว่าป่วยเป็นวัณโรคได้เร็ว และทำการรักษาได้เร็ว สามารถรักษาให้หายได้ ทำให้ลดการแพร่กระจายเชื้อไปสู่คนอื่นได้เร็ว และลดการป่วยเป็นวัณโรคของคนอื่นได้ ระหว่างวันที่ 18 – 24 มีนาคม 2562 สถานบริการสาธารณสุขในสังกัดมีการจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับวัณโรค การตรวจคัดกรองวัณโรคเนื่องในวันวัณโรคสากล

ทั้งนี้ ประชาชนทั่วไปสามารถรับการตรวจคัดกรองวัณโรคได้ที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านทุกแห่ง หากมีข้อสงสัยสอบถามรายละเอียด หรือขอคำปรึกษาเกี่ยวกับวัณโรคได้ที่สถานบริการสาธารณสุขทุกแห่ง หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 สำหรับสถานการณ์วัณโรคจังหวัดสงขลาปี 2562 (1 ต.ค. – 19 มี.ค. 2562) คาดการณ์ว่าจะมีผู้ป่วยวัณโรคจำนวน 2,222 ราย สามารถตรวจพบเพื่อขึ้นทะเบียนได้จำนวน 926 ราย คิดเป็นร้อยละ 41.7 เป็นผู้ป่วยวัณโรคปอด เสมหะพบเชื้อจำนวน 320 ราย คิดเป็นร้อยละ 34.6 ผู้ป่วยวัณโรคปอดเสมหะไม่พบเชื้อจำนวน 401 ราย ร้อยละ 43.3 ผู้ป่วยวัณโรคนอกปอดจำนวน 148 ราย ร้อยละ 15.9 และผู้ป่วยวัณโรคกลับซ้ำจำนวน 57 ราย คิดเป็นร้อยละ 6.2 โดยผู้ป่วยทุกรายได้รับการรักษาโรงพยาบาลในจังหวัดสงขลา อำเภอที่พบผู้ป่วยมากที่สุด คือ อำเภอเมือง หาดใหญ่ สะเดา ตามลำดับ

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=39774

แสดงความคิดเห็น

Share It

ความคิดเห็นล่าสุด

ข่าวมาใหม่

Find Us