|

ทม.คอหงส์ จับมือ ศูนย์ป่าไม้สงขลา ร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรกรท้องถิ่น เดินหน้าปกปักเขาคอหงส์

D62168D6-F9E9-4EB2-A917-2B397C24190D

เทศบาลเมืองคอหงส์ ร่วมกับ ศูนย์ป่าไม้สงขลา จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือดำเนินงานอนุรักษ์ และใช้ประโยชน์ทรัพยากรท้องถิ่น เดินหน้าปกปัก อนุรักษ์เขาคอหงส์ให้อยู่คู่กับชาวหาดใหญ่ตลอดไป

วานนี้ (9 .. 63) ที่ ห้องประชุมพญาหงส์ (ชั้น 5) เทศบาลเมืองคอหงส์ .หาดใหญ่ .สงขลา เทศบาลเมืองคอหงส์ ร่วมกับ ศูนย์ป่าไม้สงขลา จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือดำเนินงานอนุรักษ์ และใช้ประโยชน์ทรัพยากรท้องถิ่น โดยมีนายฉลอง พัฒโน รองนายกเทศมนตรีเมืองคอหงส์ พร้อมด้วย นายชาญชัย  กิจศักดาภาพ ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้สงขลา ร่วมลงนาม และมีผู้ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน

0E6CB2A1-EB4A-4E5B-B6AD-515655B25CA9

นายฉลอง พัฒโน รองนายกเทศมนตรีเมืองคอหงส์ กล่าวว่า เทศบาลเมืองคอหงส์ รับสนองพระราชดำริโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หรือ (อพ.สธ.) งานฐานทรัพยากรท้องถิ่น มาตั้งแต่ปี2562 และได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทั้งในพื้นที่ชุมชน พื้นที่ป่าปกปัก เพื่อสำรวจฐานทรัพยากรท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นพืช สัตว์ ชีวภาพภูมิปัญญา วิถีชีวิต ประเพณีวัฒนธรรม และการค้นหาประวัติบ้าน สำหรับการบันทึกข้อมูลเพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในด้านการอนุรักษ์ ปลูกรักษา และพัฒนาต่อยอด ไปสู่การสร้างอาชีพ ศูนย์การเรียนรู้ แหล่งท่องเที่ยว อันเกิดประโยชน์แท้แก่คนในท้องถิ่น โดยดำเนินการในพื้นที่ 30 ชุมชนของเทศบาลเมืองคอหงส์ และพื้นที่ป่าปกปัก ซึ่งยังคงทำการสำรวจฐานทรัพยากร ไม่ว่าจะเป็นป่าปกปักพุทธอุทยาน สำนักสงฆ์สัจจธรรมบ้านในไร่ ป่าปกปักทรัพยากรเขาคอหงส์ หลัง มทบ.42 ค่ายเสนาณรงค์ ซึ่งเป็นพื้นที่ทหาร แต่ก็ให้ความสำคัญในด้านการอนุรักษ์ และในปีนี้จะใช้พื้นที่สันเขาคอหงส์เป็นพื้นที่ป่าปกทรัพยากรแหล่งที่ 3

นอกจากนี้ ในส่วนของงานอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ได้ดำเนินการจัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติ หรือเส้นทางท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยจัดทำเป็นสถานีการเรียนรู้ จำนวน 5 สถานี ตามแนวสันเขาคอหงส์ จะดำเนินกิจกรรมให้ความรู้ร่วมกับศูนย์ป่าไม้สงขลา และโดยเฉพาะสถานีที่ 5 คนพึ่งป่า ป่าพึ่งคน เป็นสถานีเรียนรู้เรื่องการสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรท้องถิ่นให้แก่เยาวชน ประชาชนผู้สนใจอยู่ในพื้นที่ของศูนย์ป่าไม้สงขลาด้วยเช่นกัน และการทำข้อตกลงในวันนี้ เทศบาลต้องขอขอบคุณทางศูนย์ป่าไม้สงขลาที่เห็นความสำคัญ และให้การอนุเคราะห์และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานโครงการ อพ.สธ. งานฐานทรัพยากรท้องถิ่น โดยจะใช้พื้นที่เป็นศูนย์การเรียนรู้ จัดนิทรรศการ และฝึกอบรม ทั้งยังเป็นแหล่งนันทนาการให้แก่ประชาชน ผู้มีใจอนุรักษ์ อันจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่พื้นที่อย่างยั่งยืนต่อไป

264D5A51-208A-4434-94F1-AC98A276E134

ด้าน นายชาญชัย  กิจศักดาภาพ ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้สงขลา กล่าวว่า กระผม กรมป่าไม้รู้สึกดีใจ ภูมิใจ และต้องขอขอบคุณความตั้งใจของเทศบาลเมืองคอหงส์ ในการที่จะอนุรักษ์พื้นที่สีเขียวอย่างเขาคอหงส์ ให้คงอยู่อย่างสมดุล ผสมผสานกับการใช้ประโยชน์พื้นที่ในเชิงอนุรักษ์ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนสืบต่อไป และเมื่อดำเนินการร่วมกับโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หรือ (อพ.สธ.) งานฐานทรัพยากรท้องถิ่นแล้ว ยิ่งมั่นใจว่าจะสามารถปกปัก รักษา และดูแลพื้นที่ได้ดีมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน และประเทศชาติอย่างสมดุล และยั่งยืนแน่นอน

กรมป่าไม้เองต้องทำหน้าที่ทั้งปกปัก ปกป้อง อนุรักษ์ ฟื้นฟู และส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้ทุกพื้นที่ในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นการสร้างความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์ และการพัฒนาเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศชาติ ด้วยการสร้างเครือข่าย และเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแล รักษาป่าไม้ในท้องถิ่นมากขึ้น โดยสร้างความเข้าใจให้กับพี่น้องประชาชนในการใช้ประโยชน์ และดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้ ซึ่งรวมไปถึงสิ่งที่มีคุณค่าของพื้นที่ป่า ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ป่า พันธุ์พืชหรือความหลากหลายทางชีวภาพ ที่มีค่าหาได้ยากของป่านั้นๆ ให้ถูกต้องเป็นไปตามหลักวิชาการป่าไม้ จากที่กล่าวไปแล้วข้างต้น เราจะเห็นแล้วว่าเทศบาลมีความตั้งใจที่จะทำกิจกรรมอนุรักษ์เขาคอหงส์ และใช้เป็นกิจกรรมการศึกษาเชิงนิเวศน์ รวมทั้งเชื่อมโยงสถานที่สำหรับจัดทำเป็นศูนย์การเรียนรู้ทรัพยากรของเขาคอหงส์ เพื่อสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ให้แก่เยาวชน หรือประชาชนผู้สนใจรวมไปจนถึงการจัดกิจกรรมค่ายต่างๆ ซึ่งทางศูนย์ป่าไม้สงขลาเอง ก็มีทั้งสถานที่ และมีบุคลากรที่พร้อมจะปฏิบัติงานร่วมกับเทศบาลเมืองคอหงส์ ซึ่งจะเป็นการสร้างพันธมิตรในการดำเนินภารกิจการรักษาทรัพยากรธรรมชาติร่วมกัน สร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่พี่น้องประชาชน เยาวชน หรือบุคคลทั่วไปที่มีความสนใจ โดยเป็นการดำเนินการในรูปแบบงานอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ตามโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ หรือโครงการ อพ.สธ. อันเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน และจะได้ร่วมมือกันดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้ เพื่อให้เกิดความสมดุลและยั่งยืนสืบต่อไป

80155848-9793-4663-B5B4-B220F09078F40356AABD-A43A-4AF9-8046-C49CD32C9CE7

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=60559

แสดงความคิดเห็น

Share It

ความคิดเห็นล่าสุด

ข่าวมาใหม่

Find Us