20 โรงแรมในสงขลารวมพลังประกาศนโยบาย “โรงแรมปลอดบุหรี่ 100 %”

รองผู้ว่าฯ สงขลา มอบโล่เกียรติยศและใบประกาศเกียรติคุณ “โรงแรมปลอดบุหรี่ 100%” แก่ตัวแทนโรงแรม 20 แห่ง ในจังหวัดสงขลา หนุนนโยบายสถานที่ปลอดบุหรี่และคุ้มครองสุขภาพของประชาชน จากกระทรวงสาธารณสุข

วันนี้ (30 ก.ย. 62) ที่ ห้องประชุม 1 ศาลากลางจังหวัดสงขลา อ.เมือง จงสงขลา นายศักระ กปิลกาญจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานมอบโล่เกียรติยศและใบประกาศเกียรติคุณโรงแรมปลอดบุหรี่ 100% แก่ตัวแทนโรงแรมทั้ง 20 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อเสริมสร้างสุขภาพของธุรกิจการท่องเที่ยว พร้อมหนุนนโยบายสถานที่ปลอดบุหรี่และคุ้มครองสุขภาพของประชาชนของกระทรวงสาธารณสุข ในโอกาสประชุมหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด ประจำเดือนกันยายน 2562

โดยศูนย์ข่าวปลอดควันจังหวัดสงขลา และมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ได้จัดทำโครงการโรงแรมปลอดควันปลอดบุหรี่เมืองสงขลา 100 % ตั้งแต่ ปี 2557 โดยได้สนับสนุนโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการให้ประกาศนโยบายให้โรงแรมเป็นเขตปลอดบุหรี่ทั้งหมด ซึ่งมาตรการดังกล่าวมีส่วนสำคัญอย่างมากในการปกป้องและส่งเสริมสุขภาพของผู้มาใช้บริการ พนักงาน ให้ปลอดพ้นจากการได้รับอันตรายของควันบุหรี่ อีกทั้ง ยังเป็นการสนับสนุนการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ 2560 ที่ออกโดยกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งกำหนดให้พื้นที่บริเวณโถงรับแขก ล็อบบี้โรงแรม ทางเดิน ห้องอาหาร และส่วนบริการลูกค้าต้องเป็นเขตปลอดบุหรี่ตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ นโยบายดังกล่าวนับเป็นตัวอย่างให้กับผู้ประกอบการด้านนี้เห็นเป็นต้นแบบ ไม่เพียงแต่จะปฏิบัติตามกฎหมาย แต่แสดงวิสัยทัศน์ที่จะเป็นผู้นำของการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นด้านการสร้างเสริมสุขภาพ ซึ่งเป็นทางเลือกให้กับผู้มาเลือกใช้บริการทั้งในและต่างประเทศ

นางสาวจินตนา สุวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานหาดใหญ่ กล่าวว่า อำเภอหาดใหญ่ เป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของภาคใต้ตอนล่าง มีแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนยามค่ำคืนควบคู่ไปกับแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยือนประมาณ ปีละ 7.6 ล้านคน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวคิดเป็นมูลค่าปีละกว่า 68,000 ล้านบาท โดยจากผลสำรวจของ รศ.ดร.วิไลวรรณ วิริยะไชโย ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เมื่อปี 2552 เรื่อง “ทัศนคติของนักท่องเที่ยวต่อการออกกฎหมายห้ามสูบบุหรี่บริเวณล็อบบี้โรงแรม” ระบุว่า นักท่องเที่ยวที่มาพักในโรงแรม ระดับ 3-4 ดาว 25 แห่ง ของกรุงเทพฯ สุราษฎ์ธานี ภูเก็ต กระบี่ สงขลาทั้งชาวต่างชาติและชาวไทย จำนวน 5,550 คน พบว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ 80.9% เห็นด้วยกับการออกกฎหมายในการห้ามสูบบุหรี่ในบริเวณล็อบบี้โรงแรม โดย 53.4% เห็นว่าไม่มีผลกระทบเลยว่าจะกลับมาเที่ยวเมืองไทยหรือไม่ ขณะที่ 38.6% ยืนยันว่า การมีกฎหมายนี้จะยิ่งทำให้อยากกลับมาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น

ด้าน นางสาวสรัณญา บุญโสม กรรมการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า การที่โรงแรมมีนโยบายให้ปลอดบุหรี่ 100% เท่ากับเป็นการบอกกับแขกที่มาพักหรือมาใช้บริการของโรงแรมว่า ทางโรงแรมใส่ใจในสุขภาพของลูกค้าที่ไม่สูบบุหรี่ทุกคน ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ ความห่วงใยในสุขภาพของพนักงานซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีค่าของโรงแรม ที่ต้องรับควันบุหรี่ทุกวัน ซึ่งโรงแรมที่ไม่ปลอดบุหรี่ ทั้งแขกและพนักงานต้องรับอันตรายจากควันบุหรี่มือสาม คือ สารพิษจากควันบุหรี่ที่ตกค้างอยู่ตาม กำแพง เพดาน ฝุ่น พรม เครื่องปรับอากาศ ซึ่งมีสารก่อมะเร็งถึง 11 ชนิด โดยที่การเปิดหน้าต่าง พัดลม หรือเครื่องปรับอากาศทิ้งไว้ ไม่สามารถกำจัดออกไปได้ นำมาซึ่งอันตรายต่อทั้งแขกที่มาพักหรือใช้บริการและพนักงาน อีกทั้งผู้ประกอบการยังต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อทำความสะอาดห้องพักมากยิ่งขึ้น ทั้งการ ซักพรม ดูดฝุ่น หรือแม้แต่ล้างแผ่นกรองอากาศในเครื่องปรับอากาศ ซึ่งถือเป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นที่ผู้ประกอบการสามารถหลีกเลี่ยงได้และมีมูลค่ามากพอที่ผู้ประกอบการควรพิจารณา

ขณะที่ นายศิวัตน์ สุวรรณวงศ์ นายกสมาคมธุรกิจโรงแรม หาดใหญ่ – สงขลา ซึ่งได้ประกาศตัวเป็นโรงแรมปลอดบุหรี่ 100% ในฐานะตัวแทนผู้ประกอบการโรงแรม จังหวัดสงขลา กล่าวว่า เราตระหนักถึง ความปลอดภัยของลูกค้า และแขกที่จะมาพักในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้รับอากาศที่บริสุทธิ์จากโรงแรมของเราซึ่งปลอดบุหรี่ 100% ทั้งนี้ ประเทศไทยเรามีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามไม่แพ้ชาติใดในโลกอยู่แล้ว ฉะนั้น ไม่เพียงการบริการที่ดีเยี่ยม ที่จะสร้างชื่อให้กับโรงแรมและประเทศเราเท่านั้น ความใส่ใจในการดูแลสุขภาพของผู้มาใช้บริการโรงแรมทุกคน ก็เป็นเหตุผลที่จะทำให้นักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวและมาพักกับเราอีกครั้ง

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=46723