|

สงขลาร่วมประชุมรับข้อสั่งการจากกระทรวงมหาดไทย เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ไวรัสโควิด – 19

mOU พัฒนาวิชาการ (3)

จังหวัดสงขลา ร่วมประชุมรับข้อสั่งการจากกระทรวงมหาดไทย เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ไวรัสโควิด – 19 รวมถึงการออกมาตรการเพื่อลดการระบาดของโรค ผ่านระบบ Video Conference พร้อมยืนยันขณะนี้จังหวัดสงขลายังไม่พบผู้ป่วย

เย็นวานนี้ (17 มี.ค. 63) ที่ ประชุม Conference ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นางสุรียพรรณ์ ณ สงขลา นายสมหวัง เรืองเพ็ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายวรณัฏฐ์ หนูรอต ปลัดจังหวัดสงขลา นำหัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมรับข้อสั่งการจากกระทรวงมหาดไทย ในการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ไวรัสโควิด – 19 รวมถึงการออกมาตรการเพื่อลดการระบาดของโรคตามอำนาจหน้าที่และสถานการณ์ที่เหมาะสม โดยมีพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมจากส่วนกลางผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (Video Conference System) ณ ห้องประชุมราชสีห์ อาคารศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร

90191743_2879194678827412_5637230857598009344_o

สำหรับมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 นั้นทางครม. ได้มีมติเพื่อลดโอกาสการแพร่ระบาดของโรคในสถานที่ต่างๆ ที่มีความเสี่ยงสูง ประกอบด้วย 1. ปิดสถานที่ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคเพิ่มขึ้น 2. สถานที่ซึ่งผู้คนไม่ได้มาชุมนุมเป็นกิจวัตร แต่มาเพื่อทำกิจกรรมที่มีการเบียดเสียดใกล้ชิด และเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อง่ายทางปาก สัมผัสถูกเนื้อถูกตัวหรือใช้สิ่งของร่วมกันง่าย 3. งดการจัดกิจกรรมรวมคนจำนวนมากที่มีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่ระบาดของโรค เช่น จัดคอนเสิร์ต การจัดงานแสดงสินค้าต่างๆ กิจกรรมทางศาสนา วัฒนธรรม และกีฬา โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัค และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณาให้ความเห็นชอบด้วย 4. ยับยั้งการแพร่ระบาดภายในประเทศ ได้แก่ งดวันหยุดสงกรานต์ วันที่ 13 – 15 เมษายน 2563 โดยให้เลื่อนออกไปก่อน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด โดยจะชดเชยวันหยุดให้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม 5. ลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อในระบบขนส่งสาธารณะในประเทศ และเพิ่มความถี่ของการเดินรถ

90231994_2879194685494078_9121130207229509632_o

6. งดกิจกรรมที่มีการเคลื่อนย้ายคนข้ามจังหวัดของหน่วยงานที่มีคนจำนวนมาก เช่น ค่ายทหาร เรือนจำ โรงเรียน หรือหากจำเป็นต้องเคลื่อนย้าย ต้องมีมาตรการป้องกันการแพร่ของโรค รวมถึงการจำกัดการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวด้วย 7. ให้ทุกหน่วยงานพิจารณามาตรการเหลื่อมเวลาทำงานและการทำงานที่บ้าน และส่งเสริมให้ใช้ระบบอินเทอร์เน็ต เช่น ประชุมทางไกล โดยให้หน่วยงานราชการทุกหน่วยทำแผนการทำงานจากบ้าน และรายงานผลการปฏิบัติต่อศูนย์ 8. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และ คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มาตรา 35 เพื่อจำกัด ดูแล การเคลื่อนย้ายที่จะทำให้เกิดการแพร่ระบาด หรือกำหนดมาตรการที่เหมาะสมในการจำกัดพื้นที่เสี่ยงตามข้อมูลที่มีการแพ่รระบาดและแจ้งมาตรการที่จะดำเนินการต่อศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ทราบและให้ความเห็นชอบโดยเร็ว พร้อมทั้งรายงานผลการดำเนินงานเป็นประจำทุกวัน 9. ให้มีหน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคในทุกอำเภอ เขต หมู่บ้าน โดยมีบุคคลจากภาคเอกชนเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย

90123891_2879194875494059_6741211617888829440_o

ด้านนายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า จังหวัดสงขลา ได้บูรณาการร่วมกันกับหลายภาคส่วนในการเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง พร้อมทั้งการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมท่าอากาศยานและระบบขนส่งสาธารณะ โดยกำชับเจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดมาตรการในการคัดกรองเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว นอกจากนี้จังหวัดสงขลายังมีการผลิตและสอนการทำหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือเพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่พระภิกษุสงฆ์ ผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาสและประชาชนกลุ่มเสี่ยง อีกด้วย

90300689_2879194922160721_8496924631368728576_o

90095070_2879194695494077_7471884863172247552_o

ศิริลักษณ์ แคล้วคลาด/ข่าว

ประชา-วิทยา/ภาพ

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา

17 มี.ค. 63

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=53733

แสดงความคิดเห็น

Share It

ความคิดเห็นล่าสุด

ข่าวมาใหม่

Find Us