รองนายกฯ – รมว.สธ. ยัน รพ. สนามในศูนย์กักตัว ผู้ต้องกัก ตม.จว.สงขลา ไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชน

รองนายกฯ และ รมว.สธ. ยืนยันว่าโรงพยาบาลสนามในศูนย์กักตัว ผู้ต้องกัก ตม.จว.สงขลา ไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชน

วันนี้ (30 เม.ย.63) ที่ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 6 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและคณะ ร่วมรับฟังสถานการณ์ควบคุมสถานการณ์โควิด-19 / สำหรับมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 สะสม ของ จ.สงขลา ถึงวันที่ 28 เม.ย.63 มียอดรวม 105 ราย แยกเป็นผู้ป่วยทั่วไป 44 ราย ผู้ป่วยศูนย์กักตัว ด่านสะเดา 42 ราย / กลุ่มดะวะห์กลับจากอินโดนีเซีย 19 ราย / ซึ่งจำนวนผู้ป่วยที่รักษาหายแล้วแบ่งเป็นกลุ่มผู้ป่วยทั่วไป 33 ราย / กลุ่มดะวะห์ 17 ราย / ส่วนที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแยกเป็นผู้ป่วยทั่วไป 11 ราย / ศูนย์กักตัวด่านสะเดา 6 ราย / กลุ่มดะวะห์ 2 ราย

จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางมาที่ด่านปาดังเบซาร์ เพื่อตรวจเยี่ยมดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ดำเนินการคัดกรองสุขภาพผู้เดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย

สำหรับข้อมูลผู้เดินทางกลับมาจากประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 18 – 29 เม.ย. 63 จำนวน 5 ด่าน จำนวนคัดกรอง 4,052 คน มีผู้เข้าเกณฑ์การเฝ้าระวังและสอบสวนโรค 144 คน ซึ่งตรวจ 122 คนไม่พบไข้ อีก 22 คน รอผลการตรวจ ซึ่งผลการตรวจ ณ ขณะนี้ ยังไม่พบการติดเชื้อ ซึ่ง จ.สงขลา มีผู้เดินทางผ่านด่าน จำนวน 1,150 ราย เข้าเกณฑ์ PUI 103 ราย เข้า state Quarantine 792 ราย และ Local Quarantine 199 ราย

โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้สอบถามความเป็นอยู่และบอกขั้นตอนของเจ้าหน้าแก่ผู้ที่เดินทางกลับไทย พร้อมขอบคุณทุกความร่วมมือซึ่งทุกคนจะได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียมและทั่วถึงเพื่อให้มั่นใจว่าสุขภาพร่างกายปลอดภัยก่อนกลับบ้าน พร้อมมอบเจลล้างมือให้ทุกคน

จากนั้น ได้ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และกล่าวขอบคุณที่เสียสละและทุ่มเทแรงกายแรงใจในการรับคนไทยกลับบ้าน โดยขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพและคำนึงถึงความปลอดภัยของร่างกายต้องมาอันดับหนึ่ง

ต่อมาเดินทางมาที่โรงพยาบาลสนาม ศูนย์กักตัว ผู้ต้องกัก ตรวจคนเข้าเมืองสงขลา ร่วมรับฟังการสอบสวนโรค กรณีพบผู้ป่วยกลุ่มเจ้าหน้าตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 7 ราย เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ 4 ราย / โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ สาขา 2 จำนวน 3 ราย ส่วนเจ้าหน้าที่ด่านสะเดาถูก Swab 142 ราย ถูกกักกันสังเกตอาการ 103 ราย

ด้านผู้ป่วยกลุ่มผู้ต้องกัก ศูนย์กักตัว ผู้ต้องกัก ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา มีคนต่างด้าวถูก Swab 47 ราย ตรวจพบเชื้อ 42 ราย ซึ่งหลังจากพบเชื้อ ได้ดำเนินการตั้งโรงพยาบาลสนามที่ศูนย์กักตัว มีทีมแพทย์ พยาบาล รักษาตามอาการ โดยมีผู้ป่วยภายในศูนย์ 36 ราย ขณะนี้อาการไม่รุนแรง แพทย์และพยาบาล ดูแลรักษาและจ่ายยาตามอาการ ส่วนที่เหลืออีก 6 รายส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาล โดยเป็นหญิงตั้งครรภ์ 1 ราย อยู่ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ และผู้ป่วยปอดอักเสบ 5 ราย รักษาตัวที่โรงพยาบาลหาดใหญ่

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ภาพรวมสถานการ์โควิด – 19 ในพื้นที่ภาคใต้ มีแนวโน้มที่ดีกราฟข้อมูลสอดคล้องกับกราฟภาพรวมของประเทศ  ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของพี่น้องประชาชน โดยได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ทำความเข้าใจกับประชาชนถึงมาตรการต่างๆ และเกิดความมั่นใจจนเกิดการปฏิบัติตาม โดยเฉพาะ New Normal คือการ ใช้วิถีชีวิตเดิมในรูปแบบใหม่ ซึ่งตัวเลขผู้ป่วยในภาคใต้ที่มีจำนวนมากยังเป็น จ.ภูเก็ต และ จ.ยะลา แต่เมื่อดูจากการทำงานแล้วสถานการณ์น่าจะดีขึ้น

ส่วนในเรื่องการดูแลรักษาชาวต่างชาติที่ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองซึ่งติดเชื้ออีก 42 รายนั้น ขณะนี้ได้ตั้งโรงพยาบาลสนามภายในศูนย์กักตัวฯ แล้ว โดยนำเครื่องเอกซเรย์ ยาเวชภัณฑ์ เพื่อไม่ให้เกิดการเคลื่อนย้ายซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ ยืนยัน ดูแลทุกคนตามหลักมนุษยธรรม ขณะเดียวกัน ได้มอบหมายให้อธิบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์  นำอุปกรณ์ตรวจหาเชื้อผ่านทางน้ำลายหรือเสมหะมาให้ใช้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทุกคนมีปลอดภัยสูงสุด พร้อมให้ทีมแพทย์จิตเวชเข้าไปดูแลสภาพทางจิตใจ และยืนยันว่าที่นี่ไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชน ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการทางระบบทางเดินหายใจและหญิงตั้งครรภ์ได้เคลื่อนย้ายไปยังโรงพยาบาลหาดใหญ่และโรงพยาบาล ม.อ. แล้ว

มุจรินทร์ ทองนวล / ข่าว

อรรคพงษ์ – ฟารีด้า / ภาพ

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา

30 เม.ย. 63

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=55157