|

มรภ.สงขลา จัดงานสานสัมพันธ์วัฒนธรรมวิถีพุทธไทย-ศรีลังกา อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุให้พุทธศาสนิกชนสักการะ 10-14 ก.ค.นี้

มรภ.สงขลา จัดงานสานสัมพันธ์วัฒนธรรมวิถีพุทธไทย-ศรีลังกา

มรภ.สงขลา จัดงานสานสัมพันธ์วัฒนธรรมวิถีพุทธไทย-ศรีลังกา วันที่ 10-14 ก.ค.นี้ อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุให้ผู้มีจิตศรัทธาเข้าสักการะ พร้อมเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมปฏิบัติบูชา ถวายพระราชกุศล ร.9 เฉลิมพระเกียรติ ร.10

อาจารย์จิรภา คงเขียว รองอธิการบดีฝ่ายยุทธศาสตร์การพัฒนานักศึกษาและคุณลักษณะบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) เปิดเผยว่า มรภ.สงขลา จัดงานสานสัมพันธ์วัฒนธรรมวิถีพุทธไทย-ศรีลังกา เนื่องในโอกาส 270 ปี นิกายสยามวงศ์ในศรีลังกา และ 100 ปี มรภ.สงขลา ระหว่างวันที่ 10-14 ก.ค. 62 ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติฯ กิจกรรมประกอบด้วย การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศศรีลังกา ประดิษฐานชั่วคราว ณ มหาวิทยาลัย และเชิญชวนพุทธศาสนิกชนปฏิบัติบูชา เพื่อถวายพระราชกุศลแด่รัชกาลที่ 9 และเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 10 โดยการกราบสักการะ สวดมนต์ ฟังธรรม ถวายสังฆทาน ปฏิบัติธรรม ทั้งนี้ จะเปิดให้พุทธศาสนิกชนทั่วไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุจนถึง 21.00 น. โดยในรอบเย็นมีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุวางเหนือศีรษะผู้เข้าสักการะเป็นกรณีพิเศษ

นอกจากนั้น ภายในงานยังมีการสัมมนาทางวิชาการ เรื่อง วัฒนธรรมวิถีพุทธไทยและศรีลังกา : การดำรงอยู่ของพระพุทธศาสนาในท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคปัจจุบัน โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากศรีลังกาและไทย มาให้ความรู้และส่งเสริมแนวคิดในการสืบสานพระพุทธศาสนา รวมทั้งนำมิติทางพระพุทธศาสนามาสู่การพัฒนาด้านต่างๆ ในสังคม การบรรยายให้ความรู้ การจัดนิทรรศการทางพระพุทธศาสนาไทยและศรีลังกา ถือเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างเครือข่ายสองประเทศ และส่งเสริมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมทางพระพุทธศาสนาอีกทางหนึ่งด้วย ทั้งยังเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสที่ มรภ.สงขลา ครบวาระ 100 ปีแห่งการก่อตั้งในปี พ.ศ.2562 นี้ ซึ่งการดำเนินงานต่างๆ ของมหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม โดยเฉพาะการส่งเสริมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนามาอย่างต่อเนื่อง

อาจารย์จิรภา กล่าวว่า ไทยและลังกาเป็นมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์อันดีมายาวนานมากว่า 700 ปี โดยเฉพาะในด้านพระพุทธศาสนา ซึ่งไทยได้รับอิทธิพลจากพระพุทธศาสนาลังกาวงศ์มาตั้งแต่สมัยสุโขทัยเป็นราชธานี ต่อมาเมื่อศรีลังกาประสบวิกฤติไม่มีพระสงฆ์สืบศาสนา ซึ่งเป็นผลจากการล่าอาณานิคมของชาติตะวันตก ส่งผลให้เหลือเพียงสามเณรบางส่วนเท่านั้นที่ยังคงรักษาผ้ากาสาวพัสตร์ไว้ จนในปี พ.ศ.2296 สามเณรสรณังกรซึ่งเป็นสามเณรผู้ใหญ่ในขณะนั้น ได้ทูลขอให้พระเจ้ากิตติราชสิงหะกษัตริย์ในสมัยนั้น ส่งทูตมาขอพระสงฆ์จากกรุงศรีอยุธยาไปฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในลังกาทวีป โดยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาได้ส่งสมณทูตจำนวน 3,000 รูป ซึ่งเป็นที่มาของการเกิดนิกายสยามวงศ์หรืออุบาลีวงศ์ในศรีลังกาในสมัยต่อมาจวบจนปัจจุบัน ความสัมพันธ์อันดีนี้สืบสานกันมานับเข้าสู่ทศวรรษที่ 27 (270 ปี) ซึ่งความสัมพันธ์นี้ยังส่งผลต่อมิตรสัมพันธ์และความร่มมือที่ดีในด้านอื่นๆ ของทั้งสองประเทศด้วย เช่น เศรษฐกิจ การศึกษา วัฒนธรรม การท่องเที่ยว เป็นต้น

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=43239

แสดงความคิดเห็น

Share It

ความคิดเห็นล่าสุด

ข่าวมาใหม่

Find Us