|

‘นิพนธ์’ลงพื้นที่ มอบนโยบายเร่งรัดขจัดความยากจนภาคใต้ ชงจังหวัดจับมือ อปท.ปรับแผนดันงบประมาณ

FBCCB209-96A3-495A-B771-394E41BE5A24

นิพนธ์ลงพื้นที่ มอบนโยบายเร่งรัดขจัดความยากจนภาคใต้ ชงจังหวัดจับมืออปท.ปรับแผนดันงบประมาณ กับดักความยากจนคือกลไกซ้ำเติมที่ทำให้คนจนลืมตาอ้าปากได้ยาก

          เมื่อเวลา 11.00 . วันที่ 3 มีนาคม 2565  ที่โรงแรม บุรีศรีภู คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์.หาดใหญ่ .สงขลา  นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเข้าร่วมพิธีเปิดและมอบนโยบายและแนวทางขับเคลื่อนศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง(ศจพ.) ในระดับพื้นที่  โดยมี พล..อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย ปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดีทุกกรมในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงมหาดไทย ข้าราชการในสังกัดกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนในพื้นที่ ฯลฯ เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ด้วย

            โดยกระทรวงมหาดไทย ได้ดำเนินการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อซักซ้อมแนวทางการขับเคลื่อนศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) ในระดับพื้นที่  เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในการจัดทำฐานข้อมูล การบันทึกข้อมูล และการสนับสนุนการขับเคลื่อนงานในระดับพื้นที่ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาความยากจน โดยการบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศในทุกมิติได้อย่างแท้จริง

3CF822D1-5522-401B-A3AB-69D112AE28E0             นายนิพนธ์ กล่าวว่า กับดักความยากจนคือกลไกซ้ำเติมที่ทำให้คนจนลืมตาอ้าปากได้ยาก ภารกิจนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากและท้ายทายความสามารถ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การมีข้อจำกัดในเรื่องของงบประมาณ ทั้งยังต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับเงื่อนเวลา ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินการดังกล่าว รัฐบาล กระทรวงมหาดไทย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่านนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาโดยตลอด ทั้งนี้ ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยได้เร่งรัดแก้ไขปัญหาดังกล่าวผ่านกลไกของหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงภาคประชาชน ซึ่งได้บูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของกระทรวงมหาดไทยก็มีการสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อนการดำเนินงานตั้งแต่ระดับจังหวัด อำเภอ จนลงไปสู่ท้องที่ท้องถิ่น เพื่อขับเคลื่อนและหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน

             ตนมองว่า ในการแก้ไขปัญหาขจัดความยากจน ลดความความเหลื่อมล้ำให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมได้นั้น ท้องถิ่นท้องที่เป็นกลไกสำคัญของกระทรวงมหาดไทยที่ต้องบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้แก่พี่น้องประชาชน หากมีการบูรณาการการทำงานร่วมกัน จังหวัดโดยผู้ว่าราชการจังหวัด อำเภอโดยนายอำเภอ สามารถประสานความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ได้ อาจจะใช้โอกาสการประชุมประจำเดือนหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นวาระพิเศษ ในการพูดคุย ปรับแผนพัฒนาท้องถิ่น โดยใช้สัดส่วนงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แบ่งสัดส่วนโครงสร้างมาดูแลในส่วนนี้ ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์และนโยบายการขจัดปัญหาความยากจน ซึ่งในปัจจุบันกระทรวงมหาดไทยได้มีการแก้ไขกฎหมายหลายๆ ฉบับ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความคล่องตัวในการดูแลพี่น้องประชาชนมากขึ้น เชื่อว่าจะทำให้สามารถทำงานได้ง่ายขึ้น            E1D42600-FA30-4FA2-8B47-7C04D04C28CB               นายนิพนธ์ กล่าวต่อไปอีกว่า ตนในฐานะประธานคณะทำงานช่วยอำนวยการพิจารณากลั่นกรองแผนงานโครงการ .... ภาคใต้และภาคใต้ชายแดน  ทราบดีว่างบประมาณที่ได้รับการจัดสรรลงมานั้น ได้รับการจัดสรรลงมาอย่างจำกัด ทั้งนี้ ในส่วนของงบพื้นที่หรืองบประมาณบริหารจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ งบฟังก์ชั่นของกระทรวงต่างๆ เชื่อว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถบริหารได้ แต่สิ่งที่อยากเน้นย้ำคือ การประสานความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น วางแผนร่วมกันในการดึงงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกมาใช้เพื่อตอบสนองต่อความต้องการและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด ซึ่งหากสามารถนำงบประมาณในส่วนนี้มาปรับใช้ได้อย่างทันท่วงที ก็จะเป็นนิมิตหมายใหม่ในการพัฒนาประเทศต่อไป

               นายนิพนธ์ กล่าวต่อว่า ตนเชื่อว่าไม่ใช่เฉพาะพื้นที่ภาคใต้ที่ควรให้ความสำคัญและเร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหา หากแต่ควรเกิดขึ้นในทุกๆ ภูมิภาคของประเทศ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้แต่อย่างใด และพร้อมดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เน้นย้ำการลงพื้นที่ไปคลุกคลีกับชาวบ้านเรื่องเรื่องสำคัญเพราะถือเป็นจุดเชื่อมระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับพี่น้องประชาชน หากสามารถรับสารจากพื้นที่ขึ้นมาแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด ก็จะเกิดเป็นผลรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เพราะการดำเนินการในเรื่องดังกล่าว นอกจากจะเป็นการลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยแล้วนั้นยังเป็นการช่วยสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนในพื้นที่และสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในสังคมอย่างเป็นรูปธรรมอีกด้วย พร้อมกล่าวทิ้งท้าย ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกหน่วย ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง พร้อมฝากข้อคิดให้เบ็ด ดีกว่าให้ปลาถ้าท่านให้ปลาใครหนึ่งตัว เขามีกินแค่หนึ่งวัน แต่ถ้าสอนเขาจับปลา เขาจะมีกินตลอดชีวิต เน้นแก้ไขปัญหาความยากจนให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน ประชาชนยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง

            ต่อจากนั้น ในช่วงบ่าย ได้ร่วมกับคณะเดินทางไปยังวัดคลองแห ร่วมกิจกรรมคืนคลองสวย น้ำใส ให้คลองแหชมนิทรรศการการแก้ไขและพัฒนาคลองแห ซึ่งคลองแห่งนี้ปัจจุบันเป็นตลาดการท่องเที่ยว ตนในฐานะกำกับดูแลองค์การจัดการน้ำเสีย (อจน.) จึงได้ถือโอกาสนี้เดินสำรวจสภาพน้ำในปัจจุบัน พร้อมได้ร่วมกิจกรรมโยนEM Ball หรือ ตัวการทำน้ำเน่า เพื่อช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศ รักษาสภาพความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ พร้อมกันนี้ ได้เชิญชวนพี่น้องประชาชนที่อยู่ริมฝั่งคลอง ร่วมแรงร่วมใจกันดูแลรักษาคุณภาพของน้ำก่อนที่จะปล่อยลงมายังคลองแห เข้าสู่กระบวนการบำบัดและปล่อยลงสู่แหล่งน้ำ

            หลังจากนั้น ได้เดินทางต่อไปยังบ้านของนางจาง ทองเด็จ ในพื้นที่ .รัตภูมิ เพื่อตรวจเยี่ยมครัวเรือนตกเกณฑ์ตามโครงการฯ โดยได้ร่วมมอบบัตรประชาชนให้แก่นายทวี ไชยช่วย สามีของนางจาง ทองเด็จ และมอบถุงยังชีพให้แก่ครอบครัวของนางจางทองเด็จ พร้อมพบปะผู้นำชุมชน ส่วนราชการในพื้นที่ ในลำดับถัดไป

Short URL: http://www.samilatimes.co.th/?p=70542

แสดงความคิดเห็น

Share It

ความคิดเห็นล่าสุด

ข่าวมาใหม่

Find Us