|

ม.อ. เดินหน้ายุทธศาสตร์ ‘ศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน’

A9B7D3D5-6727-4F8E-93A6-799117F2607F

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต จัดแถลงข่าว..เดินหน้ายุทธศาสตร์ศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน โดยมีผู้ร่วมแถลงข่าว รศ.ดร.พันธ์ ทองชุมนุม รองอธิการบดีวิทยาเขตภูเก็ต, รศ.นพ.พุฒิศักดิ์ พุทธวิบูลย์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และนายจำรัส ปิติกุลสถิตย์ ประธานกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ห้องประชุมเก็ตโฮ่ อาคารสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน 2563

75480A35-34AC-4543-99E2-857B54A0FD2D

รศ.ดร.พันธ์ ทองชุมนุม รองอธิการบดีวิทยาเขตภูเก็ต เปิดเผยว่า จากข้อมูลการส่งต่อผู้ป่วยหนักเพื่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ของ 3 จังหวัดอันดามันคือ ภูเก็ต พังงา และกระบี่ ในปี 2562 ที่ผ่านมาพบว่ามีจำนวน ทั้งสิ้น 5,820 คน คิดเป็นจำนวนครั้งในการส่งต่อ 10,106 ครั้ง ซึ่งตัวเลขดังกล่าวได้สะท้อนถึงการขาดโอกาสการดูแลสุขภาพอย่างทั่วถึงของคนในพื้นที่จังหวัดอันดามัน และหากรวมตัวเลขผู้ป่วยในจังหวัดอื่นๆ ในพื้นที่อันดามัน รวมถึงผู้ป่วยที่อาจจะเลือกเดินทางไปรักษาที่กรุงเทพมหานครเข้าไปด้วย เชื่อว่าตัวเลขดังกล่าวจะมีสูงกว่านี้มาก เพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าวรวมทั้งเป็นการลดค่าใช้ในการรักษาผู้ป่วยกลุ่มนี้ทางมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์จึงได้มีแนวคิดในการจัดตั้งศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามันขึ้น โดยมีเป้าหมายในการดูแลสุขภาพของคนในพื้นที่จังหวัดอันดามัน รวมทั้งผลิตบุคลากรด้านสาธารณสุขเพื่อรองรับและส่งเสริมการท่องเที่ยวซึ่งถือเป็นการสนองยุทธศาสตร์ชาติของรัฐบาล  

โครงการศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน ได้ผ่านความเห็นชอบจากมติสภามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2562 และได้มีการบรรจุโครงการในแผนยุทธศาสตร์ฯ 2561-2565 ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และถือเป็นหนึ่งในจุดเน้นตามหลักการPSU System ซึ่งมีวิทยาเขตภูเก็ต (..ภูเก็ต) เป็นผู้ดำเนินการ

โดยโครงสร้างการดำเนินงานศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน ประกอบด้วย 3 กิจกรรมหลัก 1. วิทยาลัยสุขภาพนานาชาติ(International Health and Science College) จะมีผลิตบุคลากรทางด้านสาธารณสุขให้กับหน่วยงานต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาสาธารณสุขของพื้นที่อันดามันและพื้นที่อื่นๆ ของประเทศ โดยมีเป้าหมายในการผลิตทั้งแพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์ เภสัชกร เทคนิคการแพทย์และแพทย์แผนไทย นอกจากนี้โครงการดังกล่าวยังเป็นโอกาสทางการศึกษาของประชาชนในพื้นที่ด้วย โดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ยังมีเป้าหมายในการเป็นศูนย์การศึกษาด้านสาธารณสุขของภูมิภาคอาเชียนด้วย 2. โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต (Songklanagarind Hospital Phuket Campus) เพื่อให้ประชาชนในกลุ่มจังหวัดอันดามันได้รับบริการรักษาโรคซับซ้อน โดยที่สถานพยาบาลในพื้นที่ไม่สามารถรองรับได้ สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวในการเข้ามาท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดอันดามันและประเทศไทย โดยเตรียมความพร้อมทั้งองค์ความรู้และบุคลากรเพื่อรองรับปัญหาทางด้านสุขภาพใหม่ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตรวมทั้งการรองรับสังคมผู้สูงวัย 3. ศูนย์สุขภาพนานาชาติ (International Wellness Center) เพื่อให้บริการทางการแพทย์แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในจังหวัดภูเก็ต ให้ได้รับบริการที่ดีมีคุณภาพ สะดวก รวดเร็ว และเตรียมความพร้อมรองรับการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยว ที่เกิดขึ้นในอนาคต เพื่อสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว และมีการกระจายรายได้อย่างทั่วถึง โดยสร้างเอกลักษณ์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ดูแลแบบครบวงจร ทั้งรักษาพยาบาล ฟื้นฟูสภาพและส่งเสริมสุขภาพ

A21967B1-51C4-4030-9745-2C6EFD8A2639

ทั้งนี้ ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการโครงการศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน โดยมี รศ.นพ.พุฒิศักดิ์ พุทธวิบูลย์ เป็นประธานคณะทำงานขับเคลื่อนการจัดตั้งโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต รศ.ดร.พันธ์ ทองชุมนุม เป็นประธานคณะทำงานขับเคลื่อน Wellness Center

8AA1050A-8126-4161-9EE1-8059EAC7CE7DDC597648-83FC-4039-83D0-C37BE0B8A157

รศ.นพ.พุฒิศักดิ์ พุทธวิบูลย์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนการจัดตั้งโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต กล่าวว่า คณะทำงานขับเคลื่อนการจัดตั้งโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต มีแนวคิดที่จะเริ่มดำเนินการแบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 จัดตั้งคลินิกรักษ์สุขภาพเพื่อให้บริการบุคลากรและบุคคลภายนอก ระยะที่2 จัดตั้งเป็นโรงพยาบาลขนาด 100-150 เตียง เพื่อให้บริการแก่ประชาชนทั่วไป และระยะที่ 3 เพื่อขยายการให้บริการ ขนาด 300 เตียงซึ่งมีแนวคิดที่จะดำเนินการก่อสร้างบนพื้นที่ 17 ไร่ ภายในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ต่อไป

2244C798-F6AF-4A18-BEE0-BD5D502ACDB8

นอกจากนี้ ในด้านความพร้อมการเปิดวิทยาลัยสุขภาพนานาชาติที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต นั้น จะต้องมีการเขียนหลักสูตรทางการแพทย์เพื่อส่งให้แพทยสภารับรอง ซึ่งคิดว่า 2 ปี น่าจะดำเนินการได้ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการตั้งกรรมการเขียนหลักสูตร และคณะกรรมการปรับปรุงเพื่อพัฒนาเป็นโรงพยาบาลซึ่งจะต้องทำควบคู่กันไป ซึ่งกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยได้มีการผลักดันมาเป็นเวลาประมาณ 2 ปีแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม การจะเป็นโรงพยาบาลและวิทยาลัยสุขภาพนานาชาติอาจจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี แต่ในส่วนของคลินิกคิดว่าน่าจะเปิดได้ประมาณเดือนตุลาคม 2563

8C18FE0B-B2A6-4586-8CD8-FB7EB04A98DA

นายจำรัส ปิติกุลสถิตย์ ประธานกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ต ถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางทางการท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง มีการบริการสปาที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกจำนวนมาก มีคลินิกเอกชนมีโรงพยาบาลของรัฐและโรงพยาบาลเอกชนอีกที่ได้รับการมาตรฐาน JCIA (Joint Commission International Accreditation USA) ภูเก็ตมีจำนวนสถานประกอบการเพื่อสุขภาพทั้งหมดที่เข้าระบบและผ่านการรับรองมาตรฐานมากเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพมหานคร และมีความพร้อมในการเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพนานาชาติ แต่ขาดการเชื่อมโยงบริการต่างๆระหว่างผู้ประกอบการที่ให้บริการทางการแพทย์ และการบริการเชิงส่งเสริมสุขภาพ เพื่อนำเสนอการบริการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมให้สามารถตอบสนองความต้องการใช้บริการของนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่างเป็นรูปธรรม การกำหนดทิศทางความเชื่อมโยงและบูรณาการระหว่างการบริการเชิงการแพทย์และการส่งเสริมสุขภาพ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะเป็นปัจจัยที่สำคัญในการพัฒนาอัตลักษณ์ของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสำหรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของจังหวัดภูเก็ตเพื่อก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางการบริการทางการแพทย์ (Medical Hub) ในอนาคต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้ขับเคลื่อนการดำเนินการจัดทำโครงการศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน เพื่อตอบโจทย์ในการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตได้อย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น และจัดให้มีการประชุมหารือรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนในพื้นที่ และผู้ทรงคุณวุฒิหลายท่านในหลากหลายวาระและโอกาส ซึ่งกรรมการส่งเสริมกิจการ ..ภูเก็ต ได้มีมติเห็นชอบในการดำเนินการ

6C1FCD7B-00AD-482B-A3D7-466366DB5C0B

รศ.ดร.พันธ์ ทองชุมนุม รองอธิการบดีวิทยาเขตภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติมว่า การพัฒนาเป็นวิทยาลัยสุขภาพนานาชาติ นั้นจะมีการผลิตบุคลากรด้านสาธารณสุขทั้งหลักสูตรระยะสั้นและระยะยาว เพื่อรองรับการแก้ปัญหาสาธารณสุขและการขาดแคลนบุคลากรในพื้นที่จังหวัดอันดามัน โดยในปีการศึกษา 2563 ได้มีการรับนักศึกษาด้านพยาบาลศาสตร์เป็นรุ่นแรกจำนวน 30 คน ส่วนด้านอื่นๆ เช่นแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัช เทคนิคการแพทย์และแพทย์แผนไทยอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม 

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=56274

แสดงความคิดเห็น

Share It

ความคิดเห็นล่าสุด

ข่าวมาใหม่

Find Us