“จุรินทร์” ปัดถกตู่เรื่องรัฐบาลแห่งชาติ รับแก้รัฐธรรมนูญสัญญาณดี ยันแก้ปากท้องกับแก้ รธน. ทำพร้อมกันได้

“จุรินทร์” ปัดถกตู่เรื่องรัฐบาลแห่งชาติ รับแก้รัฐธรรมนูญสัญญาณดี ยันแก้ปากท้องกับแก้ รธน. ทำพร้อมกันได้

วันนี้ (30 ก.ย. 63) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวฃพาณิชย์ และคณะ เดินทางมาปฏิบัติภารกิจในพื้นที่จังหวัดสงขลา โดยมีนายอำพล พงษ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายสรรเพชญ บุญญามณี ผู้ช่วยผู้ดำเนินงาน นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา นายภิรพล ลาภสาโรจน์กิจ อดีต สส.พรรค ปชป.เขต 2 สงขลา และผู้บริหารสำนักงานพรณิชย์จังหวัดสงขลา ร่งมให้การต้อนรับ ณ บริเงณทางออกท่าอากาศยานหาดใหญ่

ทั้งนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ได้ตอบคำถามที่สนามบินหาดใหญ่ในเรื่องที่นายกรัฐมนตรีเชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลหารือก่อนการประชุม ครม. เมื่อวานนี้ว่า ไม่มีคุยเรื่องรัฐบาลแห่งชาติ ซึ่งในความเห็นตนรัฐบาลแห่งชาติในโลกจะเกิดได้ก็ต้องอยู่ในภาวะสงครามหรือในภาวะวิกฤติที่ระบบปกติไม่มีทางไป แต่สำหรับสถานการณ์ประเทศเราขณะนี้ระบบรัฐสภายังเดินหน้าไปได้ตามปกติ จึงไม่เห็นความจำเป็นและไม่ทราบที่มาที่ไปของข่าว

ส่วนการหารือกับนายกรัฐมนตรีและพรรคร่วมเมื่อวานนั้นถือว่าเป็นสัญญานที่ดีเรื่องการแก้ รธน. เพราะมีความเห็นไปทางเดียวกันแล้ว ซึ่งสิ่งที่ตนเห็นว่าต้องเร่งทำต่อไปคือเร่งหารือและหาจุดร่วมกับวุฒิสมาชิก เพราะถ้า 3 ฝ่ายคือพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายค้าน วุฒิสมาชิก เห็นร่วมกันได้ รธน.ก็แก้ได้ โดยตนได้สั่งการให้กรรมาธิการของพรรคประชาธิปัตย์ได้ผลักดันอย่างเต็มที่ในการประชุมกรรมาธิการพิจารณาก่อนรับหลักการในช่วง 1 เดือนนี้ เพราะเป็นทั้งจุดยืนพรรคและนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล และให้สนับสนุนร่างแก้ไขของพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้าน ที่แก้ ม.256 ให้ตั้ง สสร. โดยไม่แตะหมวด 1 หมวด 2

“ส่วนความเห็นที่บางฝ่ายเห็นควรแก้ปัญหาปากท้องก่อนแก้ รธน.นั้น ตนเห็นด้วยว่าเรื่องปากท้องสำคัญมาก แต่การบ้านของประเทศมีหลายข้อและสามารถทำพร้อมกันไปได้ เพราะการแก้ปัญหาปากท้องเป็นหน้าที่รัฐบาล ส่วนการแก้ รธน. เป็นหน้าที่รัฐสภา ส่วนร่างแก้ รธน. ของไอลอว์นั้นยังต้องรอการบรรจุวาระก่อนจึงจะพิจารณาได้ เพราะฉะนั้นขณะนี้ถือว่าร่างที่กรรมาธิการพิจารณาก่อนรับหลักการจะต้องนำมาพิจารณายังมีแค่ 6 ร่าง” นายจุรินทร์กล่าว

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=60223