ศิลปศาสตร์ ม.อ. จับมือ TFT ติดปีก นศ. อุตสาหกรรมการบิน รุ่นแรก พร้อมป้อนบัณฑิตคุณภาพสู่ตลาด
คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ร่วมกับ บริษัท ไทยไฟลท์เทรนนิ่ง จำกัด (บริษัทในกำกับของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)) เปิดตัวหลักสูตรน้องใหม่ “อุตสาหกรรมการบิน” พร้อมติดปีกแก่นักศึกษารุ่นแรกจำนวน 82 คน ชูจุดเด่นในการสร้างบัณฑิตพันธุ์ใหม่ และกำลังคนเพื่อตอบโจทย์ภาคการผลิตสู่อุตสาหกรรมอนาคต และผู้เรียนจะได้รับประกาศนียบัตรที่ผ่านการรับรองจากสถาบันการบินพลเรือน (CAAT) และ บริษัท ไทยไฟลท์เทรนนิ่ง จำกัด (บริษัทในกำกับของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)) เมื่อสำเร็จการศึกษารวมทั้งสิ้น จำนวน 8 ใบ
วันนี้ (6 พ.ย. 63) ที่ ห้องประชุมรพีพรรณ สุวรรณณัฐโชติ ชั้น 1 คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่จังหวัดสงขลา รศ.ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นประธานในพิธีติดปีกนักศึกษาหลักสูตรอุตสาหกรรมการบิน คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ รุ่นที่ 1 โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กานดา จันทร์แย้ม คณบดีคณะศิลปศาสตร์ พร้อมด้วย กัปตัน ดร.ธนะพัฒน์ ศิริจารุอนันต์ ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ บจก. ไทยไฟลท์เทรนนิ่ง จำกัด คณาจารย์บุคลากร นักศึกษา ตลอดจนผู้ปกครองเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กานดา จันทร์แย้ม คณบดีคณะศิลปะศาสตร์ กล่าวถึงบทบาทคณะฯ ในการตอบโจทย์ตลาดอุตสาหกรรมการบินและการบริการว่าคณะมีความมุ่งมั่นในการจัดการการศึกษาอย่างมีคุณภาพ และได้ร่วมกับ บริษัท ไทยไฟลท์เทรนนิ่ง จำกัดฯ ในฐานะพันธมิตรทางการศึกษาในการผลิตบัณฑิตเพื่อตอบโจทย์ คนรุ่นใหม่ มุ่งเน้นการเรียนการสอนที่เน้นปฏิบัติจริงที่ศูนย์ปฏิบัติการทางการบิน ณ สถานประกอบการที่ทันสมัย เป็นแห่งเดียวในภาคใต้ ตอบโจทย์ภาคการผลิตสู่อุตสาหกรรมอนาคต อีกทั้งยังมีแผนเปิดหลักสูตรประกาศนียบัตรสำหรับบุคคลทั่วไป เพื่อรองรับการทำงานในอุตสาหกรรมการบินและการบริการอีกด้วยในอนาคต
ด้าน กัปตัน ดร.ธนะพัฒน์ ศิริจารุอนันต์ ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ บจก. ไทยไฟลท์เทรนนิ่ง จำกัด กล่าวว่า โดยปกติแล้วอุตสาหกรรมการบินเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับความนิยมและถือเป็นความจำเป็นพื้นฐานในยุคปัจจุบัน ทั้งยังเป็นอุตสาหกรรมที่มีการจ้างงานในการให้บริการมากกว่า 10 ล้านตำแหน่งทั่วโลก ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 3.4 ของ GDP ทั่วโลก จากข้อมูลปีที่แล้ว มีผู้โดยสารเดินทาง 4.5 พันล้านคน จำนวน 100,000 เที่ยวบินต่อวัน ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา covid-19 เริ่มขึ้น ทำให้ความต้องการของผู้บริโภคเริ่มลดลงอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนและจนถึงขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อธุรกิจการบิน และความสามารถในการทำกำไรของอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งส่งผลทำให้การเดินทางด้วยเครื่องบินเปลี่ยนโฉมหน้าในอนาคตอันใกล้
กัปตัน ดร.ธนะพัฒน์ กล่าวต่อว่า จากข้อมูลของ Cirium Consulting ระบุว่าขณะนี้ ประมาณร้อยละ 64 จากจำนวนเครื่องบิน 26,000 ลำทั่วโลกที่ไม่ได้ใช้งาน เครื่องบินต้องทำการ Long Term Parking เมื่อไม่มีการใช้งาน เพื่อให้เครื่องบินบินขึ้นได้ตลอดเวลา เครื่องยนต์ของเครื่องบินจะต้องได้รับการ “active parking” ทุกๆ สิบวัน หลังจากนี้ ผ้าคลุมจะถูกถอดออกอีกครั้งเพื่อให้เครื่องยนต์และระบบไฮดรอลิกส์ได้ทำงาน ประเมินว่าค่าใช้จ่ายอาจสูงถึง 30,000 เหรียญต่อลำ เช่นเดียวกันกับพนักงานในอุตสากรรมการบินที่ต้องได้รับการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่องและเป็นรายจ่ายจำนวนมหาศาลถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำการบิน อันส่งผลอย่างรุนแรงทางลบต่อรายได้ ผลกำไรและสถานะการเงินของสายการบินต่างๆ เนื่องจากธุรกิจการบินเป็นธุรกิจที่มีการลงทุนสูง ในขณะที่การแข่งขันที่รุนแรงที่ผ่านมา ทำให้มีกำไร หรือ “Margin” ต่ำ
“มีการคาดการณ์ว่าธุรกิจการบินจะมีการปรับตัวอย่างมาก อย่างไรก็ตามการมีสายการบินยังคงมีความจำเป็นต่อการเดินทางภายในและระหว่างประเทศ แต่ก็จะต้องมีการลดค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปรับค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม ซึ่งจะเป็นการลดรายจ่ายอันดับแรกที่ทุกสายการบินจะต้องนำมาพิจารณา โดยให้มีการฝึกอบรมผ่าน Approve Training Organization ซึ่งถือเป็นการฝึกอบรมที่ได้มาตรฐานและ เป็นที่ยอมรับของ ICAO ดังนั้น นักศึกษาที่ได้รับการเรียนการสอนผ่าน Approved Training Organization จึงมีมาตรฐานระดับนานาชาติ และสามารถลดค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมให้กับอุตสาหกรรมการบินได้เป็นอย่างดี” กัปตัน ดร.ธนะพัฒน์กล่าว
Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=61320