มท.2 เดินหน้าพัฒนา ‘สงขลาสู่เมืองมรดกโลก’ อนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่า – พื้นที่เกี่ยวเนื่อง
มท.2 เดินหน้าพัฒนา “สงขลาสู่เมืองมรดกโลก” เพื่ออนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่าสงขลา และพื้นที่เกี่ยวเนื่อง ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ สร้างความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ การลงทุน การศึกษา และการพัฒนาในด้านต่างๆ สู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ และสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น
วานนี้ (10 ส.ค.63) ที่ ห้องประชุม 1 ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาสงขลาสู่เมืองมรดกโลก ครั้งที่ 1/2563 โดยมี นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายนฤทธิ์ มงคลศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมจังหวัดสงขลา สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ธนารักษ์พื้นที่สงขลา สำนักศิลปากรที่ 11 สงขลา สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสงขลา สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า “สงขลา” เป็นเมืองสำคัญของประเทศไทยมาแต่โบราณ จากการมีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์อยู่ที่ปากทะเลสาบสงขลาออกสู่อ่าวไทย เชื่อมต่อกับมหาสมุทรแปซิฟิค เป็นต้นทางการค้าทางบกข้ามคาบสมุทรมลายูไปยังมหาสมุทรอินเดีย “สงขลา” จึงเป็นเมืองท่าการค้านานาชาติที่พ่อค้าและนักเดินเรือต่างแวะพัก และซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ามานานนับปี ทำให้เกิดการผสมผสานของหลากหลายวัฒนธรรม เป็นเอกลักษณ์เฉพาะเมืองที่ยังคงเหลืออยู่จนถึงปัจจุบันทั้งนี้ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ.2553 คณะรัฐมนตรีได้ลงมติเห็นชอบประกาศให้พื้นที่เมืองเก่าสงขลาเป็นเมืองซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นมาของชาติไทย มีความมุ่งหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันอนุรักษ์ พื้นฟู และพัฒนาเมืองเก่าสงขลาตามแบบอย่างสากลประกอบกับในปี พ.ศ.2551 เมืองปีนัง ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกับเมืองสงขลาได้รับการประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก ทุกภาคส่วนจึงย้อนกลับมาดูเมืองเก่าสงขลา ซึ่งมีประวัติศาสตร์เก่าแก่กว่าเมืองปีนัง มีลักษณะองค์ประกอบของเมืองคล้ายกัน หากมีการอนุรักษ์ และพัฒนาอย่างถูกทิศทาง น่าจะมีโอกาสได้รับการประกาศเป็นเมืองมรดกโลกเช่นเดียวกัน จึงได้มีการเชิญนักวิชาการทั้งใน และต่างประเทศมาเยี่ยมเยียนเมืองสงขลา เพื่อรับฟังความคิดเห็นประเมินศักยภาพของเมืองที่จะพัฒนาสู่เมืองมรดกโลก และได้รับการยอมรับเบื้องต้น ว่ามีความเป็นไปได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อจังหวัดสงขลาในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นประโยชน์ด้านการอนุรักษ์โดยสงขลา สามารถปกป้อง นำเสนอ และส่งผ่านมรดกที่มีคุณค่าสูงในระดับสากลไปสู่คนในรุ่นต่อไปได้อย่างเหมาะสม การเป็นเมืองมรดกโลกจะเป็นการเปิดโอกาสให้มีการศึกษาข้อมูลต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ ทั้งในเรื่องคุณค่าประวัติศาสตร์ ภูมิปัญญาต่าง ๆ มีแผนการอนุรักษ์ และบริหารจัดการอย่างเป็นระบบได้มาตรฐาน ประโยชน์ด้านการท่องเที่ยวสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชม สร้างรายได้ที่มีผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่มรดกโลก และบริเวณโดยรอบ เป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนประโยชน์ด้านสังคม สงขลาเป็นสังคมพหุวัฒนธรรมที่ประกอบด้วยคนไทยที่นับถือศาสนาพุทธ อิสลาม และคนไทยเชื้อสายจีน มีการหลอมรวมวัฒนธรรมเป็นวัฒนธรรมเฉพาะของสงขลา ดังนั้น การให้ความสำคัญและยกย่องบทบาทของแต่ละกลุ่มว่าเป็นผู้ร่วมกันสร้างเมืองและพัฒนาเมืองสงขลาให้ขึ้นสู่ระดับสากลด้วยกัน ย่อมสร้างความผูกพัน และจิตสำนึกในการรักบ้านเกิดยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ และสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นประโยชน์ด้านความมั่นคง สงขลามีพื้นที่ติดกับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ การที่คนทุกกลุ่มมีความเชื่อในสงขลาว่ามีความสามัคคีร่วมใจกันพัฒนา จะเป็นตัวอย่างให้เยาวชนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เห็นว่าคนไทยทุกกลุ่มร่วมกันสร้างชาติอย่างมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน สร้างจิตสำนึกให้มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ประโยชน์ด้านศักดิ์ศรีของประเทศ การพัฒนาให้เมืองสงขลาเป็นเมืองมรดกโลกเช่นเดียวกับปีนัง ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ สร้างความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ การลงทุน การศึกษา และการพัฒนาในด้านต่างๆ จังหวัดสงขลา จึงได้ดำเนินโครงการพัฒนาสงขลาสู่เมืองมรดกโลกเพื่ออนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่าสงขลา และพื้นที่เกี่ยวเนื่อง ทั้งเมืองเก่าสงขลาในเขตเทศบาลนครสงขลา เมืองเก่าสงขลาเขาแดง เมืองเก่าสงขลาแหลมสนในเขตเทศบาลเมืองสิงหนคร บางส่วนของเกาะยอ และทะเลสาบสงขลา ยกระดับสู่การเป็นเมืองมรดกโลก และเพื่อให้เกิดประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว จึงได้จัดการประชุมเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในวันนี้ (10 ส.ค. 63) มีการชี้แจงในหลายประเด็น อาทิ ความสำคัญของการนำเมืองสงขลาสู่เมืองมรดกโลก บทบาทของภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม บทบาทของสถานศึกษา และมาตรการในการควบคุมการก่อสร้างอาคารของภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐอย่างอื่นครอบคลุมพื้นที่เมืองเก่า และแนวทางการพัฒนาสงขลาสู่เมืองมรดกโลก เพื่อให้เมืองเก่าสงขลาได้รับการปกป้องดูแล มิให้เกิดอาคารที่มีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและทำลายทัศนียภาพบริเวณเมืองเก่า และเท่าทันสถานการณ์การเปลี่ยนแปลง
นอกจากนี้ในที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณา การเข้าร่วมโครงการ UNESCO โดยชี้แจงความก้าวหน้าของโครงการ ซึ่งมีการแต่งตั้งคณะทำงาน Upstream Process เมืองเก่าสงขลาสู่มรดกโลก พิจารณางบประมาณในการดำเนินการโครงการ Upstream Process ของ UNESCO และการขับเคลื่อนสงขลาสู่เมืองมรดกโลกอีกด้วย
สุธิดา พฤกษ์อุดม / สวท.สงขลา 10 ส.ค. 63
Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=58368