ทนายใจดี – แลบ้านแลเมือง ตั้งศูนย์บ้านกลางฯ ทำอาหาร แจกของช่วยชาวบ้าน

“บ้านกลางร่วมใจ ต้านภัยโควิด” เป็นโครงการเล็กๆ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นศูนย์ทำอาหารแจกให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด ของโควิด 19 ในพื้นที่ชุมชนบ้านกลาง อันเป็นเขตรอยต่อของประชาชนสามตำบล ประกอบด้วย ตำบลทุ่งตำเสา ควนลัง และฉลุง

โครงการดังกล่าวเริ่มจากภายหลังที่รัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.บริการราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยมีกลุ่มนักกฎหมาย “ทนายใจดี” นำโดยว่าที่ร้อยตรีชัชวาลย์ บำรุงวงศ์ ร่วมกับนายปิยภัทร โพธิภักดี ผู้ดำเนินรายการ “แลบ้านแลเมือง” สถานีวิทยุกระจายเสียง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ม.อ. FM 88

ว่าที่ร้อยตรีชัชวาลฯ กล่าวว่า ได้ร่วมหารือกันว่าจะสามารถทำอะไรได้บ้าง เพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับชาวบ้าน จึงมองว่าอาหารการกินนี่แหละสำคัญและยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้ เราจึงจัดตั้ง “ศูนย์บ้านกลางร่วมใจต้านภัยโควิด” ขึ้นในวันที่ 4 เมษายน 2563 ตั้งอยู่ที่อาคาร P&C CENTER ถนนเพชรเกษม (สายเก่า) แยกบ้านกลาง ก่อนถึงแยกหูแร่ 3 ก.ม. ด้วยการตั้งโรงครัวทำอาหารและสิ่งของแจกจ่ายประชาชน ทั้งนี้ “ครัวใจดี” ประกอบด้วย พ่อครัว 1 คน แม่ครัว 7 คน อาสามาช่วยโดยไม่มีผลตอบแทน โดยตั้งเป้าหมายจะแจกอาหารวันละสองมือ คือมื้อเที่ยง และมื้อเย็น เริ่มตั้งแต่วันที่จันทร์ที่ 6 เมษายน 2563 จนถึงวันศุกร์ที่ 10 เมษายน 2563 โดยใช้งบประมาณ 30,000 บาท จากกลุ่มทนายใจดีเป็นหลัก

“ได้มีการประชาสัมพันธ์ผ่านเฟซบุ๊ก และจากการบอกต่อกันของชาวบ้านกระจายไปในชุมชนให้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนได้รับทราบ โดยในวันแรกได้แจกจ่ายอาหาร 100 กล่อง หน้ากากผ้า น้ำดื่ม ผลไม้ ปรากฏว่าหมดภายใน 20 นาที และไม่เพียงพอสำหรับบางคนที่มาภายหลัง”

จากนั้นได้มีการประชาสัมพันธ์ผ่านเฟซบุ๊คกลุ่ม “แลบ้านแลเมือง” และพูดคุยอากาศทางสถานีวิทยุ ม.อ. ได้มีผู้ใหญ่ใจดีหยิบยื่นน้ำใจมาร่วมสนับสนุนโครงการฯ มากมาย ทั้งเป็นเงิน และวัตถุดิบที่ใช้ประกอบอาหาร อีกทั้งยังได้รับการอำนวยความสะดวกและการแนะนำจากสถานีตำรวจภูธรทุ่งตำเสา โดย พ.ต.อ.อภิสฤษฎิ์ มณีโชติ ผกก.สภ.ทุ่งตำเสา ได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจมาอำนวยความสะดวกอย่างต่อเนื่อง

จากน้ำใจที่หลั่งไหลเข้ามา ทำให้แผนการตั้งโครงการที่ตั้งไว้ว่าจะจบลงในวันที่ 10 เมษายน 2563 จึงได้ขยายออกไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน  อันเป็นวันสิ้นสุด พ.ร.ก.ฉุกเฉินช่วงแรก ซึ่งนอกจากจะมีการทำอาหารแจกจ่ายให้กับประชาชนแล้ว ในระหว่างนั้นโครงการก็ยังมีการแบ่งปันอาหาร สัญจรไปยังชุมชนใกล้เคียง อาทิ ชุมชนนพคล้ายและชุมชนบ้านท่าเหรียง หมู่ที่ 5 ตำบลควนลัง อีกด้วย และยังได้เริ่มมีการจัดทำ “ถุงแบ่งปัน” ภายในประกอบด้วย ข้าวสาร 5 ก.ก. นม 1 แพ็ค ขนม 1 ห่อใหญ่ ไข่ไก่ 1 แผง หรือปลากระป๋อง 1 แพ็ค พร้อมหน้ากากผ้า มูลค่าชุดละ 300 บาท มอบให้แก่ผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงผู้พิการ โดยเริ่มแจกจ่ายชุดแรก จำนวน 15 ชุด ไปยังชุมชนบ้านหัวจักร-ทุ่งรื่น หมู่ที่ 5 ต.ฉลุง

ต่อมาเนื่องจากมีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขยายเวลาออกไปจนถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2563 ทางโครงการจึงได้ยุติการทำอาหารจากครัวใจดี ในวันที่ 30 เมษายน 2563 ด้วยมีข้อจำกัดมากมายในการดำเนินการที่ต้องหลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มของประชาชนให้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม แม้ครัวใจดีต้องหยุดพักลง โครงการก็ยังดำเนินต่อไป โดยการจัดทำเป็นถุงแบ่งปันมอบให้แก่ผู้ที่ลงทะเบียนไว้ และจากที่สำรวจไว้แต่ต้น โดยการนำไปมอบให้ถึงบ้านผู้เดือดร้อนและเป็นการพบปะเพื่อจะได้ช่วยเหลือให้กำลังใจกันอย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อแบ่งเบาบรรเทาทุกข์ให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตโควิด 19 นอกจากนี้ ว่าที่ร้อยตรีชัชวาลฯ ยังกล่าวอีกว่า เราได้ตั้งโรงครัวใจดี ตั้งแต่วันที่ 6 – 30 เมษายน 2563 เป็นระยะเวลา 20 วัน อาหาร 36 มื้อ 5,780 กล่อง และในวันที่ 1-8 พฤษภาคม ยังมีถุงแบ่งปัน 60 ชุด รวมค่าใช้จ่ายโครงการ 136,500 บาท และต่อมาศูนย์บ้านกลางฯ ยังได้จัดตั้ง “ตู้แบ่งปัน” และ “เสื้อผ้าแบ่งปัน” เพื่อให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบได้มาหยิบเอาไปใช้สอยได้ตามที่จำเป็นอีกด้วย

ขอขอบพระคุณ กลุ่มทนายใจดี, กม. 10 โฮม, บ้านสวนวงศ์ทอง, หจก.ปัตตานีสหพันธ์ก่อสร้าง, หจก.ไชยรักษ์ เอ็กซ์เพลซ, ศิษย์เก่าแสงทองฯ, สวนนายปาน, ร้าน พีแอนด์ซีซุปเปอร์มาร์ท, ร้าน อ.พาณิชย์, NJ มินิมาร์ท, MJ เปรี้ยวหวาน, ร้านคุณหม่อมผักสด บ้านกลาง, บมจ.หาดทิพย์, ร้าน JP SPEED บางนา, ร้านดอยคำหาดใหญ่, ชมรมเพื่อนช่วยเพื่อนคอหงส์, คุณสุภมาศ นิยตผลิน, คุณธีรทัต วรวัฒน์นฤนาท, คุณโสภณ ฉิมนวล, ผู้ใหญ่ใจดีคนบ้านกลาง และผู้ใหญ่ใจดีทั่วประเทศที่ไม่ประสงค์ออกนาม มา ณ ที่นี้ด้วย และขอขอบคุณ FM 88.00 มอ. รายการ แลบ้าน แลเมือง ช่วยเป็นสื่อบุญไปถึงผู้ใหญ่ใจดี ให้รับทราบและสนับสนุนโครงการมาอย่างต่อเนื่องจวบจนปัจจุบัน

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=55600