|

‘สมพร ใช้บางยาง’ลั่นบนเวที ‘พี่หลวงคร’ “ต้องไม่ทุจริต”หากทุจริตจะสาปแช่งให้ฉิบหาย

ปก

นายสมพร ใช้บางยาง อดีตอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรกของทีมพี่หลวงคร เปิดใจ สาเหตุที่ตัดสินใจมาร่วมงานการเมืองท้องถิ่นกับ พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ประเด็นแรกต้องรวมพลังคนหาดใหญ่เพื่อพัฒนาหาดใหญ่ ประเด็นที่2 ไม่อิงพรรคการเมือง และประเด็นที่3 ต้องไม่ทุจริต หากทุจริตจะขอสาปแช่งให้ฉิบหาย

เมื่อวันที่ 19 ก.พ.64 ณ ลานหน้าหอนาฬิกาหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ท่ามกลางห้วงเวลาของการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ ที่จะตัดสินกันในวันที่ 28 มี.ค.2564 โดยสนามการแข่งขันเลือกตั้งแห่งนี้มีการแข่งขันกันถึง 5 ทีม ดังที่ได้มีการนำเสนอผ่านสื่อมากมายหลายช่องทาง 

วันนี้จะได้นำไปพบกับทีมพี่หลวงคร พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ เบอร์ 3 พร้อมผู้สนับสนุน ทีมบริหาร ผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาล(ส.ท.)นครหาดใหญ่ ทั้ง 24 คน ร่วมจัดเวทีปราศรัยเปิดตัวเป็นครั้งแรกในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ โดยมี พล.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ อดีตรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาร่วมให้กำลังใจหน้าเวที พร้อมด้วยนายสมพร ใช้บางยาง อดีตอธิบดีกรมส่งเสริมปกครองท้องถิ่นและอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ซึ่งท่านสมพรไม่ได้มาเพียงเพื่อให้กำลังใจ แต่มาเพื่อบอกกับชาวหาดใหญ่ว่าเขาได้ตัดสินใจเข้ามาร่วมงานกับ”ทีมพี่หลวงคร”ด้วยการรับตำแหน่งประธานที่ปรึกษา และร่วมขึ้นเวทีปราศรัยด้วย

โดยก่อนการเปิดเวทีปราศรัย “พี่หลวงคร” พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ได้มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงกรณีที่ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ผู้สมัครนายก อบจ.สงขลา ที่เพิ่งผ่านการเลือกตั้งมา ได้ร้องเรียนต่อ กกต.สงขลาให้ตรวจสอบคุณสมบัติของตนเองว่ากระทำผิดกฎหมายหรือไม่ ในกรณีรับตำแหน่งประธานที่ปรึกษานายก อบจ.ของทีมนายไพเจน มากสุวรรณ์ แต่ยังมาลงสมัครนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่อีก ซึ่งก็ได้มีการชี้แจงรายละเอียดพร้อมยืนยันว่าได้กระทำตามขั้นตอนทางกฎหมายถูกต้องทุกประการ มีการยื่นเอกสารการขอไม่รับตำแหน่งทั้งต่อนายก อบจ.และยื่นต่อ กกต.สงขลาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และตรงนี้มองว่าเป็นการดิสเครดิตทางการเมืองเพื่อช่วยคู่แข่งในสนามเลือกตั้งนครหาดใหญ่มากกว่า โดยตนเองพร้อมใช้สิทธิ์ทางกฎหมายให้ทนายฟ้องกลับต่อผู้ร้องเรียนเช่นกัน

สำหรับบรรยากาศบนเวทีปราศรัยครั้งแรกของ “ทีมพี่หลวงคร” มีประชาชนให้ความสนใจ รวมไปถึงกองเชียร์ที่แห่กันมาร่วมรับฟังในการปราศรัยครั้งนี้จนล้นพื้นที่ลานหน้าหอนาฬิกาหาดใหญ่ บนเวทีปราศรัยเริ่มด้วยการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ท.ทั้ง 4 เขต 24 คน ประเดิมด้วย ส.จ.หมี นายนิยม พรรณราย ผู้สมัคร ส.ท.เขต 1 และสมาชิกผู้สมัคร ส.ท.เขต1 ก้าวขึ้นเวทีทีละคน เมื่อขึ้นเวทีครบทั้ง 4 เขต ผู้สมัครในแต่ละเขตได้แนะนำตัวต่อผู้มาร่วมรับฟังการปราศรัย ท่ามกลางแฟนคลับที่มาร่วมให้กำลังใจและร่วมกันคล้องพวงมาลัยมอบดอกไม้กันอย่างเนืองแน่น

 รวมถึงมีการแนะนำตัวทีมบริหารที่จะมาร่วมทำงานให้กับทีมพี่หลวงคร อาทิ นายสัมฤทธิ์ บุญรัตน์ อดีต ส.ท.และอดีตรองนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ นายเจษฎาพงษ์ ชูแก้ว (ส.จ.รักษ์)อดีต ส.จ.สงขลา  นายอาหมัด เบ็ญอาหลี อดีตรอง ผอ.สพป.สงขลาเขต2  ทั้งนี้ยังมี พล.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ อดีตรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ขึ้นเวทีมาร่วมให้กำลังใจและกล่าวขอแรงสนับสนุนให้กับทีมพี่หลวงคร ตามมาด้วย นายสมพร ใช้บางยาง ที่ตัดสินใจรับตำแหน่งประธานที่ปรึกษา ซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิตที่รับปากทำงานการเมือง 

นายสมพร ใช้บางยาง กล่าวบนเวทีการปราศรัยของพี่หลวงคร ว่า การจะทำให้เมืองหาดใหญ่กลับมาเฟื่องฟูได้ลำพังแค่ท่านสาครกับบรรดาผู้ที่อาสาเข้ามา ไม่สามรถที่จะนำพาหาดใหญ่ให้กลับมาเฟื่องฟูเหมือนในอดีตได้ จะต้องอาศัยพลังของคนหาดใหญ่ทุกคน ที่จะมาร่วมกันคิด ร่วมกันปฏิบัติ ร่วมกันรับผิดชอบ ร่วมกันแก้ไข และร่วมกันภาคภูมิใจ ท่านสาครต้องนำเอาคนหาดใหญ่จากทุกภาคส่วนมาร่วมบูรณาการ ในการพัฒนาเมืองหาดใหญ่นั่นคือประการแรก  ประการที่2 ท่านต้องคิดถึงประโยชน์ของส่วนรวม ไม่ใช่คิดแต่ประโยชน์ส่วนตน กลุ่มพรรคพวก เข้ามาแสวงหาประโยชน์อันมิชอบ พูดกันตรงๆ ไม่เข้ามาโกงถ้าเข้ามาโกงตัวเองจะไม่เอาด้วย และไม่ใช่แค่ไม่เอาด้วย จะแช่งให้ฉิบหายเพราะเรื่องทุจริตตลอดชีวิตราชการของตนเองไม่เคยมี ทุกคนที่อยู่ที่นี้จะเป็นพยาน และจะไม่โกง 

ประการที่ 3 ตัวเองบอกว่าไม่ชอบยุ่งกับการเมืองใหญ่หรือพรรคการเมือง การพัฒนาเมืองหาดใหญ่ควรเป็นเรื่องของคนหาดใหญ่ที่จะรวมพลังกัน ขอร้องอย่าไปสังกัดพรรคการเมือง เมื่อตรงกับความต้องการของท่านสาครตนเองจึงตอบรับที่จะมาเป็นประธานที่ปรึกษาให้ เพื่อนำพาหาดใหญ่ให้กลับไปเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองรุ่งโรจน์เป็นเมืองหลักของภาคใต้เหมือนในอดีตที่ผ่านมา

ข่าวต่อ

นอกจากนี้แล้วยังพิจารณาเห็นว่าทีมงานของท่านสาครกับทีมงานของท่านไพเจน ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากชาวสงขลาให้เข้าไปทำหน้าที่ในตำแหน่ง นายก อบจ.สงขลา เป็นทีมงานเดียวกัน ซึ่ง อบจ.เป็นแม่ใหญ่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของจังหวัดสงขลา มีงบประมาณไม่น้อย สามารถจะมาร่วมจับไม้จับมือส่งเสริมให้หาดใหญ่พัฒนาขึ้นมาเป็นเมืองหลักของภาคใต้ได้อย่างรวดเร็วได้ และนี่คือเหตุผลที่ตนเองตัดสินใจขึ้นมาเคียงบ่าเคียงไหล่กับท่านสาครและทีมงานในการที่จะเปลี่ยนหาดใหญ่ไปสู่ความรุ่งโรจน์ ไปสู่เมืองหลักของภาคใต้เช่นอดีตและจะรุ่งเรืองยิ่งกว่าอดีตที่ผ่านมา

หลังจากนั้น พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ผู้สมัครรับเลือกนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ ได้ขึ้นเวทีปราศรัย โดยเน้นย้ำนโยบายก้าวขยับปรับเปลี่ยนเมือง เพื่อคุณภาพชีวิตของคนหาดใหญ่ ซึ่งต้องปรับแก้ จัดระบบ ปรับทิศทาง ให้นครหาดใหญ่เป็นเมืองที่เจริญและน่าอยู่ โดยปรับโครงสร้างพื้นฐาน ส่งเสริมการค้าในหลายรูปแบบ เข้าถึงเทคโนโลยี สร้างแลนด์มาร์ค เพื่อการท่องเที่ยว ทำให้หาดใหญ่กลับมาเป็นเมืองค้าขาย น่าลงทุน เพื่อเป็นรากฐานไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลานต่อไป พร้อมฝากย้ำเลือกนายก กาเบอร์ 3 และผู้สมัคร ส.ท.เขต 1,2,3 เบอร์ 13-18 และเขต 4 เบอร์ 14-19 

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=63985

แสดงความคิดเห็น

Share It

ความคิดเห็นล่าสุด

ข่าวมาใหม่

Find Us