‘เปิดปากคลองสำโรง’ หัวใจสำคัญ แก้ปัญหาน้ำเน่า-น้ำท่วม

ตัวแทนชุมชนเก้าเส้ง นักวิชาการ ผู้นำชุมชน ย้ำเปิดปากคลองสำโรงแก้ปัญหาตรงจุด

นายพิทยา ชูศรี อดีตกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาคลองสำโรงสงขลา อดีตเลขาเครือข่ายคลองสำโรง และชาวบ้านชุมชนหมู่ 3 กล่าวว่าคลองสำโรงเป็นสายน้ำสำคัญของชุมชนเก้าเส้ง ที่ประสบปัญหาน้ำเน่าเสียมาอย่างยาวนาน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีวิธีการแก้ปัญหาโดยอาศัยวิธีการทางธรรมชาติบำบัดคือ ในช่วงที่มีน้ำทะเลอ่าวไทยลง น้ำเน่าเสียในคลองสำโรงก็จะไหลลงสู่ทะเลอ่าวไทย และในช่วงที่น้ำทะเลอ่าวไทยขึ้น ก็จะดันน้ำทะเลซึ่งมีน้ำเค็มเข้ามาในคลองสำโรง จะทำให้เกิดการเจือจางของน้ำเน่าเสียในคลองสำโรง ซึ่งในช่วงระบายน้ำออกไปสู่อ่าวไทย เพราะในน้ำจะมีจุลินทรีย์ทั้งดีและเสีย พอออกไปที่อ่าวไทยความเค็มของอ่าวไทยก็จะบำบัดน้ำพวกนั้น แต่ที่เราไม่ให้ออกไปก็คือพวกขยะ ซึ่งทางเทศบาลนครสงขลา ได้ติดตั้งตาข่ายเพื่อดักขยะไว้ ไม่ให้ไหลลงสู่ทะเลอีกทางหนึ่งด้วย

ดร.พลอยรำไพ แก้วแสงอ่อน นักวิชาการอิสระและชาวบ้านชุมชนริมคลองสำโรง กล่าวว่า ถ้าปกติไม่มีการขุดลอกคลองสำโรง เราก็ต้องรอธรรมชาติ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาปีละครั้งหรือสองครั้ง ในช่วงมรสุมที่ปากคลองจะเปิดเองโดยธรรมชาติ แต่เมื่อเก้าเส้งเป็นชุมชนที่หนาแน่น ซึ่งจะมีอยู่ด้วยกัน 3 ชุมชนคือชุมชนหลังโรงพยาบาลจิตเวช ชุมชนเก้าเส้ง และชุมชนบาลาเซาะ เราจึงรอให้ธรรมชาติเปิดเองไม่ได้ เพราะจะทำให้ชาวชุมชนเดือดร้อน เนื่องจากน้ำตายจนทำให้เกิดน้ำเน่าเสีย และมีขยะด้วย พื้นที่คลองสำโรงนี้มีระยะทางยาวประมาณ 5 กิโลเมตร จากทะเลสาบสงขลามาถึงอ่าวไทย ก็จะมีขยะไหลมาเรื่อยไป และมาจ่ออยู่ที่ปากคลองสำโรงเก้าเส้ง ตอนนี้ก็มีหน่วยงานมาทำบุมดักจับขยะ ซึ่งก็จะเกิดประโยชน์ตรงที่มาดักจับขยะตรงนี้ได้ ซึ่งก็จะมีคนมาเก็บขยะในบุม เพราะถ้าไม่เก็บก็จะเหมือนกองขยะอยู่ในคลอง  แต่ก็จะช่วยไม่มีขยะออกสู่ทะเลอ่าวไทย

ซึ่งในส่วนของท่าน มท.2 ที่ได้ลงมาช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้พี่น้องชุมชน โดยการเปิดปากคลองสำโรง จึงเป็นการช่วยประชาชนในชุมชนได้ในระดับหนึ่ง แต่พอมันเปิด มันก็จะเร็วมากที่จะกลับมาปิดอีก ซึ่งตนเองเป็นคนในชุมชนคลองสำโรงได้ศึกษาเรื่องนี้โดยตรง ก็เห็นด้วยอย่างยิ่งในเรื่องของการเปิดปากคลองสำโรง เพราะจะทำให้น้ำในคลองมันไหลได้ตลอด ทำให้ไม่เกิดการเน่าเสีย เพราะโดยธรรมชาติของทะเลมันจะบำบัดกันเอง ดังนั้นการเปิดปากคลองสำโรงถือเป็นการแก้ปัญหาให้กับพี่น้องในชุมชนเพียงแต่ว่าต้องเปิดบ่อยๆ เพราะมันจะปิดเร็วมาก ด้วยสภาพอากาศและลมต่างๆ มันก็จะดันผนังทรายมาปิดอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นเรื่องดีที่ท่าน มท.2 รวมถึงนายกฯเทศบาลนครสงขลามา ร่วมกัน ซึ่งการทำงานอย่างนี้ถือว่าถูกต้องแล้ว

ต่อจากนั้นตัวแทนชุมชนกล่าวเสริมว่า อยากฝากท่าน มท.2 หรือผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยทำให้น้ำไหลและสะอาดแบบยั่งยืน และต้องขอบคุณท่านนิพนธ์ รัฐมนตรีช่วย ที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับชาวบ้าน ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นการแก้ปัญหาเร่งด่วนไม่ยั่งยืน แต่เป็นการแก้ปัญหาได้ในระยะหนึ่ง แต่อย่างน้อยปัญหาน้ำเน่าเสียในคลองสำโรงตอนนี้กลับมาใสสะอาดเป็นปกติ ถึงไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็ถือว่าดีขึ้นเยอะเพราะ ยุงไม่มี และน้ำไม่เน่าเสีย จึงต้องขอขอบคุณท่านนิพนธ์ที่ได้นำเครื่องจักร มาช่วยแก้ปัญหาให้กับชาวบ้านจนไม่มีกลิ่นเหม็น กับประชาชนบางคนที่มาท้วงติงว่า รัฐมนตรีช่วยมาสร้างปัญหาให้กับคลอง ทะเลหรือให้น้ำเสียออกทะเล ดูได้ว่ามีหรือไม่ที่ขยะออกมาเท่าไหร่ เพราะทางเทศบาลได้ทำที่ดักขยะ ส่วนน้ำก็มาดูได้ว่าสกปรกหรือเปล่า ซึ่งปากคลองสำโรงนี้คือหัวใจโดยตรง ถ้าแก้ตรงนี้ได้ทุกอย่างก็จบ ทั้งเรื่องของน้ำท่วม น้ำเน่าเสีย แต่ถ้าไม่แก้ตรงนี้ยังไงก็มีปัญหา จึงอยากให้ทำอย่างไรก็ได้ หรือให้นักวิชาการ ทำให้น้ำในคลองสำโรงนี้ไหลเปิดได้ตลอดทั้งปี เพราะนั้นคือการแก้ปัญหาที่ตรงจุดให้กับคนเก้าเส้ง

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=56137